ไชน่าเดลี่ - บริษัทจัดการกองทุนจีนทำนายผลกำไรโดยเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนมังกรในตลาดหลักทรัพย์ประจำปี 2008 จะเพิ่มขึ้น 20% ท่ามกลางสภาวะเงินเฟ้อและภัยพิบัติที่เกิดขึ้นภายในประเทศ
บริษัท ไชน่า เซาท์เทิร์น ฟันด์ เมเนจเมนจ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่บริหารจัดการกองทุนมูลค่ากว่า 240,000 ล้านหยวน (34,300 ล้านเหรียญสหรัฐ) เผยผลประกอบการของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติของจีนในปี 2008 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ของบริษัทกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอาจชะลอตัว
ลู่ หลี่ นักวิเคราะห์แห่งไชน่า ฟันด์ฯกล่าวว่า ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจีนในตลาดหลักทรัพย์ประจำปี 2008 จะขยับตัวเพิ่มขึ้นราว 20% สืบเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวดี
อย่างไรก็ตาม รายงานของธนาคารประชาชนจีน (พีบีโอซี) ระบุว่า เศรษฐกิจในประเทศจีนอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมทั้งภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นพายุหิมะถล่มเมื่อช่วงต้นปีหรือเหตุแผ่นดินไหวในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้รายงานของทางการจีนยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ภัยพิบัติจากหิมะถล่มเมื่อมกราคมนั้น สร้างความเสียหายโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจจีนถึง 151,600 ล้านหยวน ขณะเดียวกันนักเศรษฐศาตร์จีนหลายรายเชื่อว่ามูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนมากมายกว่าแสนล้านหยวน แต่อย่างไรก็ดี รายงานคาดการณ์ว่าทางการจีนน่าจะเข้มงวดนโยบายทางการเงิน รวมถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารมากขึ้นอีก
สำหรับผลกำไรเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประจำปี 2007 พุ่งสูงแตะ 49.7 % นับเป็นสถิติสูงสุดอันได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผนวกกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างคึกคัก
โดยปี 2007 รายได้จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นจำนวน 1,574 ราย เพิ่มสูงขึ้นถึง 25% หรือคิดเป็นมูลค่า 9.45 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 38.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ทั้งนี้ภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกลดลงอยู่ที่ 10.6 % ซึ่งสถิติของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 11. 7 % ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ สืบเนื่องจากการชะลอตัวของการส่งออกและภัยพิบัติภายในประเทศที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี
บริษัท ไชน่า เซาท์เทิร์น ฟันด์ เมเนจเมนจ์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนที่บริหารจัดการกองทุนมูลค่ากว่า 240,000 ล้านหยวน (34,300 ล้านเหรียญสหรัฐ) เผยผลประกอบการของบริษัทกลุ่มอุตสาหกรรมถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติของจีนในปี 2008 จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ของบริษัทกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอาจชะลอตัว
ลู่ หลี่ นักวิเคราะห์แห่งไชน่า ฟันด์ฯกล่าวว่า ผลกำไรของบริษัทจดทะเบียนจีนในตลาดหลักทรัพย์ประจำปี 2008 จะขยับตัวเพิ่มขึ้นราว 20% สืบเนื่องจากพื้นฐานเศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวดี
อย่างไรก็ตาม รายงานของธนาคารประชาชนจีน (พีบีโอซี) ระบุว่า เศรษฐกิจในประเทศจีนอาจได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมทั้งภัยธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นพายุหิมะถล่มเมื่อช่วงต้นปีหรือเหตุแผ่นดินไหวในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้รายงานของทางการจีนยังแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ภัยพิบัติจากหิมะถล่มเมื่อมกราคมนั้น สร้างความเสียหายโดยตรงต่อระบบเศรษฐกิจจีนถึง 151,600 ล้านหยวน ขณะเดียวกันนักเศรษฐศาตร์จีนหลายรายเชื่อว่ามูลค่าความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนมากมายกว่าแสนล้านหยวน แต่อย่างไรก็ดี รายงานคาดการณ์ว่าทางการจีนน่าจะเข้มงวดนโยบายทางการเงิน รวมถึงการปล่อยสินเชื่อของธนาคารมากขึ้นอีก
สำหรับผลกำไรเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประจำปี 2007 พุ่งสูงแตะ 49.7 % นับเป็นสถิติสูงสุดอันได้อานิสงส์จากเศรษฐกิจจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ผนวกกับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อย่างคึกคัก
โดยปี 2007 รายได้จากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นจำนวน 1,574 ราย เพิ่มสูงขึ้นถึง 25% หรือคิดเป็นมูลค่า 9.45 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 38.3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
ทั้งนี้ภาพรวมการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาสแรกลดลงอยู่ที่ 10.6 % ซึ่งสถิติของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 11. 7 % ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ สืบเนื่องจากการชะลอตัวของการส่งออกและภัยพิบัติภายในประเทศที่เกิดขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี