xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติมังกรปรับนโยบายการเงิน จาก “คุมเข้ม” มาเป็น “คุมยืดหยุ่น”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเยนซี – ธนาคารกลางจีนชี้จะมีการปรับดีกรีคุมเข้มด้านการเงิน ให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ หลังจีนถูกวิกฤติเศรษฐกิจโลกกับพายุหิมะถล่มทำให้ราคาสินค้าพุ่งกระฉูด ราคาสินค้าแพง พร้อมชี้การควบคุมเงินเฟ้อถือเป็นภารกิจอันดับแรก

สื่อจีนรายงานจากปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ (24 ก.พ.) โดยระบุนโยบายการเงินของธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (พีบีโอซี)ในไตรมาสที่ 4 ของปีที่ผ่านมา ที่ได้ชี้ว่าจีนจะดำเนินนโยบายการเงินด้วยการควบคุมแบบเข้มงวดนั้น ในขณะนี้ จะมีการ “พิจารณาจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ในการที่จะมาควบคุมระดับความเข้มงวดให้เป็นไปตามกระบวนการวิทยาศาสตร์ และจะมีการปรับเล็กน้อยให้เหมาะสม” กล่าวคือธนาคารกลางจีนได้ประกาศว่าจะมีการปรับนโยบายการเงินจาก “ควบคุมเข้มงวด” มาเป็น “ควบคุมแบบยืดหยุ่น”

รายงานของธนาคารกลางที่ชี้ว่า “ปรับเล็กน้อยให้เหมาะสม” ได้ถูกสื่อจีนตีความว่าธนาคารกลางจะพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจของนานาชาติที่มีความไม่แน่นอนเพิ่มมากขึ้น ผนวกกับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจภายในประเทศอาทิพายุหิมะ และอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจที่ ”ร้อนแรงเกิน” กลายเป็น “เริ่มชะลอตัว” ทำให้การควบคุมการเงินของทางการ จะต้องมีการผ่อนปรนและยืดหยุ่นขึ้นเล็กน้อย ซึ่งการประกาศดังกล่าวสอดคล้องกับที่รัฐบาลจีนได้ออกมาระบุว่า อาจจะต้องมีการผ่อนปรนให้มีการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นหลังจีนเจอพิษพายุหิมะ

แบงก์ชาติจีนได้ชี้ว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภค (ซีพีไอ) ยืนตัวอยู่ในระดับสูงมาโดยตลอด โดยเฉพาะการที่ราคาสินค้าด้านพลังงาน และธัญพืชที่สูงขึ้น อันมาจากปัจจัยจากต่างประเทศที่ยากจะเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาอันสั้น ผนวกกับราคาสินค้า และเงินเฟ้อที่เพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการดำเนินนโยบายเพื่อควบคุมสภาพคล่องในระบบธนาคาร ดูแลการบริหารจัดการในการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น

คุณอี้กัง รองผู้ว่าการธนาคารกลางจีนระบุว่า จากการที่ต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบของวิกฤติซับไพรม์จากสหรัฐฯ และพายุหิมะจากในประเทศ ภารกิจอันดับแรกในการควบคุมระดับมหภาคของธนาคารกลางในปีนี้ ก็คือการควบคุมเรื่องเงินเฟ้อ เดินหน้ารักษานโยบายการเงินการคลัง ด้วยการควบคุมการเงิน ในขณะที่ต้องกระตุ้นการพัฒนาของเศรษฐกิจ

ในขณะที่นายหม่าจวิ้น นักเศรษฐศาสตร์และประธานดอยช์ แบงก์ภูมิภาคจีนได้ระบุว่า แม้ว่าตัวเลขซีพีไอในเดือนม.ค.ของจีนจะสูงถึง 7.1% ทว่าราคาสินค้าการเกษตรไม่น้อยนั้นเพิ่งจะเริ่มมีการปรับตัวในช่วงครึ่งหลังของเดือน ดังนั้นเชื่อว่าในเดือนก.พ. ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคเดือนก.พ.จะพุ่งขึ้นไปแตะ 7.8% และดอยช์แบงก์ คาดว่าซีพีไอจีนทั้งปีจะอยู่ที่ 6.4% และเพื่อลดทอนแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น ธนาคารกลางอาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้ง และควบคุมการส่งออกด้านสินค้าการเกษตร

กำลังโหลดความคิดเห็น