รอยเตอร์ – นายกรัฐมนตรี รองนายก รองประธานาธิบดี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนประสานเสียงปรับโครงสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ และผลักดันให้วิสาหกิจจีนปรับตัว เพิ่มศักยภาพเพื่อท้าทายต่ออุปสงค์ต่างประเทศที่ลดลง ในขณะที่เงินเฟ้อโลกกับนโยบายรัฐทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรีจีนเวิน เจียเป่าได้เปิดเผยว่า “จีนกำลังจะเร่งปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับศักยภาพในการส่งออก และให้จีนสามารถเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ ในห้วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่จากเศรษฐกิจโลก”
โดยเวิน ได้กล่าวในขณะที่เดินทางไปตรวจงานที่เจียงซูและเซี่ยงไฮ้ โดยระบุอีกว่า จะต้องกำหนดให้การควบคุมเงินเฟ้อนั้น อยู่ในภารกิจพิเศษสำหรับการควบคุมเศรษฐกิจระดับมหภาค และรัฐบาลจีนจะพากเพียรควบคุมราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นสูง ให้อยู่ในระดับที่สังคมที่เศรษฐกิจกำลังพัฒนานั้นจะสามารถรับได้”
การกล่าวเช่นนี้ เท่ากับว่ารัฐบาลจีนได้ตระหนักแล้วว่า ท่ามกลางภาวะที่ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะยาน จนกระทั่งรัฐบาลจีนต้องปรับขึ้นราคาน้ำมันสำเร็จรูป ได้เพิ่มความกดดันมากขึ้นให้กับทางการจีนที่ประกาศไว้ว่าจะรักษาดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (ซีพีไอ) ให้อยู่ในระดับ 4.8% ซึ่งเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เวินเองก็ได้เคยออกมายอมรับว่า การที่จะรักษาซีพีไอให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเฉพาะเมื่อซีพีไอเดือนม.ค.ถึงพ.ค.ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวของปีที่ผ่านมา 8.1% ในขณะที่ปี 2007 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนเพียง 4.8%
ในขณะที่นายหวัง ฉีซันรองนายกรัฐมนตรีจีน และนายเฉิน เต๋อหมิงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ก็ได้ออกมาระบุว่า ทางการจีนเตรียมจะช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางการตลาดให้กับสินค้าส่งออกของจีน ซึ่งเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทางการจีนเองก็ได้ออกมาแสดงความห่วงใยต่อผู้ประกอบการจีนที่พบเจอกับความเสี่ยงมากขึ้นจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯตกต่ำกับราคาสินค้าในโลกพุ่งสูง ซึ่งก็เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจีนกำลังจะส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าส่งออก กระตุ้นการบริโภคภายใน พร้อมผลักดันธุรกิจภาคบริการ
เพิ่มศักยภาพท้าทายเศรษฐกิจโลก
สำนักข่าวซินหัวได้รายงานถึงคำพูดของรองนายกรัฐมนตรีหวัง ฉีซันที่ได้ระบุว่า “รูปแบบการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศแบบหยาบๆในอดีตนั้นคงยากที่จะดำเนินต่อไปได้ เราจำเป็นจะต้องเพิ่มพูนประสิทธิภาพและศักยภาพในการแข่งขันของวิสาหกิจจีน”
ที่ผ่านมา เพื่อที่จะลดการเกินดุลการค้าระหว่างประเทศ และพัฒนาโครงสร้างการนำเข้า รัฐบาลจีนได้มีการปรับลดการคืนภาษีส่งออกในสินค้าหลายพันประเภท โดยเฉพาะสินค้าที่สิ้นเปลืองพลังงานและสินค้าที่สร้างมลพิษสูงในกระบวนการผลิต
นอกจากนั้น กับสินค้าแปรรูปที่บริษัทจีนจะต้องนำเข้าวัตถุดิบเพื่อทำการแปรรูป แล้วส่งออกในอัตราภาษีศูนย์เปอร์เซ็นต์ในอดีต ก็เริ่มถูกจำกัดมากขึ้น ซ้ำยังมีการปล่อยให้เงินสกุลเหรินหมินปี้หรือเงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแม้จะมีส่วนช่วยเพิ่มการบริโภคภายใน แต่ก็เป็นผลกระทบต่อการส่งออกด้วย
เมื่อปัจจุบันผู้ประกอบการต้องพบเจอกับปัญหาเศรษฐกิจโลก ปัญหาราคาวัตถุดิบต่างๆ ทางการจีนที่ยอมรับว่าวิสาหกิจกำลังพบเจอกับความเสี่ยง ก็ได้เรียกร้องให้ธุรกิจต่างๆเพิ่มศักยภาพเพื่อท้าทายกับปัญหาเหล่านี้
นายสี จิ้นผิงรองประธานาธิบดีจีนก็ได้เรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่รัฐท้องถิ่นในขณะที่เดินทางไปตรวจงานที่กวางตุ้งว่า จะต้องสรรหามาตรการเพื่อช่วยลดผลกระทบและช่วยให้วิสาหกิจส่งออกสามารถรับมือปัญหาวัตถุดิบราคาเพิ่มขึนและอุปสงค์จากต่างชาติลดลงได้
ด้านธุรกิจภาคบริการ เวิน เจียเป่าได้เน้นย้ำว่า เซี่ยงไฮ้จะต้องให้ความสำคัญกับการสร้างศูนย์กลางทางการเงินนานาชาติ เพื่อให้เป็นเป้าหมายสำหรับประเทศทางตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหลาย ในขณะที่หวัง ฉีซันก็เน้นย้ำว่าจะต้องเพิ่มความเข้มแข็งในด้านการบริการทางการเงินให้ดีขึ้น ด้วยการเอาใจใส่ ป้องกัน และรักษาเสถียรภาพทางการเงินเอาไว้