คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
มาเรียนรู้ถึงความปรารถนาของผู้หญิงตาม ทฤษฎีตันตระ กันครับ
การปลดปล่อยจุดสุดยอดของผู้หญิง
กล่าวกันบ่อยว่าอวัยวะเพศที่ทรงพลังที่สุดของผู้หญิง อยู่ตรงกลางระหว่างหูทั้งสองข้างของพวกเธอ ด้วยเหตุที่ความปรารถนาถูกลัดวงจรได้ด้วยความกลัว การรู้สึกผิด ความเครียด และความคิดหดหู่อีกเป็นขบวน
ผู้หญิงจึงจำเป็นต้องมีสมาธิอยู่กับ “ความรู้สึก” มากกว่า “ความคิด” เมื่อมีการร่วมรัก
การหยุดพักเพื่อเล้าโลมซึ่งกันและกันด้วยมือและปาก เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการขจัดความวอกแวกใดๆ ที่ยังคาใจอยู่ และเพื่อกระตุ้นการบรรลุจุดสุดยอดสักครั้งสองครั้งด้วยการกระตุ้นปุ่มกระสัน
ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการการกระตุ้นปุ่มกระสันและแคมในขณะมีเซ็กซ์ เพื่อการบรรลุจุดสุดยอด การสัมผัสปุ่มกระสันอย่างนุ่มนวลยาวนานด้วยมือที่อดทน คือ กุญแจไขสู่ความรัญจวนทางเพศ ใช้เสียงและถ้อยคำเชิงบวกเพื่อนำทางหนุ่มคนรักของคุณ เป็นการแสดงให้คู่รักของคุณเห็นว่าการลูบไล้เช่นนั้นแหละสุดยอด
จุดศักดิ์สิทธิ์
จี-สปอต (GRAFENBERG-SPOT) คือ จุดลึกลับในช่องคลอดที่กล่าวอ้างในลัทธิตันตระว่าเป็น “จุดศักดิ์สิทธิ์” จุดไวสัมผัสทางเพศนี้ตั้งอยู่ประมาณ 2-3 นิ้ว ลึกเข้าไปจากปากช่องคลอดที่ผนังด้านบน ขณะเล้าโลมคนรัก ก็ให้คุณผู้ชายสอดนิ้วกลางเข้าไปในช่องคลอดของเธอเพื่อให้ปลายนิ้วสัมผัสกับผนังด้านบนบริเวณที่มีรอยขรุขระเล็กน้อย
จี-สปอต มีขนาดประมาณเมล็ดถั่วเขียวและมีผิวขรุขระอย่างที่บอก สำหรับผู้หญิงบางคน แม้จะไม่ทุกคน การกระตุ้นเบาๆ ที่จุดนี้สามารถเหนี่ยวนำการบรรลุจุดสุดยอดอันทรงพลังได้ และทำให้เกิดการหลั่งน้ำกามของผู้หญิงได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม โปรดระมัดระวังการกระตุ้นจุดไวสัมผัสนี้มากเกินไปด้วย
ตามปรัชญาตันระ คู่รักที่ฝึกปฏิบัติเทคนิคโบราณเหล่านี้สามารถเรียนรู้วิธีนำทางสำหรับพลังทางเพศโดยผ่านทาง “จักระ” หรือศูนย์พลัง เชื่อกันว่าการเคลื่อนย้ายพลังการบรรลุจุดสุดยอดผ่านช่องทางทางกายภาพเหล่านี้ จะเป็นการสร้างความรู้สึกเพลิดเพลินยินดีทั่วร่างและเป็นการเพิ่มพูนสุขภาพด้วย
ยังมีสิ่งต่างๆ ให้เรียนรู้อีกมากเกี่ยวกับศิลปะโบราณนี้ “ตันตระคือโรงเรียนที่มีหลายหลักสูตรในหลายระดับของการศึกษา และเป็นปริญญาอันไม่มีขีดจำกัดสำหรับศักยภาพของการได้รับทางจิตวิญญาณ สำหรับความยินดีทางกามารมณ์และสำหรับความสำเร็จอันกว้างขวาง” ชาร์ลและแคโรไลน์ มุยร์ ผู้ประพันธ์ “ตันตระ: ศิลปะแห่งการรักอย่างมีสติ” กล่าว
ถึงแม้ทั้งสองจะเตือนว่าตันตระไม่รับประกันผลลัพธ์โดยทันที แต่สำหรับคู่รักที่ปรารถนาจะเพิ่มพูนความสัมพันธ์ การฝึกเหล่านี้จะ “สามารถปลดปล่อยพลังงานพิเศษอย่างหนึ่งซึ่งสามารถนำความประสานกลมกลืนมาสู่คุณได้ และยังเพิ่มพูนความยินดีและใกล้ชิดทางเพศให้แก่คุณด้วย
******
*ความรักและกามารมณ์หลังมีลูก*
การเลี้ยงดูลูกเป็นความเหน็ดเหนื่อยได้ทั้งทางกายและอารมณ์ ถ้าลูกๆไม่ขัดขวางการนอนและความเป็นส่วนตัวของคุณ พวกเขาก็จะขัดขวางคุณในเรื่องการสนทนาอันราบรื่น ดินเนอร์อันโรแมนติก การไปเที่ยวสุดสัปดาห์และการมีเซ็กซ์อย่างไม่รีบร้อนในเวลาใดก็ได้ ทีนี้ลองมองในด้านบวกบ้าง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จำนวนมากเชื่อว่า คุณสามารถมีลูกและชีวิตรักไปพร้อมๆ กันได้
ดร.เอลเลน ครีดแมน ผู้เขียน “หลังมีลูกยังมีเซ็กอยู่อีกไหม?” กล่าวว่า “หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงความรักให้ลูกๆ เห็นก็คือ การมีความสัมพันธ์อันน่ารักกับคู่ชีวิตของคุณ” ดร.เอลเลนได้ช่วยคู่สามี-ภรรยาให้กลายเป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้นโดยการเป็นคู่หูและคู่รักที่ดีขึ้นมาแล้วจริงๆ
เหตุผล 3 ประการที่ทำให้เปลวสวาทมอดหลังมีลูก
1. มันยากที่จะเปลี่ยนเกียร์
ดร.เอลเลนกล่าวว่ามันยากที่จะเปลี่ยนจากบทบาทพ่อแม่มาเป็นคู่รัก การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนวิธีเรียกชื่อคู่รักของคุณ คุณหมอสาวบอกให้คู่สามี-ภรรยาเรียกซึ่งกันและกันด้วยชื่อของสัตว์เลี้ยงของพวกเขา (อันนี้เห็นทีจะยากสำหรับคนไทย คุณผู้หญิงจะกล้าเรียกสามีของคุณว่า “ไอ้ย่น”ตามชื่อหมาหน้าย่นของคุณไหม เอาเป็นชื่อเล่นตอนเด็กจะเหมาะกว่า)อย่าเรียกคู่รักของคุณว่า “แม่”หรือ “พ่อ” ตามลูกเป็นอันขาด เพราะนั่นเป็นวิธีอันแน่นอนในการกีดกันคู่ชีวิตของคุณออกจากความรู้สึกเซ็กซี่
2. คุณใช้ความชินชาต่อกัน
คุณวางมือในสิ่งที่กำลังทำอยู่และทักทายคู่สมรสของคุณด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาหรือเธอกลับจากทำงาน หรือว่าคุณพูดโทรศัพท์ต่อไปในขณะที่คุณช่วยลูกทำการบ้านและทำอาหารค่ำ? ดร.เอลเลนแนะนำให้คู่สามี-ภรรยานึกถึงตอนที่พวกเขารักกันใหม่ๆว่ามันเป็นอย่างไร ตอนที่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งวันน่ะ ให้ทักทายคู่รักของคุณในวิธีที่จะทำให้เขาหรือเธอรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ โอบกอด จูบและถามไถ่คนรักของคุณเกี่ยวกับการงานของเขาหรือเธอ
3. คุณจมปลักอยู่ในกิจวัตรประจำวัน แทนที่จะเป็นคู่รักกัน
คู่ผัวตัวเมียมักจะกลายเป็นคู่หูในการทำงาน เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คู่สามี-ภรรยามักจะลงเอยด้วยการมีเซ็กซ์แบบกิจวัตร (ทำไปแกนๆตามหน้าที่ ว่างั้นเถอะ) ดร.เอลเลน กล่าวว่า ในขณะที่คุณอาจต้องกำหนดตารางเวลาเพื่ออยู่กันตามลำพังหลังจากมีลูกแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถทำชีวิตกามารมณ์ของคุณให้น่าตื่นเต้นได้ เป็นนักสร้างสรรค์หน่อย ตัวอย่างเช่น ร่วมรักกันในห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องนอน (ตอนลูกไม่อยู่แถวนั้นเป็นดีที่สุด) สร้างความประหลาดใจให้คู่รักด้วยชุดชั้นในสุดเซ็กซ์ซี่หรือโทรฯหาเขาหรือเธอในที่ทำงานและจีบเจ๊าะแจ๊ะเหมือนคุณทำตอนก่อนมีลูกๆลืมตาออกมาจากที่เกิดเหตุ
คราวหน้าเราจะมาเรียนรู้วิธีมีกิจกรรมรักกับคู่ของคุณ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
มาเรียนรู้ถึงความปรารถนาของผู้หญิงตาม ทฤษฎีตันตระ กันครับ
การปลดปล่อยจุดสุดยอดของผู้หญิง
กล่าวกันบ่อยว่าอวัยวะเพศที่ทรงพลังที่สุดของผู้หญิง อยู่ตรงกลางระหว่างหูทั้งสองข้างของพวกเธอ ด้วยเหตุที่ความปรารถนาถูกลัดวงจรได้ด้วยความกลัว การรู้สึกผิด ความเครียด และความคิดหดหู่อีกเป็นขบวน
ผู้หญิงจึงจำเป็นต้องมีสมาธิอยู่กับ “ความรู้สึก” มากกว่า “ความคิด” เมื่อมีการร่วมรัก
การหยุดพักเพื่อเล้าโลมซึ่งกันและกันด้วยมือและปาก เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการขจัดความวอกแวกใดๆ ที่ยังคาใจอยู่ และเพื่อกระตุ้นการบรรลุจุดสุดยอดสักครั้งสองครั้งด้วยการกระตุ้นปุ่มกระสัน
ผู้หญิงส่วนใหญ่ต้องการการกระตุ้นปุ่มกระสันและแคมในขณะมีเซ็กซ์ เพื่อการบรรลุจุดสุดยอด การสัมผัสปุ่มกระสันอย่างนุ่มนวลยาวนานด้วยมือที่อดทน คือ กุญแจไขสู่ความรัญจวนทางเพศ ใช้เสียงและถ้อยคำเชิงบวกเพื่อนำทางหนุ่มคนรักของคุณ เป็นการแสดงให้คู่รักของคุณเห็นว่าการลูบไล้เช่นนั้นแหละสุดยอด
จุดศักดิ์สิทธิ์
จี-สปอต (GRAFENBERG-SPOT) คือ จุดลึกลับในช่องคลอดที่กล่าวอ้างในลัทธิตันตระว่าเป็น “จุดศักดิ์สิทธิ์” จุดไวสัมผัสทางเพศนี้ตั้งอยู่ประมาณ 2-3 นิ้ว ลึกเข้าไปจากปากช่องคลอดที่ผนังด้านบน ขณะเล้าโลมคนรัก ก็ให้คุณผู้ชายสอดนิ้วกลางเข้าไปในช่องคลอดของเธอเพื่อให้ปลายนิ้วสัมผัสกับผนังด้านบนบริเวณที่มีรอยขรุขระเล็กน้อย
จี-สปอต มีขนาดประมาณเมล็ดถั่วเขียวและมีผิวขรุขระอย่างที่บอก สำหรับผู้หญิงบางคน แม้จะไม่ทุกคน การกระตุ้นเบาๆ ที่จุดนี้สามารถเหนี่ยวนำการบรรลุจุดสุดยอดอันทรงพลังได้ และทำให้เกิดการหลั่งน้ำกามของผู้หญิงได้ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม โปรดระมัดระวังการกระตุ้นจุดไวสัมผัสนี้มากเกินไปด้วย
ตามปรัชญาตันระ คู่รักที่ฝึกปฏิบัติเทคนิคโบราณเหล่านี้สามารถเรียนรู้วิธีนำทางสำหรับพลังทางเพศโดยผ่านทาง “จักระ” หรือศูนย์พลัง เชื่อกันว่าการเคลื่อนย้ายพลังการบรรลุจุดสุดยอดผ่านช่องทางทางกายภาพเหล่านี้ จะเป็นการสร้างความรู้สึกเพลิดเพลินยินดีทั่วร่างและเป็นการเพิ่มพูนสุขภาพด้วย
ยังมีสิ่งต่างๆ ให้เรียนรู้อีกมากเกี่ยวกับศิลปะโบราณนี้ “ตันตระคือโรงเรียนที่มีหลายหลักสูตรในหลายระดับของการศึกษา และเป็นปริญญาอันไม่มีขีดจำกัดสำหรับศักยภาพของการได้รับทางจิตวิญญาณ สำหรับความยินดีทางกามารมณ์และสำหรับความสำเร็จอันกว้างขวาง” ชาร์ลและแคโรไลน์ มุยร์ ผู้ประพันธ์ “ตันตระ: ศิลปะแห่งการรักอย่างมีสติ” กล่าว
ถึงแม้ทั้งสองจะเตือนว่าตันตระไม่รับประกันผลลัพธ์โดยทันที แต่สำหรับคู่รักที่ปรารถนาจะเพิ่มพูนความสัมพันธ์ การฝึกเหล่านี้จะ “สามารถปลดปล่อยพลังงานพิเศษอย่างหนึ่งซึ่งสามารถนำความประสานกลมกลืนมาสู่คุณได้ และยังเพิ่มพูนความยินดีและใกล้ชิดทางเพศให้แก่คุณด้วย
******
*ความรักและกามารมณ์หลังมีลูก*
การเลี้ยงดูลูกเป็นความเหน็ดเหนื่อยได้ทั้งทางกายและอารมณ์ ถ้าลูกๆไม่ขัดขวางการนอนและความเป็นส่วนตัวของคุณ พวกเขาก็จะขัดขวางคุณในเรื่องการสนทนาอันราบรื่น ดินเนอร์อันโรแมนติก การไปเที่ยวสุดสัปดาห์และการมีเซ็กซ์อย่างไม่รีบร้อนในเวลาใดก็ได้ ทีนี้ลองมองในด้านบวกบ้าง ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์จำนวนมากเชื่อว่า คุณสามารถมีลูกและชีวิตรักไปพร้อมๆ กันได้
ดร.เอลเลน ครีดแมน ผู้เขียน “หลังมีลูกยังมีเซ็กอยู่อีกไหม?” กล่าวว่า “หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงความรักให้ลูกๆ เห็นก็คือ การมีความสัมพันธ์อันน่ารักกับคู่ชีวิตของคุณ” ดร.เอลเลนได้ช่วยคู่สามี-ภรรยาให้กลายเป็นพ่อแม่ที่ดีขึ้นโดยการเป็นคู่หูและคู่รักที่ดีขึ้นมาแล้วจริงๆ
เหตุผล 3 ประการที่ทำให้เปลวสวาทมอดหลังมีลูก
1. มันยากที่จะเปลี่ยนเกียร์
ดร.เอลเลนกล่าวว่ามันยากที่จะเปลี่ยนจากบทบาทพ่อแม่มาเป็นคู่รัก การเปลี่ยนผ่านดังกล่าวเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนวิธีเรียกชื่อคู่รักของคุณ คุณหมอสาวบอกให้คู่สามี-ภรรยาเรียกซึ่งกันและกันด้วยชื่อของสัตว์เลี้ยงของพวกเขา (อันนี้เห็นทีจะยากสำหรับคนไทย คุณผู้หญิงจะกล้าเรียกสามีของคุณว่า “ไอ้ย่น”ตามชื่อหมาหน้าย่นของคุณไหม เอาเป็นชื่อเล่นตอนเด็กจะเหมาะกว่า)อย่าเรียกคู่รักของคุณว่า “แม่”หรือ “พ่อ” ตามลูกเป็นอันขาด เพราะนั่นเป็นวิธีอันแน่นอนในการกีดกันคู่ชีวิตของคุณออกจากความรู้สึกเซ็กซี่
2. คุณใช้ความชินชาต่อกัน
คุณวางมือในสิ่งที่กำลังทำอยู่และทักทายคู่สมรสของคุณด้วยรอยยิ้มเมื่อเขาหรือเธอกลับจากทำงาน หรือว่าคุณพูดโทรศัพท์ต่อไปในขณะที่คุณช่วยลูกทำการบ้านและทำอาหารค่ำ? ดร.เอลเลนแนะนำให้คู่สามี-ภรรยานึกถึงตอนที่พวกเขารักกันใหม่ๆว่ามันเป็นอย่างไร ตอนที่ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันทั้งวันน่ะ ให้ทักทายคู่รักของคุณในวิธีที่จะทำให้เขาหรือเธอรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ โอบกอด จูบและถามไถ่คนรักของคุณเกี่ยวกับการงานของเขาหรือเธอ
3. คุณจมปลักอยู่ในกิจวัตรประจำวัน แทนที่จะเป็นคู่รักกัน
คู่ผัวตัวเมียมักจะกลายเป็นคู่หูในการทำงาน เมื่อเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คู่สามี-ภรรยามักจะลงเอยด้วยการมีเซ็กซ์แบบกิจวัตร (ทำไปแกนๆตามหน้าที่ ว่างั้นเถอะ) ดร.เอลเลน กล่าวว่า ในขณะที่คุณอาจต้องกำหนดตารางเวลาเพื่ออยู่กันตามลำพังหลังจากมีลูกแล้ว แต่คุณก็ยังสามารถทำชีวิตกามารมณ์ของคุณให้น่าตื่นเต้นได้ เป็นนักสร้างสรรค์หน่อย ตัวอย่างเช่น ร่วมรักกันในห้องอื่นที่ไม่ใช่ห้องนอน (ตอนลูกไม่อยู่แถวนั้นเป็นดีที่สุด) สร้างความประหลาดใจให้คู่รักด้วยชุดชั้นในสุดเซ็กซ์ซี่หรือโทรฯหาเขาหรือเธอในที่ทำงานและจีบเจ๊าะแจ๊ะเหมือนคุณทำตอนก่อนมีลูกๆลืมตาออกมาจากที่เกิดเหตุ
คราวหน้าเราจะมาเรียนรู้วิธีมีกิจกรรมรักกับคู่ของคุณ
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
