>>สาวผิวแทนหน้าตาคมเข้มของเราวันนี้ “โม-ม.ล.รังษิอาภา ภาณุพันธุ์” นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บุตรสาวของ “ม.ร.ว.พันธุรังษี ภาณุพันธุ์” กับ “คุณอาภาวรรณ ภาณุพันธุ์ ณ อยุธยา”
“โมเลือกเรียนสาขานี้เพราะชื่นชอบสังคมมนุษย์ทั้งในภาพรวมและปัจเจกบุคคล ซึ่งโมคิดว่าการเรียนทฤษฎีของสังคมวิทยาทำให้เราเข้าใจเหตุผลของมนุษย์และสังคมที่เราอาศัยอยู่มากขึ้น รวมถึงมองเห็นภาพรวมของชีวิตประจำวันของเราด้วยค่ะ” สาวโมเล่าให้ฟังถึงเหตุผลการเลือกศึกษาสาขาดังกล่าว
เริ่มจากที่ว่าสมัยโมเรียนอยู่เตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์ฝรั่งเศส คือสายนี้ตัวเลือกการเรียนต่อมันก็จะมีไม่มากใช่ไหมคะ เช่น อักษรศาสตร์ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์ โมรู้สึกว่ารัฐศาสตร์เป็นอะไรที่ท้าทายที่สุด เพราะส่วนใหญ่เวลานึกถึงรัฐศาสตร์คนมักจะมองว่าน่าเบื่อ เรื่องการเมืองหรือเปล่า โมเลยอยากจะลองเรียนในสิ่งที่คนไม่ค่อยสนใจหรือรู้สึกอคติ โมอยากเรียนให้รู้ว่ามันเป็นยังไงกันแน่ พอมาเรียนแล้วก็มีความสุขดีค่ะ แฮปปี้มาก”
ด้วยหน้าตาและรูปร่างสุดฟิตของเธอ เราจึงอดสงสัยไม่ได้ว่าไม่มีใครมาทาบทามให้เธอไปเป็นเชียร์ลีดเดอร์บ้างหรืออย่างไร ซึ่งสาวโมตอบอย่างอารมณ์ดีว่า “มีคนมาชวนเหมือนกันค่ะ แต่การเป็นเชียร์ลีดเดอร์ต้องขยันมากๆ แบ่งเวลาให้กับทั้งการเรียนและการซ้อมให้พอดี ซึ่งลีดที่จุฬาฯ เขาซ้อมกันหนักมาก มีซ้อมถึงเที่ยงคืนด้วย โมคิดว่าทำไม่ไหวเลยไม่ทำดีกว่าค่ะ (หัวเราะ)”
นอกจากเรียนหนังสือแล้ว ปัจจุบันสาวโมกำลังฝึกงานอยู่กับบริษัท MYSOCIALMOTION องค์กรธุรกิจเพื่อสังคมที่สร้างสรรค์โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลงโลกทั้งทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งโครงการที่หลายคนรู้จักกันดีมีชื่อว่า IDEACUBES ลูกบาศก์ยักษ์ขนาด 1 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 100 กล่อง เพื่อเป็นสื่อให้เห็นความคิดดีๆ ของเหล่าคนดัง 100 คน ก่อนนำไปจัดวางเป็นนิทรรศการไอเดียทั่วกรุงตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง และสถานที่สาธารณะกว่า 20 แห่งทั่วกรุงเทพฯ
ณ บริษัทแห่งนี้เธอรับหน้าที่เป็น Fundraiser คอยติดต่อประสานงานกับธุรกิจเรื่องข้อตกลงต่างๆ และเป็น Social Media Manager ดูแลสื่อสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์ให้กับโครงการ SocialGiver : รูปแบบใหม่ของการแบ่งปันด้วย “โครงการนี้เป็นการระดมเงินทุนรูปแบบใหม่สำหรับเด็กด้อยโอกาสในรูปแบบที่น่าสนใจกว่าเดิม คือ ผู้บริจาคหรือที่เราเรียกว่า Giver จะได้บัตรกำนัลบัตรของขวัญไปใช้ค่ะ ไม่ได้เพียงแค่บริจาคอย่างเดียวแต่ได้อะไรตอบแทนกลับไปด้วย สมมติว่าคุณบริจาคเงิน 350 บาท ให้กับโครงการ 'Zy Movement องค์กรพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ ก็จะได้รับ Voucher มูลค่า 500 บาทสำหรับรับประทานอาหารที่ Wine I Love You ค่ะ คือผู้ให้จะได้ประโยชน์เต็มๆ คือได้ทั้งบริจาคเงินช่วยเหลือโครงการต่างๆ และได้เอนจอยกับรีวอร์ดที่เรามีให้ด้วย”
“โมตัดสินใจมาฝึกงานที่นี่เพราะมีเพื่อนแนะนำมา พอได้มารู้จักโมรู้สึกว่าเป็นไอเดียที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ซึ่งถ้าเราสามารถพัฒนาไปในระดับสากลได้ โมคิดว่าโครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมมากเลยค่ะ เหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงโลกในอีกรูปแบบหนึ่งที่เราทุกคนสามารถทำได้...
หลังจากมาทำงานที่นี่โมรู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ขึ้นมาก จากเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป เรียนหนังสือ กินข้าว ดูหนังตามปกติ แต่พอได้มาทำตรงนี้ นอกจากจะได้ประสบการณ์แล้วยังเป็นการช่วยเหลือคนอื่นอีกด้วย ไม่ว่าโครงการจะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร แต่ตอนนี้ขอแค่ให้โมได้ทำงานเป็นสื่อกลางบอกผู้คนว่ามีโครงการดีๆ แบบนี้อยู่ โมก็มีความสุขมากแล้วค่ะ รวมถึงการที่โมเรียนสังคมวิทยามา พอมาทำงานตรงนี้แล้วมันก็ใช่เลย คือได้ช่วยเหลือทั้งเพื่อนมนุษย์และสังคมโดยรวมด้วย”
ในฐานะนิสิตชั้นปีสุดท้าย สาวโมเล่าให้เราฟังถึงแพลนหลังจบการศึกษาว่า เธอจะยังคงทำงานกับ MYSOCIALMOTION ต่อไปเรื่อยๆ สักประมาณสองปี จากนั้นอาจจะไปเรียนต่อปริญญาโท และสำหรับสาขาที่เธอมองไว้คือสาขามานุษยวิทยา “โมชอบสาขานี้มากค่ะ เป็นสาขาที่ไม่ค่อยมีคนเรียน ส่วนใหญ่เขาก็จะเรียนบริหารหรือการตลาดกันใช่ไหมคะ แต่โมรู้สึกว่าถ้าเราชอบและเข้าถึงสาขานี้ได้จริงๆ เราก็น่าจะตอบโจทย์ในชีวิตสำหรับตัวเราเองได้ด้วย”
“โมอยากเป็นคนที่สามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้ทั้งทางด้านจิตใจและสภาพความเป็นอยู่ ตอนนี้โมคิดว่าเราก็ต้องสร้างตัวเองให้พร้อมกัน เมื่อพร้อมแล้วเราจึงสามารถช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างเต็มที่ใช่ไหมละคะ อยากเป็นคนที่มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ โมรู้สึกว่าคนสมัยนี้ไม่ค่อยเห็นใจคนอื่นเท่าไหร่ คือคิดถึงตัวเองมากเกินไป บางครั้งคนที่มีมากแล้วก็ไม่ได้คิดแบ่งปันคนอื่น แต่สำหรับบางคนที่เขามีแล้วก็ยังรู้สึกแบ่งปันให้กับผู้อื่นด้วย โมอยากจะเป็นคนแบบนั้นบ้างค่ะ โมเชื่อว่าเราทุกคนสามารถทำได้” ม.ล.รังษิอาภา ตอบด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
ตลอดเวลาในการพูดคุยกับสาวโม เธอทำให้เราลืมไปเลยว่าเธอคือหม่อมหลวงแห่งราชสกุลภาณุพันธุ์ เพราะโมเป็นเด็กสาวอัธยาศัยดีและเป็นกันเองมากๆ อีกคนหนึ่ง เราจึงอดถามเธอไม่ได้ว่าคำว่า “หม่อมหลวง” นั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตเธออย่างไร ซึ่งโมตอบไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ตอนเด็กๆ โมโตมากับความไม่เข้าใจเรื่องนี้เลย ตอนประถมบ่นกับแม่ทุกวันว่าทำไมล่ะ ทำไมต้องหม่อมหลวงด้วย คือเรารู้สึกว่าคนอื่นเขาจะคาดหวังกับตัวเราในระดับหนึ่ง หลายๆ ครั้งที่คนสงสัยว่าเราจะใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นไหม กินอาหารเหมือนคนอื่นได้หรือเปล่า ตอนเด็กๆ โมไม่ชอบเลยค่ะ แต่พอโตขึ้นโมก็ได้รู้ว่าคำนำหน้าหม่อมหลวงไม่ได้มีไว้เพื่อความเก๋เท่ แต่มีไว้เพื่อเตือนสติให้เราระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ว่าถึงแม้จะเป็นหม่อมหลวงเราควรเข้าได้กับทุกคนทุกระดับ และที่สำคัญคือต้องรู้จักใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ในการช่วยเหลือคนอื่นให้ได้มากที่สุดด้วยค่ะ” ::Text by FLASH
ถึงแม้ว่าจะมีวัยที่แตกต่างกัน แต่ความน่ารักของพี่น้องคู่นี้ก็ไม่ได้ลดลงไปเลย แถมพี่โก้ยังแอบหวงน้องสาวคนนี้เสียด้วยสิ “พี่โก้เขาก็มีหวงบ้างค่ะเวลาที่มีหนุ่มมาจีบ หรือว่าได้ยินเราคุยโทรศัพท์ เขาก็จะหลอกถามเราว่าคุยกับใครเหรอ? (หัวเราะ) เราก็รู้ค่ะว่าพี่เขาเป็นห่วงเรานะ”
>> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net และ ติดตาม CelebStagram ได้ที่ http://www.manager.co.th/celebonline/celebstagram/
