เอเอฟพี-จีนประกาศเร่งการพัฒนาพืชตัดต่อพันธุกรรม หรือยีนส์ ( GMOs )อย่างเร่งด่วน เพื่อรับมือปัญหาท้าทายในการเลี้ยงประชากร 1,300 ล้านคน ในขณะที่พื้นที่เพาะปลูกหดหายและสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทวีความรุนแรง
ที่ประชุมคณะมุขมนตรีจีนผ่านเสียงรับรองแผนความมั่นคงด้านพืชผลธัญพืชระยะยาวและระยะกลางเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยตั้งเป้ารักษาระดับผลผลิตธัญพืชในแต่ละปี เหนือระดับ 500 ล้านตันในปี 2010 และเพิ่มผลผลิตให้ได้มากกว่า 540 ล้านตันต่อปีในปี 2020 และเผยแพร่บนเว็บไซต์เมื่อวันพุธ(9 ก.ค.)
ในการประชุมซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าเป็นประธาน เห็นพ้องกันว่าแผนพัฒนาพืชผล GMOs นี้ มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ ซึ่งมุ่งพัฒนาภาคเกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพและแรงแข่งขันระหว่างประเทศ โดยแผนฯนี้จะมุ่งเพาะปลูกพืชสายพันธุ์ตัดต่อยีนส์ ที่มีคุณสมบัติต่อต้านแมลงศัตรูพืช และให้ผลผลิตสูง
“หน่วยงานต่างๆจะต้องเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญและความเร่งด่วนในการผลักดันแผนฯนี้ อย่างไม่เสียเวลารีรอกันเลย” แถลงการณ์จากที่ประชุมฯระบุ
อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ก็ไม่ได้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับสายพันธุ์พืชที่จีนจะพัฒนา แต่กลุ่มนักวิเคราะห์ชี้ว่า จีนจะมุ่งพัฒนา GMOs โดยมีข้าวโพด และข้าว รวมอยู่ด้วย
ปัจจุบัน จีนได้กลายเป็นผู้ผลิต GMOsรายใหญ่ ได้แก่ ฝ้าย และพืชผักต่างๆอาทิ พริกไทย และมะเขือเทศ แต่ยังไม่ได้เริ่มบุกเบิกไร่สวนขนาดใหญ่ เพาะปลูกพืชผล GMOs ได้แก่ ข้าว ข้าวโพด และถั่วเหลือง
การผ่านแผนพัฒนาพืชผล GMOs ครั้งนี้ เป็นสัญญาณการให้ความสำคัญมากขึ้นแก่การพัฒนา GMOs และยกระดับเป็นยุทธศาสตร์ระดับชาติ” หวง เต๋อจวิน หัวหน้านักวิเคราะห์ประจำบริษัทที่ปรึกษา Beijing Orient Agribusiness Consultant
นายกฯเวินได้บอกแก่ที่ประชุมว่าจีนกำลังเผชิญกับความท้าทายในการประกันธัญพืชที่เพียงพอสำหรับเลี้ยงประชากรในช่วงทศวรรษที่จะมาถึง ขณะที่จีนพัฒนาเมืองอย่างขนานใหญ่ หน่ำซ้ำยังต้องผจญสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงด้วย
“จีนกำลังผจญวิกฤตขาดแคลนทรัพยากร ได้แก่ พื้นที่เพาะปลูก น้ำ ขณะที่ประชากรเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น GMOs จึงมีความสำคัญสำหรับประกันผลิตผลการเกษตรของประเทศ” หวงกล่าว
