รอยเตอร์ – กรมสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยตัวเลขพีพีไอ พุ่งขึ้น 8.1% โดยขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 9 และเป็นตัวเลขสูงสุดใน 3 ปี โดยนักวิเคราะห์ชี้ว่ามีราคาของวัตถุดิบ พลังงาน และอาหารเป็นตัวฉุดให้สูงขึ้น และคาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนถัดไป
ก่อนที่จะมีการประกาศดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในสัปดาห์หน้า กรมสถิติแห่งชาติจีนได้ออกมาประกาศในวันศุกร์ (9 พ.ค.) ว่าในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา จีนมีดัชนีราคาสินค้าผู้ผลิต (พีพีไอ) เพิ่มขึ้น 8.1% โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 9 และได้สร้างสถิติสูงสุดในรอบ 3 ปี อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าตัวเลขที่ทางรอยเตอร์ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 8.4%
นายหลี่ หมิงเลี่ยงนักวิเคราะห์อาวุโสด้านเศรษฐศาสตร์มหภาคของบริษัทหลักทรัพย์ไห่ทงได้กล่าวว่า “การทำนิวไฮของดัชนีราคาสินค้าผู้ผลิตในเดือนเม.ย.นั้น ได้แสดงให้เห็นว่าในขณะนี้แรงกดดันจากเงินเฟ้อยังมีมาก และเมื่อแยกประเภทของตัวเลขแล้ว จะเห็นได้ว่าดัชนีที่พุ่งสูงขึ้นมีตัวหลักจับกลุ่มอยู่ที่สินค้าประเภทพลังงาน วัตถุดิบและอาหาร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิตทั้งสิ้น”
แต่หากจะมองในแง่ดี ดัชนีราคาสินค้าผู้ผลิตที่เห็นนี้ได้เพิ่มจากเดือนที่ผ่านมา (8.0%)เพียงเล็กน้อย อีกทั้งทางการได้ใช้มาตรการควบคุมราคาสินค้าเข้ามาช่วย จึงไม่ได้เป็นการสร้างแรงกดดันต่อสินค้าปลายน้ำมากนัก ซึ่งเรามองว่าหากพีพีไอยังรักษาให้อยู่ในระดับไม่เกิน 10%ได้ ก็ยังอยู่ในขั้นที่ยังรับมือไหว
นายชิว ชิ่งตง นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์กั๋วตูชี้ว่า “การที่พีพีไอทำนิวไฮ เป็นสิ่งที่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจโดยรวมทั้งในและนอกประเทศ ดังนั้นการขึ้นอย่างต่อเนื่องถึงว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งเมื่อมองในด้านจิตวิทยาแล้ว การที่พีพีไอพุ่งสูงก็จะดันให้ราคาสินค้าผู้บริโภคเกิดความกดดันไปด้วย”
“ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า เมื่อราคาอาหารเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อราคาสินค้าผู้บริโภคในระดับหนึ่ง จากนี้ไป สินค้าต้นน้ำ วัตถุดิบจะมีผลต่อการผลักดันดัชนีสินค้าผู้บริโภคมากขึ้น ซึ่งมองว่าพีพีไอในเดือนต่อๆไปยังจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ชิวระบุ
“พีพีไอที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด เนื่องจากตั้งแต่หลังช่วงเทศกาลตรุษจีนเป็นต้นมาราคาวัตถุดิบทุกอย่างสูงขึ้นหมด ซึ่งในกรณีเช่นนี้การลดอุปสงค์ภายในก็ไม่ช่วยอะไรมากนัก ดังนั้นคาดได้ว่าแม้พีพีไอจะทำนิวไฮ แต่นโยบายของทางการจีนในขณะนี้คงยังไม่เปลี่ยนแปลง” เฝิง อี้ว์หมิงนักวิเคราะห์นโยบายมหภาคจากบริษัทหลักทรัพย์ตงฟังระบุ
ทั้งนี้ นายหลี่ เสี่ยวเชาโฆษกกรมสถิติแห่งชาติจีนได้เปิดเผยเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า กำลังจับตาดูราคาสินค้าผู้ผลิตว่าเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด และส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าของผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งกำลังจับตาดูว่าในปีนี้เมื่อราคาสินค้าที่ออกจากโรงงานปรับตัวสูงขึ้น จะมีผลกระทบต่อผู้บริโภคสักเท่าใด?
ในขณะที่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีจีนได้เรียกร้องไม่ให้มีการปรับราคาน้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ และไฟฟ้า อีกทั้งได้ใช้มาตรการแทรกแซงราคาสินค้าแบบชั่วคราว อีกทั้งมีคำสั่งให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับสินค้าที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิต ต้องยื่นขออนุญาตก่อนขึ้นราคา และล่าสุดยังมีการกำหนดไม่ให้มีการขึ้นราคาน้ำ รถโดยสารสาธารณะ ค่าเล่าเรียน และค่าที่พักอีกด้วย