คอลัมน์ Sexociety โดย Dr.DEN
เปิดแฟ้มนักข่มขืน(ต่อ) มันจ้องเป้าหมายที่กำลังหลับ
เขตสะดวกของนักข่มขืนต่อเนื่องสามารถเป็นสถานที่หนึ่งซึ่งเหยื่อรู้สึกว่าปลอดภัยที่สุดด้วยเช่นกัน นั่นก็คือบ้านของเธอเอง และพวกมันก็มีวิธีการอย่างเป็นระบบไม่ยิ่งหย่อนกว่าสถานที่อื่นๆ เมื่อพูดถึงการวางแผนการบุกเข้าไปข่มขืนในบ้าน พวกมันจะเกาะติดกิจกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านหรืออพาร์ทเมนท์เป้าหมาย จดจำการเข้า-ออกของผู้หญิงที่หมายตาไว้ ดังนั้นพวกมันจึงรู้ว่าเมื่อไรที่เธอจะอยู่ตามลำพังและเวลาใดที่เธอเข้านอน
พวกมันมักจะทำอย่างนี้โดยการเฝ้าดูจากถนนเมื่อแสงไฟในบ้านถูกเปิดและปิด และอาจหาญถึงขนาดแอบมองเข้าไปทางหน้าต่างกระจกด้วยซ้ำ อันที่จริง บรรดามือกฎหมายผู้เชี่ยวชาญรู้ดีว่ามีความเชื่อมโยงอันแน่นแฟ้นอย่างหนึ่งระหว่างพวกตีนแมว (ซึ่งหลายคนเริ่มต้นอาชีพยกเค้าด้วยการเป็นนักถ้ำมองมาก่อน) กับนักข่มขืนต่อเนื่องซึ่งบุกจู่โจมผู้หญิงในบ้านของพวกเธอเอง
นักข่มขืนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะบุกบ้านหลังไหนก็ได้ พวกมันมักจะมองหาบ้านที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากกว่าหลังอื่นๆในย่านนั้น ตัวอย่างเช่น บ้านที่ถูกแยกตัวออกไปโดยพุ่มไม้หนาทึบหรือป่าละเมาะซึ่งทำให้ง่ายต่อการบุกเข้าไปและหนีออกมามากกว่าหลังอื่นๆ
ต่อไปนี้คือประวัติอาชญากรรมของ โรเบิร์ต เจสัน เบอร์ดิค วัย 40 ปี นักข่มขืนต่อเนื่อง ซึ่งออกข่มขืนอย่างเมามันเป็นเวลา 14 ปี ในพื้นที่แถวบ้านของเขาที่ แนชวิลล์ เบอร์ดิคซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัย มักจะข่มขืนผู้หญิงที่มีที่พักอาศัยใกล้ๆป่าละเมาะ จึงได้ฉายาว่า “นักข่มขืนราวป่า” จนกระทั่งถูกจับกุมในปี 2008
นอกจากนี้ เขายังโจมตีในคืนพายุฝนอีกด้วย อาจเป็นเพราะเสียงฝนจะช่วยกลบเสียงดังๆขณะเขาปีนเข้าหน้าต่างที่ไม่ลงกลอนได้
เบอร์ดิค สามารถโจมตีผู้หญิงกว่า 1 โหล โดยไม่โดนจับได้อย่างไร ?
หนึ่งในบรรดาเหยื่อของเขาเป็นผู้หญิงวัย 29 ซึ่งเผชิญกับเบอร์ดิคในหน้ากากไอ้โม่งและมีปืนเป็นอาวุธ เขาจับเธอมัดและข่มขืนในห้องนอนนั่นเลย
เหยื่ออีกรายอายุ 17 ปี เป็นอีกครั้งที่เบอร์คิดบุกเข้าไปปลุกเธอในห้องนอน ปืนจี้ที่ขมับและบังคับให้หญิงวัยรุ่นคนนั้นเข้าไปในโรงรถของเธอเพื่อประกอบอาชญากามของเขา
“ทำไมต้องเป็นฉัน ?” หญิงสาวถามขณะเขากุมชีวิตเธอไว้ในมือ
“ผมเฝ้ามองคุณอยู่” เบอร์คิดกล่าว “คุณสวยดี”
ในการพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องในปี 2009 และต้นปี 2010 อันนำไปสู้การตัดสินลงโทษเบอร์คิดหลายคดีนั้น ผู้หญิงหลายคนให้การว่าถูกเบอร์ดิคปลุกหรือเผชิญหน้ากับเขาด้วยวิธีคล้ายๆกัน กล่าวคือ มีหน้ากากคลุมหน้า บางครั้งมีปืนอยู่ในมือของเขา จนถึงขณะนี้ เบอร์ดิคถูกตัดสินจำคุกไปแล้วกว่า 100 ปีในเรือนจำและกำลังรอพิจารณาโทษอีกอย่างน้อย 6 คดี
น่ากลัวว่าเขาน่าจะยังคงซุ่มรอตะครุบเหยื่ออยู่ข้างนอก ถ้าไม่มีพลเมืองดีคนหนึ่งโทรหา 911 เพื่อรายงานการพบเห็นชายชุดดำสวมหน้ากากคนหนึ่งเดินถือไฟฉายอยู่ในละแวกบ้านของเขา ตำรวจกำลังเฝ้าตรวจเบอร์ดิคตลอด 24 ชั่วโมง และได้ตัวอย่าง DNA ของเขา เมื่อผลการตรวจออกมาตรงกับ DNAที่เก็บได้จากเหยื่อของนักข่มขืนราวป่า เขาก็ถูกจับกุมอย่างรวดเร็วขณะกำลังขับรถไปตามถนนระหว่างรัฐ มุ่งสู่แนชวิลล์ตะวันออก
ป้องกันโดนข่มขืน! อย่าใช้ชีวิตประจำวันซ้ำๆ
การข่มขืนเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมของคนร้าย และคุณไม่สามารถป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเป้าหมายได้อย่าง 100% หรอก แต่ผู้หญิงทุกคนควรทำตัวให้แน่ใจว่าพฤติกรรมวันต่อวันของเธอจะไม่ทำให้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่สูงขึ้น
ด้วยเหตุที่การปฏิบัติประจำวันแบบซ้ำๆของเป้าหมายนี่แหละ ที่เป็นตัวกำหนดคิวให้แก่นักล่ากามาโหด ดังนั้นคุณจึงควรลองเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นๆในการเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานเสียบ้าง โดยเลือก 2-3 เส้นทางที่คุณรู้จักดี วิธีนี้ นักล่าเหยื่อจะไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าคุณจะถึงบ้านในเวลาเดิมๆเสมอ
เพื่อเป็นการป้องกันนักข่มขืนในบ้าน อะไรบางอย่างเช่นการล็อคประตูและหน้าต่างทุกบานรวมทั้งประตูโรงรถ แม้แต่ในตอนที่คุณกำลังอยู่ในบ้าน จะสามารถสร้างความแตกต่างได้มาก โปรดระลึกไว้ว่า นักล่าเหยื่อมันลาดตะเวนล่วงหน้ามาแล้ว เพื่อหาผู้หญิงที่ไม่ล็อคประตูขณะออกไปทำธุระนอกบ้าน และเฝ้าดูว่าคุณเข้าบ้านโดยใช้ลูกกุญแจหรือไม่
พูดถึงหน้าต่าง ให้แน่ใจว่าหน้าต่างทุกบานของคุณมีม่านบังตาตอนกลางคืน หน้าต่างกระจกที่ปราศจากผ้าม่านก็คือ การป่าวประกาศว่าคุณอยู่ตามลำพังและเข้านอนตอนไหน
นักข่มขืนต่อเนื่องเหล่านี้จะเสาะหาช่วงเวลาสั้นๆ ในความล่อแหลมของคุณเมื่ออยู่ตามลำพังและ/หรือหมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัวของคุณ ช่วงระยะเวลาตี 1 ถึงตี 4 มักจะเป็นฤกษ์งามยามดีของพวกมัน ซึ่งก็จะเป็นเคราะห์หามยามร้ายของสาวๆที่จำเป็นต้องอยู่บ้านตามลำพัง เพราะช่วงเวลานั้นคนส่วนใหญ่จะหลับสนิท ยิ่งคนที่ดื่มมาหลายแก้วด้วยแล้ว จะหลับเป็นตายเลยทีเดียว
ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันนี้ แทนที่จะมุ่งหน้ากลับบ้านตามลำพัง ก็ให้ขอนอนค้างที่บ้านเพื่อนรักของคุณหรือนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน หรือหันไปหาที่พึ่งสุดท้าย... ขอให้ตำรวจท้องที่คุ้มกันคุณไปส่งที่บ้าน(ถ้าคุณมีเหตุผลที่ดีพอ เช่น คุณถูกข่มขู่ปองร้ายทางโทรศัพท์ ฯลฯ ก็คงจะมีตำรวจที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จริงๆสักคนแหละที่เห็นใจคุณ)
ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงตนว่าคุณเป็นคนตื่นรู้ระวังภัยและสามารถเรียกความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็จะทำให้คุณดูมีพลังอำนาจมากขึ้นในสายตาของนักข่มขืน แบบว่า “กูไม่ใช่ผู้หญิงที่มึงจะทำอะไรได้ง่ายๆนะเฟ้ย” ไอ้หื่นกามโหดที่ซุ่มรออยู่ก็จะหัวหดทั้งบนและล่างไปเอง
ทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกไม่ปลอดภัย
มีชายแปลกหน้าติดตามคุณไปบนถนนอันมืดมิดและว่างเปล่า : ให้คุณข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างคุณกับชายคนนั้น ถ้าเขาข้ามตามมา ให้คุณออกไปเดินกลางถนนซึ่งรถที่ผ่านมาหรือคนในบ้านแถวนั้นสามารถเห็นคุณและเข้าช่วยคุณได้ง่ายขึ้นถ้าหมอนั่นเข้าโจมตี จากนั้นคุณก็เดินอย่างมั่นคงและโทร 191
มีคนเดินเตร่หน้าทางเข้าบ้านของคุณ : อันตรายก็คือ เขาอาจพยายามติดตามคุณเข้าบ้าน และทันทีที่เขามีคุณอยู่ในสถานที่ส่วนบุคคล เขาจะกลายเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ ดังนั้นคุณจงเดินหรือขับรถเลยไปยังร้านค้าใกล้ๆ หรือหัวมุมถนนหรือที่ไหนก็ได้ที่มีคนอื่นๆ แล้วโทร 191 บอกว่าคุณต้องการตำรวจคุ้มกันคุณกลับบ้าน และให้แน่ใจว่าหมอนั่น (หรือผู้สมรู้ร่วมคิด)ไม่ได้อยู่ในบ้านของคุณ
มีเสียงที่ปลุกคุณกลางดึก : ถ้ามีเสียงใครบางคนอยู่ในบ้านของคุณหรือกำลังงัดประตูเข้ามา ให้คว้าโทรศัพท์มือถือ ไปที่ห้องนอนหรือห้องน้ำที่ล็อคประตู เพื่อไม่ให้ผู้บุกรุกรู้ว่าคุณอยู่ในห้องนั้น แล้วโทร 191 เบาๆแจ้งเหตุและบอกที่อยู่ของคุณ
มีผู้ชายท่าทีคุกคามเข้ามาในลิฟต์ว่างๆพร้อมกับคุณ : อาชญากรมักล่วงละเมิดผู้หญิงในทำเลที่พวกมันควบคุมไว้แล้ว ดังนั้นการจู่โจมภายในลิฟต์ซึ่งสามารถหยุดรับคนได้ทุกชั้น จึงไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณคิดว่าตกอยู่ในอันตราย ให้ออกจากลิฟต์โดยด่วนในชั้นที่คุณแน่ใจว่าไม่ร้างผู้คน เช่น ล็อบบี้ เป็นต้น การกดหมายเลขชั้นแบบสุ่มๆ อาจพาคุณไปยังชั้นร้าง ซึ่งเขาสามารถโจมตีคุณได้
หมายเหตุ ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในอุ้งมือมารของนักข่มขืนพันธุ์นี้ อย่าร้องตะโกนว่า “ช่วยด้วย!...ช่วยด้วย !” เป็นอันขาด คุณต้องแหกปากสุดเสียงว่า “ไฟไหม้!...ไฟไหม้!” จะมีโอกาสรอดมากกว่า
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
เปิดแฟ้มนักข่มขืน(ต่อ) มันจ้องเป้าหมายที่กำลังหลับ
เขตสะดวกของนักข่มขืนต่อเนื่องสามารถเป็นสถานที่หนึ่งซึ่งเหยื่อรู้สึกว่าปลอดภัยที่สุดด้วยเช่นกัน นั่นก็คือบ้านของเธอเอง และพวกมันก็มีวิธีการอย่างเป็นระบบไม่ยิ่งหย่อนกว่าสถานที่อื่นๆ เมื่อพูดถึงการวางแผนการบุกเข้าไปข่มขืนในบ้าน พวกมันจะเกาะติดกิจกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านหรืออพาร์ทเมนท์เป้าหมาย จดจำการเข้า-ออกของผู้หญิงที่หมายตาไว้ ดังนั้นพวกมันจึงรู้ว่าเมื่อไรที่เธอจะอยู่ตามลำพังและเวลาใดที่เธอเข้านอน
พวกมันมักจะทำอย่างนี้โดยการเฝ้าดูจากถนนเมื่อแสงไฟในบ้านถูกเปิดและปิด และอาจหาญถึงขนาดแอบมองเข้าไปทางหน้าต่างกระจกด้วยซ้ำ อันที่จริง บรรดามือกฎหมายผู้เชี่ยวชาญรู้ดีว่ามีความเชื่อมโยงอันแน่นแฟ้นอย่างหนึ่งระหว่างพวกตีนแมว (ซึ่งหลายคนเริ่มต้นอาชีพยกเค้าด้วยการเป็นนักถ้ำมองมาก่อน) กับนักข่มขืนต่อเนื่องซึ่งบุกจู่โจมผู้หญิงในบ้านของพวกเธอเอง
นักข่มขืนเหล่านี้ไม่ใช่ว่าจะบุกบ้านหลังไหนก็ได้ พวกมันมักจะมองหาบ้านที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวมากกว่าหลังอื่นๆในย่านนั้น ตัวอย่างเช่น บ้านที่ถูกแยกตัวออกไปโดยพุ่มไม้หนาทึบหรือป่าละเมาะซึ่งทำให้ง่ายต่อการบุกเข้าไปและหนีออกมามากกว่าหลังอื่นๆ
ต่อไปนี้คือประวัติอาชญากรรมของ โรเบิร์ต เจสัน เบอร์ดิค วัย 40 ปี นักข่มขืนต่อเนื่อง ซึ่งออกข่มขืนอย่างเมามันเป็นเวลา 14 ปี ในพื้นที่แถวบ้านของเขาที่ แนชวิลล์ เบอร์ดิคซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรักษาความปลอดภัย มักจะข่มขืนผู้หญิงที่มีที่พักอาศัยใกล้ๆป่าละเมาะ จึงได้ฉายาว่า “นักข่มขืนราวป่า” จนกระทั่งถูกจับกุมในปี 2008
นอกจากนี้ เขายังโจมตีในคืนพายุฝนอีกด้วย อาจเป็นเพราะเสียงฝนจะช่วยกลบเสียงดังๆขณะเขาปีนเข้าหน้าต่างที่ไม่ลงกลอนได้
เบอร์ดิค สามารถโจมตีผู้หญิงกว่า 1 โหล โดยไม่โดนจับได้อย่างไร ?
หนึ่งในบรรดาเหยื่อของเขาเป็นผู้หญิงวัย 29 ซึ่งเผชิญกับเบอร์ดิคในหน้ากากไอ้โม่งและมีปืนเป็นอาวุธ เขาจับเธอมัดและข่มขืนในห้องนอนนั่นเลย
เหยื่ออีกรายอายุ 17 ปี เป็นอีกครั้งที่เบอร์คิดบุกเข้าไปปลุกเธอในห้องนอน ปืนจี้ที่ขมับและบังคับให้หญิงวัยรุ่นคนนั้นเข้าไปในโรงรถของเธอเพื่อประกอบอาชญากามของเขา
“ทำไมต้องเป็นฉัน ?” หญิงสาวถามขณะเขากุมชีวิตเธอไว้ในมือ
“ผมเฝ้ามองคุณอยู่” เบอร์คิดกล่าว “คุณสวยดี”
ในการพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องในปี 2009 และต้นปี 2010 อันนำไปสู้การตัดสินลงโทษเบอร์คิดหลายคดีนั้น ผู้หญิงหลายคนให้การว่าถูกเบอร์ดิคปลุกหรือเผชิญหน้ากับเขาด้วยวิธีคล้ายๆกัน กล่าวคือ มีหน้ากากคลุมหน้า บางครั้งมีปืนอยู่ในมือของเขา จนถึงขณะนี้ เบอร์ดิคถูกตัดสินจำคุกไปแล้วกว่า 100 ปีในเรือนจำและกำลังรอพิจารณาโทษอีกอย่างน้อย 6 คดี
น่ากลัวว่าเขาน่าจะยังคงซุ่มรอตะครุบเหยื่ออยู่ข้างนอก ถ้าไม่มีพลเมืองดีคนหนึ่งโทรหา 911 เพื่อรายงานการพบเห็นชายชุดดำสวมหน้ากากคนหนึ่งเดินถือไฟฉายอยู่ในละแวกบ้านของเขา ตำรวจกำลังเฝ้าตรวจเบอร์ดิคตลอด 24 ชั่วโมง และได้ตัวอย่าง DNA ของเขา เมื่อผลการตรวจออกมาตรงกับ DNAที่เก็บได้จากเหยื่อของนักข่มขืนราวป่า เขาก็ถูกจับกุมอย่างรวดเร็วขณะกำลังขับรถไปตามถนนระหว่างรัฐ มุ่งสู่แนชวิลล์ตะวันออก
ป้องกันโดนข่มขืน! อย่าใช้ชีวิตประจำวันซ้ำๆ
การข่มขืนเป็นอาชญากรรมที่เกิดขึ้นเนื่องจากพฤติกรรมของคนร้าย และคุณไม่สามารถป้องกันตัวเองมิให้ตกเป็นเป้าหมายได้อย่าง 100% หรอก แต่ผู้หญิงทุกคนควรทำตัวให้แน่ใจว่าพฤติกรรมวันต่อวันของเธอจะไม่ทำให้ตกอยู่ในความเสี่ยงที่สูงขึ้น
ด้วยเหตุที่การปฏิบัติประจำวันแบบซ้ำๆของเป้าหมายนี่แหละ ที่เป็นตัวกำหนดคิวให้แก่นักล่ากามาโหด ดังนั้นคุณจึงควรลองเปลี่ยนไปใช้เส้นทางอื่นๆในการเดินทางไป-กลับระหว่างบ้านกับที่ทำงานเสียบ้าง โดยเลือก 2-3 เส้นทางที่คุณรู้จักดี วิธีนี้ นักล่าเหยื่อจะไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าคุณจะถึงบ้านในเวลาเดิมๆเสมอ
เพื่อเป็นการป้องกันนักข่มขืนในบ้าน อะไรบางอย่างเช่นการล็อคประตูและหน้าต่างทุกบานรวมทั้งประตูโรงรถ แม้แต่ในตอนที่คุณกำลังอยู่ในบ้าน จะสามารถสร้างความแตกต่างได้มาก โปรดระลึกไว้ว่า นักล่าเหยื่อมันลาดตะเวนล่วงหน้ามาแล้ว เพื่อหาผู้หญิงที่ไม่ล็อคประตูขณะออกไปทำธุระนอกบ้าน และเฝ้าดูว่าคุณเข้าบ้านโดยใช้ลูกกุญแจหรือไม่
พูดถึงหน้าต่าง ให้แน่ใจว่าหน้าต่างทุกบานของคุณมีม่านบังตาตอนกลางคืน หน้าต่างกระจกที่ปราศจากผ้าม่านก็คือ การป่าวประกาศว่าคุณอยู่ตามลำพังและเข้านอนตอนไหน
นักข่มขืนต่อเนื่องเหล่านี้จะเสาะหาช่วงเวลาสั้นๆ ในความล่อแหลมของคุณเมื่ออยู่ตามลำพังและ/หรือหมกมุ่นอยู่ในโลกส่วนตัวของคุณ ช่วงระยะเวลาตี 1 ถึงตี 4 มักจะเป็นฤกษ์งามยามดีของพวกมัน ซึ่งก็จะเป็นเคราะห์หามยามร้ายของสาวๆที่จำเป็นต้องอยู่บ้านตามลำพัง เพราะช่วงเวลานั้นคนส่วนใหญ่จะหลับสนิท ยิ่งคนที่ดื่มมาหลายแก้วด้วยแล้ว จะหลับเป็นตายเลยทีเดียว
ถ้าคุณตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กันนี้ แทนที่จะมุ่งหน้ากลับบ้านตามลำพัง ก็ให้ขอนอนค้างที่บ้านเพื่อนรักของคุณหรือนั่งแท็กซี่ไปด้วยกัน หรือหันไปหาที่พึ่งสุดท้าย... ขอให้ตำรวจท้องที่คุ้มกันคุณไปส่งที่บ้าน(ถ้าคุณมีเหตุผลที่ดีพอ เช่น คุณถูกข่มขู่ปองร้ายทางโทรศัพท์ ฯลฯ ก็คงจะมีตำรวจที่เป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จริงๆสักคนแหละที่เห็นใจคุณ)
ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงตนว่าคุณเป็นคนตื่นรู้ระวังภัยและสามารถเรียกความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งก็จะทำให้คุณดูมีพลังอำนาจมากขึ้นในสายตาของนักข่มขืน แบบว่า “กูไม่ใช่ผู้หญิงที่มึงจะทำอะไรได้ง่ายๆนะเฟ้ย” ไอ้หื่นกามโหดที่ซุ่มรออยู่ก็จะหัวหดทั้งบนและล่างไปเอง
ทำอย่างไรเมื่อคุณรู้สึกไม่ปลอดภัย
มีชายแปลกหน้าติดตามคุณไปบนถนนอันมืดมิดและว่างเปล่า : ให้คุณข้ามไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเพิ่มระยะห่างระหว่างคุณกับชายคนนั้น ถ้าเขาข้ามตามมา ให้คุณออกไปเดินกลางถนนซึ่งรถที่ผ่านมาหรือคนในบ้านแถวนั้นสามารถเห็นคุณและเข้าช่วยคุณได้ง่ายขึ้นถ้าหมอนั่นเข้าโจมตี จากนั้นคุณก็เดินอย่างมั่นคงและโทร 191
มีคนเดินเตร่หน้าทางเข้าบ้านของคุณ : อันตรายก็คือ เขาอาจพยายามติดตามคุณเข้าบ้าน และทันทีที่เขามีคุณอยู่ในสถานที่ส่วนบุคคล เขาจะกลายเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ ดังนั้นคุณจงเดินหรือขับรถเลยไปยังร้านค้าใกล้ๆ หรือหัวมุมถนนหรือที่ไหนก็ได้ที่มีคนอื่นๆ แล้วโทร 191 บอกว่าคุณต้องการตำรวจคุ้มกันคุณกลับบ้าน และให้แน่ใจว่าหมอนั่น (หรือผู้สมรู้ร่วมคิด)ไม่ได้อยู่ในบ้านของคุณ
มีเสียงที่ปลุกคุณกลางดึก : ถ้ามีเสียงใครบางคนอยู่ในบ้านของคุณหรือกำลังงัดประตูเข้ามา ให้คว้าโทรศัพท์มือถือ ไปที่ห้องนอนหรือห้องน้ำที่ล็อคประตู เพื่อไม่ให้ผู้บุกรุกรู้ว่าคุณอยู่ในห้องนั้น แล้วโทร 191 เบาๆแจ้งเหตุและบอกที่อยู่ของคุณ
มีผู้ชายท่าทีคุกคามเข้ามาในลิฟต์ว่างๆพร้อมกับคุณ : อาชญากรมักล่วงละเมิดผู้หญิงในทำเลที่พวกมันควบคุมไว้แล้ว ดังนั้นการจู่โจมภายในลิฟต์ซึ่งสามารถหยุดรับคนได้ทุกชั้น จึงไม่ค่อยเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณคิดว่าตกอยู่ในอันตราย ให้ออกจากลิฟต์โดยด่วนในชั้นที่คุณแน่ใจว่าไม่ร้างผู้คน เช่น ล็อบบี้ เป็นต้น การกดหมายเลขชั้นแบบสุ่มๆ อาจพาคุณไปยังชั้นร้าง ซึ่งเขาสามารถโจมตีคุณได้
หมายเหตุ ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในอุ้งมือมารของนักข่มขืนพันธุ์นี้ อย่าร้องตะโกนว่า “ช่วยด้วย!...ช่วยด้วย !” เป็นอันขาด คุณต้องแหกปากสุดเสียงว่า “ไฟไหม้!...ไฟไหม้!” จะมีโอกาสรอดมากกว่า
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net