ผู้เชี่ยวชาญแนะปรับฐานเก็บภาษี รับมือเงินเฟ้อ - เศรษฐกิจชะลอตัว

รอยเตอร์ / ไชน่านิวส์ – หลายนักวิชาการจีนออกโรงแนะรัฐบาลควรจะมีการปรับเพิ่มฐานการเสียภาษีรายได้ขั้นต่ำเป็น 3,000-5,000 หยวน พร้อมยกเลิกภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อลดปัญหาอัตราดอกเบี้ยติดลบ และเพื่อป้องกันเศรษฐกิจชะลอตัว

เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ก.ค.) ทีมเศรษฐกิจในคณะกรรมการการเงินสังกัดสภาประชาชนจีนได้ออกรายงานโดยระบุว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสภาวะความซับซ้อนทางเศรษฐกิจที่ในปัจจุบัน จีนควรมีการปรับการใช้นโยบายการเงินการคลังอย่างเหมาะสม โดยแนะนำให้มีการปรับเพิ่มฐานการเก็บภาษีเงินได้บุคคลขั้นต่ำขึ้น และลดดอกเบี้ยเงินฝากลง เพื่อป้องกันการชะลอตัวอย่างรุนแรงของเศรษฐกิจ

ด้านหนังสือพิมพ์หลักทรัพย์ของจีน ได้ตีพิมพ์คำกล่าวของนายเฮ่อ เฉียง สมาชิกสภาพที่ปรึกษาการเมือง และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยด้านการเงินอย่างจงยังไฉจิง ระบุว่า หลายปีที่ผ่านมา ประชาชนจีนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฐานภาษีเงินได้บุคคลขั้นต่ำในการเก็บภาษีของจีนอยู่ในระดับต่ำเกิน และแม้จะมีการปรับมาแล้ว 1 ครั้ง ทว่าปริมาณที่ปรับนั้นก็ยังไม่พอ จึงสมควรที่จะพิจารณาเพื่อปรับเพิ่มขึ้นอีก

ในขณะที่นายอัน ถี่ฟู่รองประธานสมาคมศึกษาภาษีจีน และเป็นอาจารย์คณะการเงินของมหาวิทยาลัยประชาชนมองว่า การปรับฐานภาษีเงินได้ขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษีในคราวที่ผ่านมาจาก1,600 หยวนต่อเดือนมาเป็น 2,000 หยวนนั้นยังน้อยเกินไป เมื่อพิจารณาภาพรวมจากการที่ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้น คิดว่าควรจะมีการปรับขึ้นไปอยู่ที่ฐาน 3,000 หยวน – 5,000 หยวนต่อเดือน

อัน ยังได้ระบุว่า เมื่อมองจากประสบการณ์ของต่างชาติ ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลจะต้องพิจารณาจากหลายแง่มุมอาทิจำนวนประชากร การศึกษา ประกันภัย ที่พักอาศัยเป็นต้น ปัจจุบันการเก็บภาษีในจีนยังมีการหักค่าใช้จ่ายบางอย่างเหล่านี้ค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงควรจะมีการปรับฐานขั้นต่ำขึ้น ซึ่งการปรับในอัตรานี้คงจะถูกคัดค้านไม่มากนัก

อย่างไรก็ตาม ต่อมาตรการเหล่านี้ ก็มีบางมุมมองที่เกรงว่า การปรับฐานขั้นต่ำที่ต้องเสียภาษีเงินได้ จะทำให้รัฐเสียรายได้ และส่งผลกระทับต่อเสถียรภาพเงินคงคลัง ทว่าต่อประเด็นดังกล่าวนั้นนายหยาง จื้อหย่งนักวิจัยประจำสำนักวิจัยการค้าของบัณฑิตยสถานด้านสังคมศาสตร์ระบุว่า ภาษีเงินได้ส่วนบุคคลไม่ใช่ภาษีหลักในจีน เพราะคิดเป็น 7% ของภาษีทั้งหมดที่จัดเก็บได้เท่านั้น ผนวกกับในช่วงที่ผ่านมารายได้ทางการคลังของจีนเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว การปรับขึ้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะส่งผลกระทบต่อรายได้คงคลังของรัฐไม่มากนัก

นอกจากนั้นเฮ่อ เฉียงยังแนะนำว่า ควรจะมีการยกเลิกภาษีดอกเบี้ยเงินฝาก เพื่อที่จะลดปัญหาการที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบ (เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ) ซึ่งจะเกิดผลในด้านการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนทางอ้อม ซึ่งในด้านของการปฏิบัตินั้นจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

อัน ถี่ฟู่เองก็สนับสนุนแนวความคิดดังกล่าว โดยระบุว่าจะมีส่วนช่วยต่อการที่ประชาชนต้องพบกับปัญหาอัตราดอกเบี้ยเงินฝากติดลบมานาน และแม้ว่าเงินฝากของเศรษฐีจะมีสัดส่วนที่มากกว่า ทว่าผู้ที่มีรายได้ระดับกลางและระดับล่างส่วนใหญ่ ต่างก็มีการฝากเงินเผื่อไว้ใช้ในการรักษาพยาบาล หรือส่งลูกหลานเข้าเรียนด้วย ดังนั้นการยกเลิกภาษีดอกเบี้ยจะทำให้ผู้ยากไร้จำนวนมากได้รับประโยชน์

นอกจากนั้น ที่ผ่านมาการที่ตั้งภาษีดอกเบี้ยเงินฝากไว้ เกิดจากความกังวลที่เงินฝากภายในประเทศจะมากเกินไป อยากใช้ประชาชนได้ผันเงินไปใช้ในการบริโภค การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งปัจจุบันก็เห็นแล้วว่ามีผลไม่มากนัก

ทั้งนี้ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (ซีพีไอ) ที่เป็นตัววัดเงินเฟ้อของจีนในเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 7.1% และในครึ่งปีแรกมีเงินเฟ้อสะสม 7.9% ในขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1 ปีอยู่ที่ 4.14%