เอเจนซี – ที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ไฟเขียวแผนปฏิรูประบบบริหารจัดการและปรับโครงสร้างสถาบัน พร้อมรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการเสนอเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญ โดยเตรียมส่งไม้ต่อให้สภาผู้แทนประชาชนประทับผ่านในขั้นสุดท้ายต้นเดือนหน้า คาดหูจิ่นเทา-เวินเจียเป่าไม่พลิกโผ นั่งครองบัลลังก์อำนาจต่ออีก 5 ปี ขณะที่สีจิ้นผิง อดีตเลขาธิการพรรคฯ เซี่ยงไฮ้ น่าจะรั้งตำแหน่งรองประธานาธิบดี
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (27 ก.พ.) ในการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนครั้งที่ 17 โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคฯ รวม 270 คนเข้าร่วมการประชุมและมีประธานาธิบดีหูจิ่นเทา เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เป็นองค์ประธาน ได้มีการอนุมัติแผนปฏิรูประบบบริหารจัดการ การปรับโครงสร้างสถาบัน และรายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งสำคัญต่างๆ
โดยหูจิ่นเทากล่าวในที่ประชุมฯ ว่า จีนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ประชาชนมีความต้องการที่จะปกป้องสิทธิและประชาธิปไตยของตนเอง ต้องการความยุติธรรมในสังคม แต่ระบบการเมืองจีนยังมีบางจุดที่ล้าหลังและจำเป็นต้องได้รับการยกระดับขึ้น ดังนั้นจีนจึงจำเป็นต้องเดินหน้าแผนปฏิรูปข้างต้น โดยแผนการทั้งหมดจะดำเนินการอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2020
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เอกสารต่างๆ เกี่ยวกับรายละเอียดว่าด้วยการปฏิรูประบบบริหารจัดการ และปรับโครงสร้างสถาบันของมุขมนตรีนั้น ได้ผ่านการศึกษามาอย่างรอบคอบ และจะถูกส่งต่อเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนประชาชนครั้งที่ 11 รอบที่ 1 เพื่อพิจารณาขั้นสุดท้าย โดยการประชุมจะเริ่มในวันพุธหน้านี้ (5 มี.ค.)
แม้ว่ากระบอกเสียงรัฐบาลมิได้รายงานถึงรายละเอียดการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เป็นที่คาดการณ์อย่างแพร่หลายว่า หูจิ่นเทาจะได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 (5 ปี) โดยมีเวินเจียเป่านั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเหมือนเดิม นอกจากนี้พรรคฯ ยังได้อนุมัติการปฏิรูปมุขมนตรี* ซึ่งน่าจะรวมถึงการปรับลดจำนวนรัฐมนตรีลงเหลือ 21 คนด้วย
นอกจากนี้ยังมีกระแสคาดการณ์ว่า สีจิ้นผิง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาเซี่ยงไฮ้วัย 54 ปี ได้รับการเสนอชื่อให้นั่งเก้าอี้รองประธานาธิบดี เพื่อรอจ่อตำแหน่งทายาททางการเมืองของหูจิ่นเทา โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าสีจิ้นผิงคนนี้จะขึ้นเป็นแกนนำพรรคฯ ในปี 2012 และนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีแทนหูจิ่นเทาในปี 2013
ขณะที่หลี่เค่อเฉียง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์มณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน วัย 52 ปี และถูกมองว่าเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดหูจิ่นเทา คาดว่าจะได้รับตำแหน่งหนึ่งในคณะรองนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ สีจิ้นผิงและหลี่เค่อเฉียงได้รับการเสนอชื่อให้เข้าดำรงตำแหน่ง 2 ใน 9 คณะกรรมการประจำกรมการเมืองแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ในช่วงการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
หมายเหตุ – * คณะมุขมนตรีถือเป็นคณะบริหารประเทศคณะหนึ่งของจีนโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อมองจากโครงสร้างการบริหารงานแล้ว มุขมนตรีมีฐานะสูงกว่าคณะรัฐมนตรี ส่วนจำนวนสมาชิกของคณะมุขมนตรีนั้นมีไม่แน่นอน แล้วแต่ความเป็นจริงของแต่ละสมัย โดยสมาชิกส่วนใหญ่ของคณะมุขมนตรีมักจะมาจากอดีตผู้นำที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือการบริหารระดับสูง และมีประสบการณ์ในด้านต่างๆ มายาวนาน และมักจะหมดวาระในตำแหน่งที่ว่าก่อนจะเข้ามานั่งอยู่ในคณะมุขมนตรี