ไชน่าเดลี่-ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนปี 2008 จาก 10.8% เหลือ 9.6% ปัจจัยจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก
รายงานเศรษฐกิจจีนประจำไตรมาสฉบับล่าสุดของธนาคารโลกที่ออกมาเมื่อวันจันทร์(4 ก.พ.)ยังระบุว่า ผลกระทบจากพายุหิมะครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปีของจีนนั้นจะอยู่ในวงจำกัดและเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น
นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี ที่ธนาคารโลกคาดการณ์การขยายตัวเศรษฐกิจจีนต่ำกว่า 10 % ทั้งที่ปีที่แล้วเศรษฐกิจจีนขยายตัวสูงสุดในรอบ 13 ปี ที่ 11.4%
“เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการส่งออกของจีน แต่ความต้องการบริโภคภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงเล็กน้อยจะช่วยสร้างสมดุลให้เศรษฐกิจจีน”เดวิด ดอลลาร์ ผู้อำนวยการธนาคารโลกประจำประเทศจีน กล่าวในงานแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์(4 ก.พ.)
ทั้งนี้ ปีที่แล้ว นับเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปีที่การบริโภคของจีน ครองสัดส่วนจีดีพีถึง 4.4% มากกว่าการส่งออกและการลงทุนสุทธิซึ่งอยู่ที่ 2.7%และ 4.3% ตามลำดับ สำนักงานสถิติแห่งชาติระบุ
รายงานยังระบุว่า ไม่ควรมองว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นลางร้าย เนื่องจากเศรษฐกิจจีนโดยรวมอยู่ในสถานะแข็งแกร่งมากพอที่จะกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ โดยการผ่อนคลายนโยบายการคลังและควบคุมสินเชื่อ หากเศรษฐกิจโลกหรือสหรัฐฯตกต่ำลงกว่าที่เป็นอยู่
อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาหนักของรัฐบาลจีน และคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภค(ซีพีไอ) ซึ่งเป็นปรอทวัดเงินเฟ้อ จะเพิ่มสูงขึ้นในเดือนมกราคม หลังจากที่ขยายตัวในระดับสูงกว่า 6% ในช่วง 5 เดือนสุดท้ายของปี 2007 แต่มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง หลังผ่านพ้นช่วงวิกฤตภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นระยะสั้นนี้ไป Louis Kuijs นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของธนาคารโลกกล่าว
นอกจากนี้ ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบอย่างหนักหน่วงต่อการขยายตัวของเงินเฟ้อ
ดอลลาร์ยังแย้งคำกล่าวของนักวิเคราะห์บางรายที่ชี้ว่า การที่จีนแข็งค่าเงินหยวนเร็วขึ้นจะช่วยลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ เพราะจะทำให้สินค้านำเข้าราคาถูกลงนั้น ไม่ใช่เครื่องมือที่ดีที่สุด แต่การค่อยๆปรับค่าเงินหยวนนั้นเป็นมาตรการที่เหมาะสมกว่า เนื่องจากจะสร้างพื้นที่ให้เศรษฐกิจจีนได้ปรับตัวเพื่อรับการเปลี่ยนแปลง.