>>เพราะมีต้นแบบที่ดีอย่างคุณอา ทำให้สาวน้อยหน้าใสวัย 24 ปีคนนี้ “ริซ่า-วริศรา อัสสกุล” สามารถวางแผนการเดินบนเส้นทางชีวิตได้อย่างแน่ชัดว่าจะตั้งเข็มทิศไปยังทิศทางไหน ถึงแม้ว่าเธอเพิ่งจะจบการศึกษามาเพียงไม่กี่เดือน
“นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์” คือคุณอาที่เราพูดถึง เธอคือหญิงเหล็กแห่งธุรกิจประกันภัย ผู้บริหารในเจเนอเรชันที่สองที่กำลังดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด ควบตำแหน่งประธานกรรมการ บริษัท แฮนส์ แมเนจเมนต์ จำกัด นำเข้าสถาบันการศึกษามีชื่อระดับพรีเมียมจากสหราชอาณาจักรอย่าง “ไบรท์ตัน คอลเลจ” (Brighton College) มายังเมืองไทย และดึงหลานสาวที่เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีหมาดๆ ทางด้านสิ่งแวดล้อมศึกษาและเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก มาช่วยงาน
แม้จะเรียนจบมาไม่ตรงสายเสียทีเดียว แต่วริศราอาศัยดึงเอาประสบการณ์ในฐานะศิษย์เก่าที่เคยทำงานใน Student Council ประจำโรงเรียนบางกอกพัฒนามาใช้ ทำให้เธอสนุกไปกับงานที่ท้าทายความสามารถชิ้นแรกในชีวิตชิ้นนี้
“คุณอาเคยบอกมาตั้งแต่ริซ่าเด็กๆ แล้วว่าให้เอนจอยชีวิต 4 ปีในมหาวิทยาลัย เพราะเป็น Life Experience ครั้งแรกในชีวิตที่เราไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ จากนั้นค่อยศึกษาต่อทางด้านบริหารธุรกิจตอนเรียนปริญญาโทก็ยังไม่สาย” วริศราชี้แจง “ส่วนที่เลือกเรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์และสิ่งแวดล้อม เพราะสังเกตตัวเองมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วว่าเป็นคนใช้ข้าวของแบบประหยัด ก่อนออกจากห้องจะต้องปิดแอร์และปิดไฟก่อนเสมอ เพราะริซ่ารู้สึกว่าถ้าเราไม่ประหยัดทรัพยากรและพลังงานเสียตั้งแต่วันนี้ จะส่งผลกระทบต่อโลกเราในอนาคตอันใกล้อย่างแน่นอน เลยเลือกศึกษาทางด้านนี้โดยตรง ซึ่งก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ทั้งในชีวิตประจำวันและในเนื้องานที่กำลังทำอยู่
“เริ่มตั้งแต่ตอนที่สถาปนิกออกแบบไบรท์ตัน คอลเลจ เราก็เสนอความคิดเห็นกับเขาไปว่าอยากให้มีแผงโซลาร์เซลล์เพื่อดึงพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้ หรือระบุให้มีการออกแบบระบบรีไซเคิลน้ำภายในโรงเรียน อย่างน้ำล้างมือที่ไม่ได้สกปรกมากก็นำมาผ่านการกรองสักหนึ่งหรือสองรอบก่อนจะเอากลับมาใช้เป็นน้ำรดต้นไม้ หรือน้ำที่ใช้สำหรับชักโครก เป็นต้น ซึ่งก็เป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายไปในตัว อีกทั้งเรายังสามารถเอาเรื่องของความเป็น Green School มาสอนเด็กๆ ได้อีกด้วย” สาวน้อยเจ้าไอเดียเล่าด้วยน้ำเสียงสดใส
นอกเหนือไปจากนี้ ในฐานะผู้ประสานงานโครงการ เธอยังรับหน้าที่ประสานงานติดต่อกับทางไบรท์ตัน คอลเลจ สหราชอาณาจักร ดูแลด้านการตลาด และสรรหาบุคลากรครูให้กับโรงเรียนนานาชาติแห่งนี้ ที่นับเป็นส่วนต่อยอดความสำเร็จของโรงเรียนนานาชาติเซนต์ สตีเฟ่น ทั้งที่เขาใหญ่และกรุงเทพฯ
“คุณปู่ของริซ่าสร้างโรงเรียนเซนต์ สตีเฟ่นขึ้นมาเพราะอยากสร้างโรงเรียนที่เน้นให้เด็กทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเก่งด้านวิชาการเพียงอย่างเดียว อยากให้เด็กเก่งทั้งด้านดนตรี ศิลปะ หรือกีฬาควบคู่ไปด้วย ยิ่งถ้าเขารู้จักตัวเองเร็วว่าชอบทางด้านศิลปะ เราก็ควรผลักดันให้เขามุ่งไปทางนั้นอย่างไม่ลังเล เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราทำอะไรด้วยแพสชัน เราจะทำสิ่งนั้นได้ดีที่สุด เช่นเดียวกับการนำเข้าโรงเรียนนานาชาติไบรท์ตันจากประเทศอังกฤษ เพราะวิสัยทัศน์และวิธีการเรียนการสอนของที่นี่ไม่เหมือนใคร คือเน้นการสอนโดยยึดแรงบันดาลใจเป็นตัวขับเคลื่อน หรือที่เรียกกันว่า Inspirational Teaching มีการกระตุ้นให้เด็กรู้จักคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ โดยมีครูเป็นแรงผลักดันที่ดีเพื่อช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก”
งานอื่นนอกเหนือไปจากนี้ คือการเป็นเจ้าหน้าที่การขายและการตลาด บริษัท โอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด รับผิดชอบงานด้านคิดค้นกลยุทธ์และดำเนินการตามแผนงาน เพื่อขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ทั้งในกรุงเทพฯ และพัทยา ซึ่งเป็นแขนงงานที่ริซ่าคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เพราะเคยใช้เวลาช่วงปิดเทอมในการฝึกงานประจำแผนกการตลาดและแผนกพัฒนาที่ดินที่บริษัทฯ มาก่อน บวกกับความชอบด้านอสังหาริมทรัพย์ที่สั่งสมอยู่ในตัวมานาน ทำให้เธอมีความสุขกับงานที่ได้รับมอบหมายในแต่ละวัน
“ริซ่าชอบอสังหาริมทรัพย์อยู่แล้ว เวลาว่างชอบตระเวนดูคอนโดหรือโรงแรมตามที่ต่างๆ เพราะชอบทางด้านอินทีเรีย แค่ไปเดินดูการตกแต่ง การเลือกใช้กระเบื้อง การจัดวางเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นก็สนุกแล้ว หรือบางครั้งก็ทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปขอดูโครงการโน้นโครงการนี้ ทั้งเพื่อสำรวจด้วยว่าคู่แข่งของเรากำลังทำอะไรอยู่ และบริการของแต่ละเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง อะไรที่ดีเราอาจจะนำกลับมาใช้ในงานของเรา ส่วนข้อเสียก็อย่าไปทำตาม จนพอใกล้จะเรียนจบเลยขอคุณอาว่าอยากลองทำงานด้านนี้ดูก่อน ปัจจุบัน ริซ่าดูแลด้านการตลาดและการขายให้กับโครงการ 2 แห่ง คือ O2 Condominium ที่เพลินจิต กับ Ocean Portofino Condominium ที่พัทยา ซึ่งวิธีเรียนรู้งานส่วนใหญ่คือการ learn on the job เลยค่ะ เวลาเข้าประชุมก็คอยฟังผู้ใหญ่ว่าเขาทำงานกันอย่างไร ต้องเรียนรู้ให้เร็ว”
เพราะมีบุคคลต้นแบบเป็นนักธุรกิจหญิงที่ทั้งเก่ง คล่องแคล่ว และเป็นผู้นำอย่างเหนือชั้น จึงเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้ริซ่าเติบโตทางวิชาชีพอย่างรวดเร็ว
“ริซ่าอยากเป็นเหมือนคุณอา” เธอยอมรับด้วยน้ำเสียงภาคภูมิ “โชคดีที่สนิทกับคุณอาตั้งแต่เด็ก พอเรียนมหาวิทยาลัยก็เริ่มฟังคุณอาเรื่องธุรกิจมากขึ้น พอเริ่มทำงานก็รู้สึกทึ่งมากเวลาเห็นคุณอาประชุมร่วมกับทีมก่อสร้าง ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด มีคุณอาเป็นผู้หญิงคนเดียวที่นั่งอยู่หัวโต๊ะและเป็นคนตัดสินใจทุกเรื่องอย่างเด็ดขาด ที่สำคัญคือ ทุกคนเคารพการตัดสินใจของคุณอา เพราะทุกคนรู้ว่าการตัดสินใจของคุณอาเกิดจากเหตุและผล ไม่ได้ใช้อารมณ์”
นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สาวน้อยกระโดดเข้าสู่โลกของการทำธุรกิจตั้งแต่เป็นบัณฑิตจบใหม่ และดูท่าว่าจะไปได้สวย ด้วยความมั่นใจที่มีในตัวเอง บวกกับการได้ครูที่ดีที่จะทำให้ริซ่าเข้าใจในหลักการบริหารธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น โดยยังไม่ต้องเริ่มเรียนปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากสถาบันใด ที่สำคัญ สาวนักกิจกรรมคนนี้เริ่มแอบกอดกุมความฝันในการต่อยอดธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของทางบ้านไว้ในใจแล้ว
“ด้วยความที่โอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ สร้างคอนโดมิเนียมในระดับไฮเอนด์มาตลอด ทำให้ริซ่าเริ่มนึกถึงการทำคอนโดมิเนียมแนวราบดูบ้าง เนื่องจากเรายังมีที่ดินอีกเยอะพอสมควรที่ยังไม่ได้พัฒนา คิดว่าอาจจะทำคอนโดมิเนียมแบบแมสในราคาล้านถึงสองล้านบาท น่าจะเป็นอีกหนึ่งความท้าทายในอนาคต” ว่าที่ผู้บริหารเลือดใหม่แห่งวงการอสังหาริมทรัพย์ปิดท้าย
RISA’s Little World
:: ริซ่าหลงใหลการทำกิจกรรมมาแต่ไหนแต่ไร สมัยเรียนอยู่โรงเรียนบางกอกพัฒนา เธอเป็นทั้งนักกีฬาวอลเลย์บอล บาสเกตบอล และซอฟต์บอล
:: พอไปเรียนที่นิวยอร์ก เธอหันมาสนุกกับการแจมเล่นดนตรีที่ Washington Square Park ซึ่งเป็นสวนสาธารณะใจกลางมหาวิทยาลัย โดยเธอทั้งเล่นกีตาร์และร้องเพลง
:: ศิลปินคนโปรดคือ Sara Bareilles ริซ่ามักไปชมดนตรีที่ Rockwood Music Hall ซึ่งเป็นมิวสิกบาร์ที่เคยแจ้งเกิดให้กับศิลปินดังๆ มาแล้วหลายราย เช่น เลดี้ กาก้า และบ่อยครั้งที่ริซ่ามักพบซาร่านั่งฟังดนตรีอยู่ไม่ไกลกัน :: Text by FLASH