น่าห่วง! สถิติโจ๋ไทยใช้ “ถุง” ต่ำ สธ.เร่งชูแนวคิด “รักจึงป้องกัน”

สธ.รณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาโรคเอดส์โดยใช้แนวคิดกระบวนการตลาดเชิงสังคม มุ่งเน้นวัยรุ่น รู้เท่าทัน ภายใต้แนวคิดเพราะรักจึงต้องป้องกัน รู้จักความรักที่แท้จริง เป็นรักที่บริสุทธิ์เหมือนพ่อแม่รักลูก

วันนี้ (31 สิงหาคม) ที่ศูนย์การค้าแปซิฟิกปาร์ค บริเวณห้างสรรพสินค้าโรบินสันศรีราชา จังหวัดชลบุรี นพ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดกิจกรรมรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ “Love is to Protect เพราะรัก จึงต้อง...ป้องกัน” ซึ่งเป็นกิจกรรมหนึ่งของการรณรงค์ป้องกันแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่จัดขึ้นสำหรับเยาวชนและวัยรุ่น

นพ.สมชัย กล่าวว่า การจัดโครงการ นี้ขึ้นเป็นผลสืบเนื่องจากการดำเนินโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศ สัมพันธ์ โดยการนำแนวคิดการสื่อสารเพื่อการแลกเปลี่ยนทางสังคม (Social Chang) และแนวคิดกระบวน การตลาดเชิงสังคม (Social Marketing) มาประยุกต์ใช้ในการสื่อสารสุขภาพด้านการป้องกันโรคเอดส์ และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพื่อให้ได้รูปแบบกิจกรรมที่เยาวชน และวัยรุ่นให้ความสนใจและสามารถเข้า มามีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เมื่อวัยรุ่นมีความรู้ความเข้าใจก็จะนำมาซึ่งการรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงในสังคม ให้รู้จักว่า ความรักที่แท้จริงนั้นต้องมุ่งไปที่การให้อย่างบริสุทธิ์ใจ ดุจเดียวกับรักแท้ที่คุณพ่อคุณแม่มอบให้กับเรา และนำพลังของความรักมาสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อกัน และต่อสังคมต่อไป”นพ.สมชัยกล่าว

นพ.สมชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่สัมพันธ์กับการติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มวัยรุ่น พบว่ากลุ่มวัยรุ่นชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์ มีร้อยละ 17 และ หญิงมีร้อยละ 8.7 การมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่นชายส่วนใหญ่จะมี เพศสัมพันธ์กับคนรัก หรือแฟนถึงร้อยละ 79.8 ในวัยรุ่นหญิงจะมีเพศสัมพันธ์แบบสมัครใจ ร้อยละ 62.5 วัยรุ่นชายส่วนใหญ่มีการใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 46.9 และวัยรุ่นหญิงมีการใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 39.1 ซึ่งมีการป้องกันการติดเชื้อต่ำกว่าร้อยละ 50

“หากไม่มีมาตรการ หรือนโยบายใดมาใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ ในการสร้างความตระหนัก การให้ความรู้ในการป้องกัน อาจทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น แม้ว่าจะมีกลวิธีการติดตามผู้ติดเชื้อรายใหม่ด้วยวิธี BED CAPTURE ก็ตาม สาเหตุและปัจจัยการติดเชื้อส่วนใหญ่ที่มีผลต่อพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์อื่นๆ เช่น มีการดูหนังโป๊ วิดีโอโป๊ของนักเรียนชาย ร้อยละ 81.7 และหญิง ร้อยละ 48.3 และมีการเข้า Website โป๊ของนักเรียนชาย ร้อยละ 53 และหญิงร้อยละ 17.9”นพ.สมชัยกล่าว

นพ.สมชัย กล่าวด้วยว่าปัญหาในด้านพฤติกรรมของกลุ่มเด็กวัยรุ่นระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 และปีที่ 5 ในช่วงปี พ.ศ. 2545-2549 พบว่า เด็กระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 เด็กชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 2.9 มีการใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 45.8 เด็กหญิงมีเพสสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 1.5 และมีการใช้ถุงยางอนามัย ร้อยละ 33.3 ในเด็กระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 เด็กชายมีเพศสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 21 มีการใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 48.1 เด็กหญิงมีเพศสัมพันธ์แล้ว ร้อยละ 12.2 มีการใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 42.8

“จากการสำรวจกลุ่มเยาวชนระดับอาชีวะปีที่ 2 ในปี พ.ศ. 2549 พบว่า กลุ่มเยาวชนชาย หญิงพบว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟน หรือคนรัก ร้อยละ 31.5 และร้อยละ 26.9 ตามลำดับ เยาวชนชายมีเพศสัมพันธ์กับหญิงอื่นแบบคงที่ ร้อยละ 10.2 แต่เยาวชนหญิงมีเพศสัมพันธ์แบบสมัครใจ ร้อยละ 65.6เยาวชนชายมีการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ร้อยละ 45.52 และใช้ถุงยางอนามัยกับหญิงอื่น ร้อยละ 56.35 และหญิงมีการใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 39.0”นพ.สมชัยกล่าว