xs
xsm
sm
md
lg

บริดจสโตนไม่ย้ายฐานปรับแผนรับมือการเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ผลิตยางรถยักษ์ใหญ่ “บริดจสโตน” รับกังวลปัญหาการเมืองวุ่นวายรุนแรง เตรียมพร้อมรับมือตลอดเวลา แต่ยืนยันไม่ย้ายฐานการผลิต และเดินหน้าลงทุนในไทยต่อเนื่อง ล่าสุดทุ่ม 130 ล้านบาท เปิดศูนย์โรงงานผลิตยางหล่อดอก และปีนี้ลงทุนอีก 3 โครงการ โรงงานผลิตชิ้นส่วนยางหล่อดอก ที่จังหวัดชลบุรี ขยายกำลังการผลิตโรงงานหนองแค และสร้างโรงงานไฟฟ้าใช้ที่โรงงานรังสิต รองรับเศรษฐกิจฟื้น การผลิตกลับมาเป็นปกติ และโครงการอีโคคาร์ของบริษัท

นายมาซาฮิโระ ฮิกาชิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ผู้ผลิตยางรถยนต์บริดจสโตนในประเทศไทย และเป็นบริษัทในเครือของบริดจสโตน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ธุรกิจยางรถยนต์ในปีที่ผ่านมาตกลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และความผันผวนทางการเมืองในไทย นับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2551 เป็นต้นมา

“แต่ทิศทางตลาดยางรถยนต์กลับมาปรับตัวดีขึ้นอีกครั้ง ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2552 และเชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง และทำให้ยอดการผลิตยางรถยนต์ในไทยกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง ดังจะเห็นได้จากการที่บริษัทรถยนต์ได้มีการผลิตรถยนต์เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออก ทำให้ ในปีนี้เราไม่เป็นห่วงในเรื่องของยอดการผลิตเท่าไหร่”

ทั้งนี้สิ่งที่บริดจสโตนกังวลมากที่สุด เห็นจะเรื่องความผันผวนทางการเมืองในไทยปัจจุบัน ส่วนเรื่องปัญหามาบตะพุดเป็นเรื่องที่ผู้เกี่ยวข้องจะกำหนดให้ชัดเจน เพื่อให้นักลงทุนได้ปฏิบัติตาม น่าจะคลี่คลายได้ไม่ยาก แต่เรื่องการเมืองไทยในปัจจุบันสร้างความสับสนให้กับนักลงทุนต่างชาติมาก และแม้แต่คนไทยด้วยกันเองไม่รู้ผลสรุปจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนต่างชาติดคาดหวังมากที่สุด ย่อมอยากให้การเมืองมีเสถียรภาพมั่นคง เพื่อที่จะดำเนินธุรกิจได้อย่างไม่มีกังวัล และสามารถวางนโยบายการลงทุนระยะยาวได้ต่อเนื่อง

นายฮิกาชิกล่าวว่า แต่หากสถานการณ์ทางการเมืองมีความรุนแรง ไม่ว่าจะเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนถึงการปิดสนามบินเช่นที่ผ่านมา ย่อมส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของนักลงทุนในไทย แม้จะยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนในขณะนี้ บริดจสโตนก็ต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เสียหายต่อธุรกิจและองค์กรทั้งหมด

“อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าบริดจสโตนคิดถึงเรื่องย้ายฐานการผลิตไปจากไทย เพียงแต่เรามองปัญหาที่เกิดขึ้นในระยะสั้นว่า จะต้องดำเนินการอะไรบ้างไม่ให้กระทบถึงธุรกิจ และบุคลากรในปัจจุบัน ส่วนในระยะยาวสถานการณ์จะเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเรื่องของเศรษฐกิจ หรือการเมือง คงต้องมาพิจารณากันเป็นสเต็ปต่อไป แต่นโยบายของบริดจสโตนยังคงจะขยายธุรกิจในไทยอย่างต่อเนื่อง” นายฮิกาชิกล่าวและว่า

โดยจะเห็นจากล่าสุดบริดจสโตนได้ลงทุนเปิดศูนยางหล่อดอก “บริดจสโตน แบนแดก” (Bridgestone Bandag) สำหรับยางรถยนต์บรรทุก ที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี ติดกับโรงงานผลิตยางรถยนต์บริดจสโตนหนองแค โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 130 ล้านบาท โดยเบื้องต้นมีกำลังการผลิตประมาณ 1 พันเส้นต่อปี

สำหรับวัตถุประสงค์ในการเปิดศูนย์ยางหล่อดอกบริดจสโตนแบนแดก เพื่อรองรับนโยบายในการรักษาสิ่งแวดล้อมของบริดจสโตน โดยการนำยางเก่ามาใช้ใหม่ และยังเป็นการช่วยลดต้นทุนให้กับผู้บริโภค เนื่องจากเป็นการนำยางเรเดียลเก่ามาหล่อดอกใหม่ ทำให้ผู้บริโภคสามารถลดต้นทุนจากการที่ต้องซื้อยางใหม่ได้ถึง 40-60% ขณะที่ปลอดภัยจากการใช้ยางเก่าที่นำหล่อดอกใหม่ เพราะมีสภาพแทบจะไม่แตกต่างจากยางรถใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของแบนแดกผู้ผลิตยางหล่อดอกจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก และบริดจสโตนได้ซื้อกิจการมาทั้งหมด

นายฮากาชิกล่าวว่า ตลาดยางหล่อดอกในไทยมีอัตราขยายตัวสูงมาก ปัจจุบันมีปริมาณแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 5 แสนเส้น และมีโรงงานยางหล่อดอกมากกว่า 100 แห่ง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นของร้านเถ้าแก่ ศูนย์ยางหล่อดอกบริดจสโตนแบนแดกนับเป็นของแบรนด์ผู้ผลิตแห่งแรกในไทย ทำให้มีมาตรฐานในเรื่องของคุณภาพและความปอลดภัย ขณะที่ราคาไม่ได้แพงกว่าแต่อย่างใด ทำให้เชื่อว่าจะสามารถเข้ามาสอดแทรกในตลาดได้ และวางแผนจะเปิดเป็นศูนย์แฟรนไชส์ด้วย

ทั้งนี้ในการผลิตยางหล่อดอกบริดจสโตนแบนแดก เบื้องต้นจะใช้วัตถุดิบจากในประเทศ และมีนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาในส่วนของยางประสานระหว่างยางเก่าและดอกยาง แต่ในเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้จะเปิดโรงงานผลิตยางประสานที่จังหวัดชลบุรี ส่วนรายละเอียดต่างๆ คงยังไม่สามารถเปิดเผยได้ขณะนี้

“จากการลงทุนเปิดศูนย์ยางหล่อดอกและโรงงานผลิตชิ้นส่วนของบริดจสโตน แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นที่จะลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายธุรกิจของบริดจสโตนในไทยให้ครอบคลุมและครบวงจร เช่นเดียวกับการผลิตยางรถยนต์ของบริดจสโตน ที่จะมีการลงทุนขยายกำลังการผลิตที่โรงงานบริดจสโตน อำเภอหนองแค และสร้างโรงไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานรังสิต จังหวัดปทุมธานี”

สำหรับการลงทุนทั้งสองโครงการเพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต ไม่ว่าจะมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และโครงการอีโคคาร์ของบริษัทรถยนต์ โดยการขยายไลน์ผลิตที่โรงงานหนองแข จะทำให้กำลังการผลิตยางรถยนต์จากเดิมวันละ 3 หมื่นเส้นต่อวัน เพิ่มเป็น 3.6 หมื่นเส้นต่อวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น