เพศสัมพันธ์แพร่เอดส์ในปักกิ่ง หญิงขายบริการเมินถุงยาง

ไชน่าเดลี – กรุงปักกิ่งนิ่งเฉยไม่ได้แล้ว เร่งรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัยด่วนจี๋ หลังจากพบว่าเพศสัมพันธ์คือสาเหตุหลักของการแพร่ระบาดเอดส์ในเมืองหลวง แต่หญิงขายบริการกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวน 90,000 คนที่นี่ไม่เคยขอให้ลูกค้าใช้อุปกรณ์ป้องกันนี้เลย

นายฟาง ไล่อิง หัวหน้าสำนักงานสาธารณสุขของเทศบาลกรุงปักกิ่งระบุว่า มีหญิงขายบริการเพียงร้อยละ 46.5 เท่านั้น ที่ขอให้ลูกค้าใช้ถุงยางอนามัย

นอกจากนั้น การมีเพศสัมพันธ์กลายเป็นสาเหตุหลักของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสเอชไอวี/โรคเอดส์ในเมืองหลวงไปแล้วในปัจจุบัน โดยมีอัตราถึงร้อยละ 54.6 ของการติดเชื้อจากเดิมที่แพร่ระบาดผ่านการใช้เข็มฉีดยาเสพติดเป็นหลัก

จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งมีผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์ ที่พบจำนวน 5,635 ราย โดยร้อยละ 21 เป็นผู้อาศัยในเมืองหลวง, ร้อยละ75.1 ไม่ใช่ผู้อาศัยในเมืองหลวง และร้อยละ3.9 เป็นชาวต่างประเทศ

มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์รายแรกในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2528

ในช่วงสิบเดือนแรกของปีนี้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 755 ราย ลดลงราวร้อยละ 22 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยในจำนวนนี้ 219 คนเป็นชาวต่างชาติ

แนวโน้มที่น่าตระหนกอีกประการหนึ่งก็คือ ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงไม่สูงนัก กลับพบการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากมีการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์เพิ่มมากขึ้น

ในช่วงระหว่างปี 2547-2550 การติดเชื้อผ่านทางเพศสัมพันธ์เพิ่มจากร้อยละ25 เป็นร้อยละ 42 และในปีนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่อีกครั้งถึงเกือบร้อยละ55

“อัตราการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวี และโรคเอดส์ในหมู่พวกรักร่วมเพศได้ขยายตัวอย่างมาก” นายฟางกล่าว

ผลการศึกษาพบว่า อัตราการติดเชื้อในหมู่พวกรักร่วมเพศเพิ่มจากร้อยละ 0.5 ในปี 2547 ถึงร้อยละ 5.5 ในปีนี้

ด้านสำนักงานสาธารณสุขเทศบาลกรุงปักกิ่งได้ตัดสินใจส่งเสริมการแจกถุงยางอนามัยตามแหล่งสาธารณะทุกแห่ง

นอกเหนือจาก 22,000 จุด ที่ได้มีการแจกถุงยางอนามัยฟรีแล้ว ทางสำนักงานยังมีแผนขยายไปยังโรงแรม, ร้านอาหารและสถานตากอากาศทั้งหมดในกรุงปักกิ่งภายในสิ้นปีอีกด้วย

ปัจจุบัน กรุงปักกิ่งมีเครื่องขายถุงยางอนามัยอัตโนมัติแล้ว 3,000 เครื่อง โดยจะมีการติดตั้งเพิ่มตามสถานบันเทิงทั้งหมด เช่น ไนต์คลับ, ดิสโก้เธค, บาร์คาราโอเกะ และสถานอาบอบนวด

นอกจากนั้น ยังจะมีการติดตั้งในเขตก่อสร้าง ซึ่งมีคนงานตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป โดยทางสำนักงานสาธารณสุขเริ่มการรณรงค์มาตั้งแต่ต้นปี เพื่อให้แรงงานอพยพตระหนักถึงภัยเอดส์ และแนะนำวิธีป้องกัน

จากรายงานของยูเอ็นเอดส์เมื่อ2-3 เดือนก่อน ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีบวกในจีนประมาณ 700,000 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ราว 85,000 ราย