ไม่ผลิกโผหู-สี-เวินขึ้นแท่นผู้นำมังกร นักวิเคราะห์ชี้หูจำใจเลือก“สี จิ้นผิง”

เอเยนซี – สภาผู้แทนประชาชนจีนได้เปิดเผยผลการคัดเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไปเป็นตามที่คาดไว้ โดยหู จิ่นเทาได้เป็นประธานาธิบดีต่ออีกสมัย ในขณะที่เวิน เจียเป่าและอู๋ ปังกั๋วก็ดำรงตำแห่งนายกรัฐมนตรีและประธานสภาผู้แทนประชาชนต่อไป นอกจากนั้นสี จิ้นผิงแม้จะหลุดจากโผรองประธานกรรมธิการทหารแห่งชาติ แต่ยังได้ขึ้นแท่นรองประธานาธิบดีแม้นักวิเคราะห์มองว่าแท้จริงแล้วหู จิ่นเทา อยากส่งไม้ต่อให้หลี่ เค่อเฉียงมากกว่า ในขณะที่ นักวิชาการชี้ หาก ‘สี’ ก้าวพลาด ‘หู’ พร้อมดัน ‘หลี่’ เสียบเพื่อชาติ

เมื่อวันเสาร์ (15 มี.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีน ได้มีการลงคะแนนโดยไม่เปิดเผยชื่อ ในการคัดเลือกตำแหน่งผู้นำสำคัญคนต่างๆของจีน โดย ผลเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมายไว้คือ หู จิ่นเทาได้รับการเลือกให้เป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีนและประธานคณะกรรมธิการทหารแห่งชาติต่ออีกสมัย นายอู๋ ปังกั๋วดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนประชาชน และอีกหนึ่งที่เป็นไปตามคาดหมายคือมีการคัดเลือกให้นายสี จิ้นผิงดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน

นอกจากนั้นก็มีการคัดเลือกให้นายหวัง เจ้ากั๋ว,ลู่ หย่งเสียง,อูหยุนฉีมู่เก๋อ,หัน ฉี่เต๋อ,หัว เจี้ยนหมิ่น,เฉิน จื้อลี่,โจว เถี่ยหนง,หลี่ เจี้ยนกั๋ว,ซือหม่าอี้ เถี่ยลี่หว่าเอ่อตี้,เจี่ยง ซู่เซิง,เฉิน ชังจื้อ,เอี๋ยน จวิ้นฉี,ซัง กั๋วเว่ย เป็นรองประธานคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชน และมีนายหลี่ เจี้ยนกั๋วเป็นเลขาธิการสภาผู้แทนประชาชนจีน

และในวันอาทิตย์ (16 มี.ค.) ก็มีการลงคะแนนเพื่อคัดเลือกนายกรัฐมนตรี รองประธานคณะกรรมธิการทหารแห่งชาติ ประธานศาลประชาชนสูงสุดแห่งชาติ และประธานอัยการสูงสุดแห่งชาติ โดยผลการคัดเลือกปรากฏว่านายเวิน เจียเป่าได้รับการคัดเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีต่ออีกสมัย นายกัว ป๋อสง และนายสีว์ ไฉโฮ่วได้รับการคัดเลือกให้เป็นรองประธานคณะกรรมธิการทหารแห่งชาติ และนายเหลียง กวงเลี่ย,เฉิน ปิ่งเต๋อ,หลี่ จี้ไน่,เลี่ยว ซีหลง,ฉาง วั่นเฉวียน,จิ้ง จื้อหย่วน,อู๋ เซิ่งลี่,สวี่ ฉีเลี่ยงเป็นคณะกรรมธิการทหารแห่งชาติ ส่วนตำแหน่งประธานศาลประชาชนสูงสุดแห่งชาติได้แก่นางหวัง เซิ่งจวิ้น,และประธานอัยการสูงสุดแห่งชาติได้แก่นายเฉา เจี้ยนหมิง

ผลที่ออกมา ค่อนข้างเป็นไปตามการคาดการณ์ก่อนหน้า ซึ่งมองว่าโผแต่งตั้งว่าที่ผู้นำรุ่นที่ 5 สู่ตำแหน่งสำคัญ จะมีสี จิ้นผิง นั่งเก้าอี้รองประธานาธิบดีจ่อเสียบตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อ หู จิ่นเทาหมดวาระในปี 2012

“ผมคิดว่าสีกำลังมาแรง จ่อนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีแน่นอน คนส่วนมากสนับสนุนเขา หากใครคิดจะสอยเขา นับว่าเป็นเรื่องลำบากมาก มีแต่ต้องรอสีสะดุดล้มเองเสียก่อน” โจเซฟ เฉิง จาก ศูนย์วิจัยจีนร่วมสมัย ของ มหาวิทยาลัยเมืองฮ่องกง (Hong Kong City University) กล่าว

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ว่า การสืบทอดอำนาจครั้งนี้ อาจเรียกได้ว่า มีภาวะ “คลื่นใต้น้ำ” เพราะผลการคัดเลือกปรากฏว่า สีไม่ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมธิการทหาร ตามที่ข่าวกระแสหนึ่งได้เปิดเผยว่า อาจจะมีกระแสคัดค้านจนสี ไม่ได้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว

แม้บางกลุ่มในพรรคคอมมิวนิสต์ อาจไม่เห็นด้วยกับการก้าวสู่อำนาจของสี ทว่าพวกเขาได้แต่เก็บตัวเงียบ เพราะบารมีของสี และภรรยาได้แผ่ไพศาล

หู-สี ไม่กินเส้น?

สีเป็นบุตรหัวแก้วหัวแหวนของของสี จ้งซวิน อดีตผู้นำสำคัญของพรรคฯและรัฐบาล โดย สี จ้งซวินเป็นหนึ่งในคณะผู้นำจีนรุ่นที่ 1 และเป็นสหายปฏิวัติของประธานเหมา เจ๋อตง นอกจากนี้ เผิง ลี่หยวน ภรรยาของสี จิ้นผิง ยังเป็นนักร้องโซปราโนชื่อดัง ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นถึงพลตรีในกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งบัดนี้ถนนสายการเมืองของสีจึงปูด้วยพรมแดง ที่เรียกว่านาทีนี้ใครก็ฉุดไม่อยู่

อย่างไรก็ตามมีข่าวแพลมออกมาว่า “หู จิ่นเทาไม่ค่อยกินเส้นกับสีเท่าไรนัก”

“สีไม่ใช่ตัวเลือกแรกของหู ที่จริงแล้วเขาอยากให้หลี่ เค่อเฉียงสืบอำนาจแทนมากกว่า ทว่าหูถูกกดดันจากกลุ่มการเมืองอื่นๆ ให้ดันสี จิ้นผิงขึ้นมาแทน” นักวิเคราะห์ชี้ว่า แม้จะได้รับการสนับสนุนล้นหลาม แต่สียังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกยาวไกล หากพลาดแม้แต่นิดอาจถูกดีดให้หลุดจากบัลลังก์ได้"

“สีต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมาก อย่างน้อยเขาต้องไม่ทำอะไรผิดพลาด” สตีฟ จาง ศาสตราจารย์ด้านจีนศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดกล่าว

สีมีผลงานเข้าตากรรมการ จากการประวัติ เขาเป็นนักบริหารที่ประสบความสำเร็จ ด้วยผลงานบริหารมณฑลฝูเจี้ยน (ฮกเกี้ยน) และเจ้อเจียง ก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งสู่ตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯเซี่ยงไฮ้ แทนที่เฉิน เหลียงอี่ว์ที่ถูกปลดจากตำแหน่ง เพราะคดีคอรัปชั่น

การแต่งตั้งสีสู่ตำแหน่ง คณะกรรมการประจำกรมการเมืองของพรรคฯ ในการประชุมใหญ่สมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์ครั้งที่ 17 เมื่อเดือนต.ค. 2007 สะท้อนว่า สีกำลังมาแรงแค่ไหน หลังจากการแต่งตั้งเดือนต.ค. สีก็เข้ามาดูแลงานสำคัญของประเทศ พร้อมกับความเชื่อมั่นของนักสังเกตการณ์ ที่มองเห็นแววว่า สีน่าจะนั่งเก้าประธานาธิบดีต่อจากหูแน่นอน

แม้ตำแหน่งรองประธานาธิบดี จะเป็นเพียงตำแหน่งที่ไม่มีบทบาทอะไร ทว่าการดำรงตำแหน่งดังกล่าวจะทำให้สีได้พบปะกับนักการทูต และบุคคลสำคัญระดับโลก เมื่อนำมาทบกับการที่เขาได้รับมอบหมาย ให้ดูแลงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปักกิ่ง บารมีของสีจึงมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้น