By Lady Manager
แอบไปแซ่บในงาน LeSasha Workshop : New Look New You เพราะมีบล็อกเกอร์สาวผมสวยสุดขีดอย่าง ส้ม-ณัฐกานต์ ธัญวิวัฒน์ เจ้าของบล็อก beautybyorangina มาสอนการทำผมด้วยตัวเอง เราจึงแอบไปถามทีเด็ดเคล็ดลับ ผมสวยเงางามขนาดนี้มาฝาก
"ร้านทำผมไม่ได้กินเงินส้มหรอก" ส้ม บล็อกเกอร์สาวผมสลวยสวยพริ้ว กล่าว
"ปกติส้มจะทำผมเองที่บ้าน ส้มเป็นคนชอบทำทรีทเมนต์ผมอยู่แล้ว รู้สึกว่า เราทำผมเองที่บ้านได้ ไม่จำเป็นจะต้องไปทำที่ร้านทำผม เพราะเข้าไปทำทรีทเมนต์ผมครั้งนึงมันก็หลายตังค์อยู่นะ”
อ๊ะ! ย้อนไปในอดีตคุณส้มก็เคยมีผมที่แห้งเสีย จนช่างทำผมไม่อยากจะแตะต้องผมของเธอเลย เพราะไดร์ยากมาก
“แต่ก่อนส้มชอบทำสีผมแฟชั่นมาก ทำมาทุกสี ทั้ง เขียว น้ำเงิน ม่วง ยืดผมทุกปี พอทำอะไรกับผมบ่อยๆทำให้เส้นผมโดนสารเคมีเยอะ แห้งเสีย พอถึงจุดหนึ่งจึงอิ่มตัวหยุด เพราะผมเราแย่มาก เครียดมากผมฟู ไม่มีน้ำหนักเลย
เสียขนาดที่ว่า มีช่างผมที่ส้มเคยไปทำเห็นส้มเดินไปที่ร้านก็ไม่อยากจะไดร์ผมให้ เพราะไดร์ผมยากมาก อาการแย่จริงๆ”
จากนั้นเป็นต้นมาจึงเริ่มบำรุงผมอย่างมีวินัยอยู่แรมปี ส่วนวิธีดูแลเส้นผมของคุณส้มจะมีอะไรบ้าง ชนิดที่ร้านทำผมแทบจะไม่ได้แอ้มเงินเธอ เราลองไปดูกันจ้า
น้ำมันมะพร้าว ตัวแม่บำรุงผมแข็งแรง
“อย่างที่ส้มใช้บ่อยเลยคือ น้ำมันมะพร้าว ที่สกัดเย็นบริสุทธิ์ 100% มีขายทั่วไป ถามว่าเหนียวไหม มันก็เหนียวนะ แต่ว่า เราจะไม่ใช้หลังจากที่เราสระผมเสร็จแล้ว
ใช้น้ำมันมะพร้าวหมักก่อนสระผม จากนั้นนวดให้ตัวน้ำมันมะพร้าวซึมเข้าสู่เส้นผม และหนังศีรษะ ไม่ต้องกลัวหนังศีรษะเหนียว นวดให้โดนหนังศีรษะได้ยิ่งดี จะช่วยทำให้รูขุมขนของเส้นผมของเราเเข็งแรงมากขึ้น
วิธีคือ ส้มจะนำน้ำมันมะพร้าวมาหยดตามหนังศีรษะ จากนั้นก็นวดเส้นผมก่อนสระผม ไม่ต้องเน้นตรงปลายมากจะทำให้สางยาก เพราะเหนียว
ตามมือจะมีน้ำมันมะพร้าวติดมืออยู่ก็นำมาสางๆ นวดๆ ลูบบริเวณปลายผม จากนั้นทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นสระผมตามปกติ รับรองไม่เหลือความมันบนเส้นผม ส่วนปริมาณนั้นตามความยาว ความหนา ของเส้นผมแต่ละคนเลยค่ะ
หรือถ้าไม่ใช้น้ำมันมะพร้าวก็ใช้พวกน้ำมันมะกอก หวานหางจระเข้ งาดำ ช่วยให้ผมแข็งแรงดกดำอีกด้วย”
->คลิปหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว
แต่ถ้าไม่อยากใช้น้ำมันมะพร้าว คุณส้มก็แนะนำพวกครีมหมักผมทั่วไปที่เราหาซื้อได้เป็นกระปุก
ผมเสียขั้นโคม่า! ใช้ทรีทเมนต์หมักแทนครีมนวด 3 เดือน
“ในกรณีที่ผมเสียมากส้มแนะนำพวกทรีทเมนต์ที่เป็นครีมหมักผม ให้นำมาหมักแทนครีมนวดผมเลย หมักหลังสระผมทุกวันแทนครีมนวดผม
เพราะตัวทรีทเมนต์จะมีความเข้มข้นสูงกว่าครีมนวดผมอยู่แล้ว ใช้แทนครีมนวดไปเลย วิธีหมักคือ หมักผมตั้งแต่ช่วงติ่งหูถึงปลายผม เนื่องจากบริเวณนี้ผมจะผ่านอะไรมาเยอะ จะเริ่มแห้งเสีย หมักแบบนี้ทุกครั้งที่สระผม
และหลังสระผมต้องบำรุงด้วยเซรั่ม จะช่วยเติมเกล็ดผมที่เปิดให้เต็ม”
คุณส้ม บอกด้วยว่า เคล็ดลับผมสวยคือ ทุก 1 สัปดาห์ ต้องมีการอบไอน้ำโดยใช้ทรีทเมนต์ที่หมักผมหลังสระนั่นแหล่ะ
“หากทำแบบนี้ติดต่อกันประมาณ 3 เดือน สุขภาพผมจะดีขึ้นมาก จากนั้นจึงสามารถใช้ครีมนวดผมหลังสระผมได้ตามปกติ โดยไม่ต้องใช้ทรีทเมนต์หมักผมทุกครั้งหลังสระก็ได้ แต่อบไอน้ำยังต้องทำอย่างสม่ำเสมอ พยายามทำอาทิตย์ละครั้ง”
อ้อ! คุณส้มบอกด้วยว่า ถ้าหากอยากทำสีผม ควรบำรุงสุดขีดก่อนทำสีประมาณ 2 สัปดาห์ รับรองผมเสียน้อยมาก
“และเมื่อรู้ตัวว่าจะไปทำสีผม ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนทำสี จำเป็นต้องบำรุงผมให้หนักกว่าเดิม ก่อนจะไปทำสีต้องหมักผมทุกวันทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้ปลายผมแข็งแรงมากๆ ก่อน เมื่อทำสีผมจะได้ไม่เสียมาก
บางคนถามว่า พี่ส้ม ทำมาเดือนหนึ่งแล้วทำไมผมยังไม่ดีขึ้นเลย ส้มแนะนำว่า ต้องใจเย็น มันไม่ได้เร็วขนาดนั้น อย่างส้มนี่บำรุงอยู่เป็นปี กว่าผมจะดีขึ้น
และที่สำคัญต้องเล็มผมตลอด ผมแตกปลายต้องหมั่นตัดทิ้ง อย่าเสียดายว่าผมจะสั้น ตัดทิ้งแล้วเลี้ยงผมใหม่ให้มีสุขภาพดี” คุณส้มแนะนำ
เลี่ยงไดร์ร้อนเป่าผมให้แห้ง “พัดลม- แอร์เย็นฉ่ำ” เวิร์คสุด!
“อย่าใช้ไดร์เป่าผมบ่อยๆ ในการเป่าผมให้แห้ง เพราะเมื่อผมเราโดนความร้อนบ่อยๆ จะทำให้เส้นผมแห้ง พัดลมดีที่สุด หรือไม่ก็แอร์รถยนต์
เพราะส้มรู้สึกว่า ถ้าใช้แอร์เป่าผม ผมจะไม่ชี้ฟู เพราะมีความชื้น ผมจะเรียบกว่าเดิม สระผมเสร็จหมาดๆ เราก็ขับรถไปทำงาน ระหว่างขับรถก็เป่าผมด้วยการเปิดแอร์เย็นๆ พอถึงที่ทำงานผมก็แห้งสวยพอดี ประหยัดเวลาอีกด้วย” คุณส้มแนะวิธีการเป่าผมให้แห้งแบบบ้านๆ
“ส่วนอาหารผมเราก็ต้องกินวิตามินเสริมด้วย ส้มทาน ไบโอติน (Biotin) เป็นสารอาหารที่บำรุงผมโดยเฉพาะ หรือวิตามินบำรุงผมตัวอื่นๆ เช่น พวกสังกะสี แมกนีเซียม
ที่สำคัญโปรตีน ขาดไม่ได้เลย เพราะเส้นผมเราคือโปรตีนล้วนๆ ร่างกายต้องการโปรตีนไปบำรุงเส้นผม
อย่างปกติถ้าเราทานอาหาร เนื้อสัตว์ ถั่ว ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็โอเค แต่บางครั้งเราไม่ได้ทานอาหารที่มีโปรตีนเป๊ะๆทุกวัน จึงต้องหาตัวช่วยมาเสริม
ถ้าไม่ได้ทานวิตามินส้มจะรู้สึกเลย ว่าผมแห้ง และสังเกตได้ว่า ผมที่ขึ้นใหม่ เส้นจะไม่ดำเงา เพราะเมื่อก่อนผมแย่มาก จึงหมั่นสังเกตผมมากขึ้น และเล็บก็จะไม่เปราะง่ายอีกด้วย”
->เก็บตกงานเวิร์คช็อป
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก เฟซบุ๊ก Beauty By Orangina
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
แอบไปแซ่บในงาน LeSasha Workshop : New Look New You เพราะมีบล็อกเกอร์สาวผมสวยสุดขีดอย่าง ส้ม-ณัฐกานต์ ธัญวิวัฒน์ เจ้าของบล็อก beautybyorangina มาสอนการทำผมด้วยตัวเอง เราจึงแอบไปถามทีเด็ดเคล็ดลับ ผมสวยเงางามขนาดนี้มาฝาก
"ร้านทำผมไม่ได้กินเงินส้มหรอก" ส้ม บล็อกเกอร์สาวผมสลวยสวยพริ้ว กล่าว
"ปกติส้มจะทำผมเองที่บ้าน ส้มเป็นคนชอบทำทรีทเมนต์ผมอยู่แล้ว รู้สึกว่า เราทำผมเองที่บ้านได้ ไม่จำเป็นจะต้องไปทำที่ร้านทำผม เพราะเข้าไปทำทรีทเมนต์ผมครั้งนึงมันก็หลายตังค์อยู่นะ”
อ๊ะ! ย้อนไปในอดีตคุณส้มก็เคยมีผมที่แห้งเสีย จนช่างทำผมไม่อยากจะแตะต้องผมของเธอเลย เพราะไดร์ยากมาก
“แต่ก่อนส้มชอบทำสีผมแฟชั่นมาก ทำมาทุกสี ทั้ง เขียว น้ำเงิน ม่วง ยืดผมทุกปี พอทำอะไรกับผมบ่อยๆทำให้เส้นผมโดนสารเคมีเยอะ แห้งเสีย พอถึงจุดหนึ่งจึงอิ่มตัวหยุด เพราะผมเราแย่มาก เครียดมากผมฟู ไม่มีน้ำหนักเลย
เสียขนาดที่ว่า มีช่างผมที่ส้มเคยไปทำเห็นส้มเดินไปที่ร้านก็ไม่อยากจะไดร์ผมให้ เพราะไดร์ผมยากมาก อาการแย่จริงๆ”
จากนั้นเป็นต้นมาจึงเริ่มบำรุงผมอย่างมีวินัยอยู่แรมปี ส่วนวิธีดูแลเส้นผมของคุณส้มจะมีอะไรบ้าง ชนิดที่ร้านทำผมแทบจะไม่ได้แอ้มเงินเธอ เราลองไปดูกันจ้า
น้ำมันมะพร้าว ตัวแม่บำรุงผมแข็งแรง
“อย่างที่ส้มใช้บ่อยเลยคือ น้ำมันมะพร้าว ที่สกัดเย็นบริสุทธิ์ 100% มีขายทั่วไป ถามว่าเหนียวไหม มันก็เหนียวนะ แต่ว่า เราจะไม่ใช้หลังจากที่เราสระผมเสร็จแล้ว
ใช้น้ำมันมะพร้าวหมักก่อนสระผม จากนั้นนวดให้ตัวน้ำมันมะพร้าวซึมเข้าสู่เส้นผม และหนังศีรษะ ไม่ต้องกลัวหนังศีรษะเหนียว นวดให้โดนหนังศีรษะได้ยิ่งดี จะช่วยทำให้รูขุมขนของเส้นผมของเราเเข็งแรงมากขึ้น
วิธีคือ ส้มจะนำน้ำมันมะพร้าวมาหยดตามหนังศีรษะ จากนั้นก็นวดเส้นผมก่อนสระผม ไม่ต้องเน้นตรงปลายมากจะทำให้สางยาก เพราะเหนียว
ตามมือจะมีน้ำมันมะพร้าวติดมืออยู่ก็นำมาสางๆ นวดๆ ลูบบริเวณปลายผม จากนั้นทิ้งไว้ 10-15 นาที จากนั้นสระผมตามปกติ รับรองไม่เหลือความมันบนเส้นผม ส่วนปริมาณนั้นตามความยาว ความหนา ของเส้นผมแต่ละคนเลยค่ะ
หรือถ้าไม่ใช้น้ำมันมะพร้าวก็ใช้พวกน้ำมันมะกอก หวานหางจระเข้ งาดำ ช่วยให้ผมแข็งแรงดกดำอีกด้วย”
->คลิปหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าว
แต่ถ้าไม่อยากใช้น้ำมันมะพร้าว คุณส้มก็แนะนำพวกครีมหมักผมทั่วไปที่เราหาซื้อได้เป็นกระปุก
ผมเสียขั้นโคม่า! ใช้ทรีทเมนต์หมักแทนครีมนวด 3 เดือน
“ในกรณีที่ผมเสียมากส้มแนะนำพวกทรีทเมนต์ที่เป็นครีมหมักผม ให้นำมาหมักแทนครีมนวดผมเลย หมักหลังสระผมทุกวันแทนครีมนวดผม
เพราะตัวทรีทเมนต์จะมีความเข้มข้นสูงกว่าครีมนวดผมอยู่แล้ว ใช้แทนครีมนวดไปเลย วิธีหมักคือ หมักผมตั้งแต่ช่วงติ่งหูถึงปลายผม เนื่องจากบริเวณนี้ผมจะผ่านอะไรมาเยอะ จะเริ่มแห้งเสีย หมักแบบนี้ทุกครั้งที่สระผม
และหลังสระผมต้องบำรุงด้วยเซรั่ม จะช่วยเติมเกล็ดผมที่เปิดให้เต็ม”
คุณส้ม บอกด้วยว่า เคล็ดลับผมสวยคือ ทุก 1 สัปดาห์ ต้องมีการอบไอน้ำโดยใช้ทรีทเมนต์ที่หมักผมหลังสระนั่นแหล่ะ
“หากทำแบบนี้ติดต่อกันประมาณ 3 เดือน สุขภาพผมจะดีขึ้นมาก จากนั้นจึงสามารถใช้ครีมนวดผมหลังสระผมได้ตามปกติ โดยไม่ต้องใช้ทรีทเมนต์หมักผมทุกครั้งหลังสระก็ได้ แต่อบไอน้ำยังต้องทำอย่างสม่ำเสมอ พยายามทำอาทิตย์ละครั้ง”
อ้อ! คุณส้มบอกด้วยว่า ถ้าหากอยากทำสีผม ควรบำรุงสุดขีดก่อนทำสีประมาณ 2 สัปดาห์ รับรองผมเสียน้อยมาก
“และเมื่อรู้ตัวว่าจะไปทำสีผม ประมาณ 2 อาทิตย์ก่อนทำสี จำเป็นต้องบำรุงผมให้หนักกว่าเดิม ก่อนจะไปทำสีต้องหมักผมทุกวันทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้ปลายผมแข็งแรงมากๆ ก่อน เมื่อทำสีผมจะได้ไม่เสียมาก
บางคนถามว่า พี่ส้ม ทำมาเดือนหนึ่งแล้วทำไมผมยังไม่ดีขึ้นเลย ส้มแนะนำว่า ต้องใจเย็น มันไม่ได้เร็วขนาดนั้น อย่างส้มนี่บำรุงอยู่เป็นปี กว่าผมจะดีขึ้น
และที่สำคัญต้องเล็มผมตลอด ผมแตกปลายต้องหมั่นตัดทิ้ง อย่าเสียดายว่าผมจะสั้น ตัดทิ้งแล้วเลี้ยงผมใหม่ให้มีสุขภาพดี” คุณส้มแนะนำ
เลี่ยงไดร์ร้อนเป่าผมให้แห้ง “พัดลม- แอร์เย็นฉ่ำ” เวิร์คสุด!
“อย่าใช้ไดร์เป่าผมบ่อยๆ ในการเป่าผมให้แห้ง เพราะเมื่อผมเราโดนความร้อนบ่อยๆ จะทำให้เส้นผมแห้ง พัดลมดีที่สุด หรือไม่ก็แอร์รถยนต์
เพราะส้มรู้สึกว่า ถ้าใช้แอร์เป่าผม ผมจะไม่ชี้ฟู เพราะมีความชื้น ผมจะเรียบกว่าเดิม สระผมเสร็จหมาดๆ เราก็ขับรถไปทำงาน ระหว่างขับรถก็เป่าผมด้วยการเปิดแอร์เย็นๆ พอถึงที่ทำงานผมก็แห้งสวยพอดี ประหยัดเวลาอีกด้วย” คุณส้มแนะวิธีการเป่าผมให้แห้งแบบบ้านๆ
“ส่วนอาหารผมเราก็ต้องกินวิตามินเสริมด้วย ส้มทาน ไบโอติน (Biotin) เป็นสารอาหารที่บำรุงผมโดยเฉพาะ หรือวิตามินบำรุงผมตัวอื่นๆ เช่น พวกสังกะสี แมกนีเซียม
ที่สำคัญโปรตีน ขาดไม่ได้เลย เพราะเส้นผมเราคือโปรตีนล้วนๆ ร่างกายต้องการโปรตีนไปบำรุงเส้นผม
อย่างปกติถ้าเราทานอาหาร เนื้อสัตว์ ถั่ว ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็โอเค แต่บางครั้งเราไม่ได้ทานอาหารที่มีโปรตีนเป๊ะๆทุกวัน จึงต้องหาตัวช่วยมาเสริม
ถ้าไม่ได้ทานวิตามินส้มจะรู้สึกเลย ว่าผมแห้ง และสังเกตได้ว่า ผมที่ขึ้นใหม่ เส้นจะไม่ดำเงา เพราะเมื่อก่อนผมแย่มาก จึงหมั่นสังเกตผมมากขึ้น และเล็บก็จะไม่เปราะง่ายอีกด้วย”
->เก็บตกงานเวิร์คช็อป
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก เฟซบุ๊ก Beauty By Orangina
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net