นายไชยา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข และศิลปินนักร้อง แถลงการรณรงค์ "ครอบครัวไทย แรงงานไทย ห่างไกลเอดส์" ว่า วัยแรงงานใช้ชีวิตเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์จากพฤติกรรมดื่มเหล้า เที่ยวสถานเริงรมย์ ผู้ชายมีเพศสัมพันธ์ฉาบฉวยเพิ่มขึ้น แต่ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 31 ส่วนแรงงานหญิงใช้ถุงยางอนามัยกับคู่นอนแค่ร้อยละ 21 เท่านั้น เหตุเพราะความเชื่อใจ ส่งผลให้ยังมีผู้ติดเชื้อเอดส์รายใหม่ในประเทศไทยยังสูงอยู่ ทั้งที่บทบาทการควบคุมโรคเอดส์ของประเทศไทยได้รับการชื่นชมระดับโลก
นายไชยา กล่าวประมาณการว่า มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปัจจุบันกว่า 1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 550,000 คน ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ปี 2551 คาดว่า มีประมาณ 13,000 ราย ปัจจัยเสี่ยงที่พบมากที่สุดคือ การมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 84 ผู้ป่วยเอดส์ร้อยละ 57 อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และวัยแรงงาน ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในโรงงาน กรรมกร ขับรถรับจ้าง เป็นต้น คนกลุ่มนี้มักมีการเคลื่อนย้ายบ่อย เพื่อรณรงค์ให้วัยแรงงานกว่า 37 ล้านคน ได้ตระหนักถึงการป้องกันโรคเอดส์ จึงกำหนดจัดการรณรงค์ดังกล่าวขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ตรงกับวันแรงงานแห่งชาติ ที่บริเวณสวนสาธารณะ หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ตั้งแต่ 13.00-18.00 น. เน้นสร้างความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักต่อปัญหาเอดส์และผลกระทบที่เกิดขึ้น เพี่อให้ประชาชนและกลุ่มแรงงานมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมในการป้องกันโรคเอดส์
นายไชยา กล่าวประมาณการว่า มีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปัจจุบันกว่า 1.1 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 550,000 คน ส่วนผู้ติดเชื้อรายใหม่ปี 2551 คาดว่า มีประมาณ 13,000 ราย ปัจจัยเสี่ยงที่พบมากที่สุดคือ การมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 84 ผู้ป่วยเอดส์ร้อยละ 57 อยู่ในวัยเจริญพันธุ์และวัยแรงงาน ส่วนใหญ่เป็นลูกจ้างในโรงงาน กรรมกร ขับรถรับจ้าง เป็นต้น คนกลุ่มนี้มักมีการเคลื่อนย้ายบ่อย เพื่อรณรงค์ให้วัยแรงงานกว่า 37 ล้านคน ได้ตระหนักถึงการป้องกันโรคเอดส์ จึงกำหนดจัดการรณรงค์ดังกล่าวขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ตรงกับวันแรงงานแห่งชาติ ที่บริเวณสวนสาธารณะ หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 2 ตั้งแต่ 13.00-18.00 น. เน้นสร้างความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักต่อปัญหาเอดส์และผลกระทบที่เกิดขึ้น เพี่อให้ประชาชนและกลุ่มแรงงานมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสมในการป้องกันโรคเอดส์
