บลูมเบิร์ก – สำนักงานสำรองแห่งชาติจีนอาจต้องเข้าซื้อยางธรรมชาติจากตลาดภายในประเทศถึง 80,000 เมตริกตัน เพื่อกระตุ้นราคายาง หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ชะลอตัว ทำให้ความต้องการยางรถยนต์ในจีนซึ่งเป็นประเทศที่ต้องการใช้ยางมากที่สุดในโลกลดลงตามไปด้วย
“เราทราบว่าขณะนี้สำนักงาน ฯ ได้เริ่มซื้อยางเมื่อเร็วๆนี้ และคาดว่าจะมีการซื้อยางระหว่าง 50,000- 80,000 เมตริกตัน ซึ่งเราต้องการเห็นคลังสำรองยางของรัฐบาลมีปริมาณมากกว่านี้” ฟั่น เหรินเต๋อ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมยางระบุ ขณะที่จำนวนยางในคลังสำรองมีมากถึง 14 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตยางทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว
ยอดจำหน่ายรถยนต์ของจีนในปีที่แล้วขยายตัวในระดับน้อยที่สุดในรอบ 10 ปี จึงส่งผลกระทบต่อความต้องการผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ ขณะที่รัฐบาลได้ช่วยซื้ออลูมิเนียม สังกะสี ฝ้าย และธัญพืชต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (585,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งรวมถึงโครงการสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่างๆ ขณะที่ราคายางร่วงถึง 52 เปอร์เซนต์ในปีที่แล้ว
“รัฐบาลจีนค่อนข้างเป็นผู้ซื้อเชิงรุก เราได้ยินมาว่ารัฐบาลเข้าซื้อยางทุกวัน ซึ่งคือเหตุผลว่าทำไมราคายางจึงได้รับการสนับสนุน” มาซามิ อาราทาเกะ นักลงทุนจากนิวเอดจ์ แจแปน อิงค์ กล่าว
บลูมเบิร์กรายงานคำสัมภาษณ์ของฟั่น เหรินเต๋อว่า ในปีนี้การบริโภคยางธรรมชาติในจีนอาจขยายตัวที่ร้อยละ 4.7 เป็นจำนวน 2.65 ล้านตัน จากระดับ 2.53 ล้านตันเมื่อปีก่อนหน้า ซึ่งขยายตัวลดลงจากปีก่อนหน้าร้อยละ 7.7
ภาคส่งออกที่ชะลอตัว
“ผู้ใช้ยางชาวจีนได้รับผลกระทบจากภาคส่งออกที่ทรุดตัวอย่างรุนแรง และอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ชะลอตัวตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว เนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินโลก” ฟั่นระบุ
โดยยางรถยนต์คิดเป็น 70 เปอร์เซนต์ของผลิตภัณฑ์ยางที่ผลิตในประเทศจีน และคิดเป็นเกือบ 50 เปอร์เซ็นต์ ของยางที่ส่งออกทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ราคายางได้ปรับตัวลดลงขณะที่วิกฤตการเงินโลกทำให้ประเทศที่มีเศรษฐกิจอันดับสามของโลกอย่างจีนต้องประสบปัญหาภาวะชะลอตัว นำไปสู่การใช้วัตถุดิบที่ลดลง
ยอดจำหน่ายรถยนต์ของจีนในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัวที่ร้อยละ 25 คิดเป็น 827,600 คัน นับเป็นครั้งแรกที่กระเตื้องขึ้นหลังจากทรุดหนักในรอบ 4 เดือน โดยสมาคมผู้ผลิตรถยนต์แห่งชาติจีนเผยเนื่องจากมาตรการลดภาษีในเครื่องยนต์บางรุ่นที่รัฐบาลประกาศใช้เริ่มสำแดงผล
ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วราคายางตกต่ำเนื่องจากเศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งผลให้ความต้องการซื้อยางลดลง ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ผลิตยางรายใหญ่สุดของโลก อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งผลิตยางธรรมชาติรวมกันมากถึง 70% ของปริมาณการผลิตยางทั่วโลก ต่างวางแผนที่จะลดการซัปพลายยางลง 10% ในปีนี้ เพื่อกระตุ้นราคา โดยนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ให้สัมภาษณ์นักข่าวในเมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตงว่า “เราตั้งใจให้ซัปพลายยางโลกลดลง 900,000 ตัน เหลือ 8.12-8.15 ล้านตัน”
“ปีนี้เราไม่สามารถส่งออกยางปริมาณมากไปยังญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้” เนื่องจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำส่งผลให้ความต้องการวัตถุดิบลดลง แต่อย่างไรก็ตามนายสมชายยืนยันว่ายังสามารถเพิ่มการส่งออกไปยังจีนได้อยู่