xs
xsm
sm
md
lg

Review : HTC Touch2 กับนิยามวินโดวส์โฟน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




การที่เอชทีซีวาง Touch2 ออกมาเป็นเครื่องรุ่นแรกที่ใช้วินโดวส์ โมบาย 6.5 ซึ่งทางไมโครซอฟท์หวังไว้มากกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่นี้ ที่จะมาช่วยทำให้ส่วนแบ่งตลาดของวินโดวส์ จะไม่โดนไอโฟน บีบี รวมไปถึงน้องใหม่อย่างแอนดรอยด์เบียดตกไปมากกว่านี้ ด้วยการรีแบรนด์ให้ทันสมัยโดยเรียกว่าวินโดวส์โฟน

ในขณะเดียวกันทางเอชทีซีเองก็คาดหวังไว้กับรุ่นนี้มากเช่นกัน เพราะเป็นตัวที่เข้ามาแทนรุ่นยอดนิยมอย่าง Touch โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะขายให้ได้ 50,000 เครื่องภายใน 1 ปี นับจากวางจำหน่าย แต่ทั้งนี้ยังต้องดูปัจจัยจากผู้เล่นรายอื่นที่เข้ามาแข็งขันด้านราคากันอยู่ดี

ในส่วนสเปกตัวเครื่องของ Touch2 แทบไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้อย่าง Touch 3G หรือ Cruise'09 ที่ออกวางจำหน่ายก่อนหน้านี้ไม่มากนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความละเอียดจอแบบ QVGA ซีพียู รอม แรม รวมไปถึงรองรับการเชื่อมต่อ 3G ทำให้สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่มีเพียงช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ดีไซน์ที่สวยงามขึ้น และ ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โมบาย 6.5 เท่านั้นเอง

Feature On HTC Touch2 

แน่นอนว่าจุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นความสามารถที่มาพร้อมกับวินโดวส์ โมบาย 6.5 ไม่ว่าจะเป็น "Market Place" ""Windows MyPhone" ความสามารถในการใช้งานเครือข่ายสังคมอย่างเฟสบุ๊ก (แม้ว่าเครื่องวินโดวส์ โมบายทั่วไปจะใช้งานได้อยู่แล้วก็ตาม) และที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดอีกอย่างหนึ่งคือ Internet Explorer รุ่นใหม่ที่ใส่เข้ามาด้วย ทั้งนี้เนื่องจากรายละเอียดของวินโดวส์ โมบาย 6.5 มีอยู่แล้วในบทความ "ความสามารถที่เพิ่มขึ้นกับ "วินโดวส์โฟน"" ทำให้ต้องรบกวนผู้อ่านย้อนกลับไปติดตามรายละเอียดกันได้



ในส่วนของอินเตอร์เฟสการใช้งานนั้นได้มีการปรับปรุง TouchFLO 2.0 ให้มีสีสันสวยงามขึ้น แต่หลักการทำงานต่างๆยังคงคล้ายกับ TouchFLO รุ่นก่อนหน้านี้ทำให้สาวกที่เคยใช้เอชทีซีมาก่อนแทบไม่ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการใช้งานเลย โดยหน้าจอ Home ยังจะประกอบไปด้วย นาฬิกาบอกเวลาพร้อมวันเดือนปี และตารางนัดหมายเป็นหลัก ถัดมาเป็นหน้าจอ People ที่สามารถเลือกรายชื่อผู้ติดต่อที่ใช้งานบ่อยๆมาใส่ไว้ได้ทั้งหมด 12 รายชื่อด้วยกัน ต่อมาคือ Messages สำหรับแสดงข้อความสั้น




Mail เป็นหน้าจอแสดงอีเมล์ที่เข้ามาในเครื่อง Internet เป็นหน้าจอสำหรับเรียกเบราว์เซอร์ขึ้นมาใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถบุ๊คมาร์ก หน้าเว็บที่เข้าใช้งายบ่อยๆไว้ได้ด้วย Photos and Videos เป็นหน้าจอสำหรับแสดงภาพและวิดีโอที่อยู่ภายในเครื่อง Music สำหรับใช้เป็นเครื่องเล่นเพลง Weather ในการแสดงการพยากรณ์อากาศล่วงหน้า Map Search ในการค้นหาสถานที่ผ่าน "กูเกิลแมป"



Program เป็นหน้าจอสำหรับให้ผู้ใช้เลือกแอปฯ ที่ใช้งานเป็นประจำขึ้นมาไว้เป็นช็อตคัทในการเข้าใช้งาน ส่วนหน้าจอ Setting จะรวมการตั้งค่าต่างๆออกมาให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น เริ่มตั้งแต่การตั้งค่า ซิงค์ข้อมูล ปรับแต่งโปรไฟล์เสียง เปลี่ยนภาพพื้นหลัง การจัดการเชื่อมต่อต่างๆ ตั้งค่าอีเมล์ และตั้งค่าการทำงานของจีพีเอส



ในส่วนของ Communications ประกอบไปด้วยการเปิดใช้งาน Airplane Mode เปิดโหมดโทรศัพท์ เปิด-ปิดบลูทูธ เปิด-ปิดไวไฟ ตั้งค่า ไมโครซอฟท์พุชเมล์ และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไร้สายอย่าง EDGE/GPRS ที่สามารถเข้ามาตัดการเชื่อมต่อในส่วนนี้ได้ทันที ป้องกันอาการ EDGE รั่ว

สำหรับการตั้งค่าอีเมล์ ทางเอชทีซีสร้างความสะดวกให้ผู้ใช้ กล่าวคือ สามารถเลือกผู้ให้บริการอีเมลต่างๆไม่ว่าจะเป็น Gmail Yahoo Hotmail และอื่นๆตามปกติ หรือแม้กระทั้งเมล์ที่ซิงค์อยู่กับ Outlook ก็สามารถตั้งค่าได้ง่ายๆ ส่วนภายใน Location นั้นจะให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการให้เครื่องทำการเชื่อมต่อกับเครือข่ายโทรศัพท์มือถือแบบอัตโนมัติหรือไม่ ซึ่งในกรณีผู้ใช้งานทั่วไปที่ไม่ได้เปิดบริการแบบไม่จำกัดชั่วโมงไว้ก็ควรจะปิดบริการดังกล่าวขณะใช้งาน



หน้าจอล็อกเครื่องแบบใหม่ที่มาพร้อมกับวินโดวส์ โมบาย 6.5 ที่จะแสดงขึ้นมาทุกเครื่องที่เครื่องทำการพักหน้าจอ สามารถปลดล็อกโดยการเลื่อนแถบออกทางซ้าย-ขวา นอกจากนี้ ในกรณีที่มีสายที่ไม่ได้รับ หรือข้อความเข้า จะสามารถเลื่อนลงมาข้างล่างเพื่อดูได้ว่ามีการแจ้งเตือนอะไรบ้าง

เมื่อสัมผัสที่บริเวณบนของหน้าจอจะเป็นการเข้าสู่แถบ Notifications ซึ่งถูกออกแบบมาใหม่ให้แสดงการเชื่อมต่อเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ สถานะแบตเตอรี่ และการแจ้งเตือนต่างๆ แยกออกมาเป็นอีก 1 หน้า เพื่อการแสดงผลที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้นิ้วกดสั่งงานได้ นอกจากนี้ยังมีการเพิ่ม Quick List เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถปิดเครื่อง ล็อกเครื่อง เปิดระบบสั่น และยกเลิกการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ด้วยการกดปุ่มวางสายค้างไว้



หน้าจอแสดงสายขณะโทรศัพท์รวมไปถึงสายเรียกเข้ายังคงเป็นแบบมาตรฐานของเอชทีซีกล่าวคือ แสดงรูป ชื่อและเบอร์ผู้ติดต่อ ซึ่งเมื่อกดรับแล้วจะมีแถบขึ้นมาปิดเพื่อกันไม่ให้ใบหน้าไปโดนปุ่มเข้าเมนูใดๆ ซึ่งถ้าต้องการใช้งานก็สามารถใช้นิ้วสไลด์ลงมา เพื่อเข้าใช้งานโหมดพักสาย เพิ่มสาย สมุดจด เปิดลำโพง ปิดเสียง และปฏิทินได้ทันที

Camera



สำหรับโหมดกล้องก็ไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยหน้าจอหลักยังคงเป็นเช่นเดิม เมื่อกดที่หน้าจอจะมีเมนูขึ้นมาให้เลือก 3 ส่วนคือ เข้าโหมดดูรูปภาพ เลือกโหมดถ่ายภาพซึ่งประกอบไปด้วย ภาพนิ่ง วิดีโอ พาโนรามา MMSวิดีโอ รูปรายชื่อผู้ติดต่อ และธีมรูปต่างๆ ส่วนอีกเมนูหนึ่งคือการตั้งค่า มีให้ปรับ White Balance ปรับความสว่างแสง ตั้งค่าความไวแสง เลือกที่เก็บข้อมูล โหมดตั้งเวลาถ่าย และตั้งค่าขั้นสูง



กล้องรุ่นนี้ความละเอียดสูงสุดอยู่ที่ 3 ล้านพิกเซล (2048x1536) สามารถตั้งเวลาแสดงภาพหลังถ่าย คุณภาพของภาพ รูปแบบไฟล์ที่มาตรฐานเป็น JPEG ใส่เวลา ไฟหน้าจอ เสียงชัตเตอร์ เอฟเฟกต์ภาพ ประกอบไปด้วย Grayscale Sepia และ Negative จุดโฟกัส ชื่อนำหน้าไฟล์ แสดงตาราง เป็นต้น

Program And Setting



การปรับเปลี่ยนหน้าตาเมนูในวินโดวส์ โมบาย 6.5 ทำให้แสดงผลเป็นรูปรังผึ้ง ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกไอค่อนของแอปฯที่ใช้บ่อยๆให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนได้ โดยการกดค้างไว้ที่ไอค่อนนั้นๆ ซึ่งโปรแกรมที่มีมาให้ไม่ต่างจากในวินโดวส์ โมบาย 6.1 เท่าใดนัก มีเพิ่มมาในส่วนของ Marketplace และMicrosoft My Phone ที่ได้อธิบายไปแล้วใน"ความสามารถที่เพิ่มขึ้นกับ "วินโดวส์โฟน""



นอกจากนี้ด้วยความที่กระแสเครือข่ายสังคมออนไลน์กำลังได้รับความนิยมทำให้มีการใส่แอปฯเฟสบุ๊กสำหรับวินโดวส์ โมบายมาให้ในเครื่องทันที ผู้ใช้ไม่ต้องไปโหลดจากเว็บไซต์ด้วยตนเองแล้ว นอกจากนี้ด้วยความที่ขณะนี้ Touch 2 ยังไม่มีโปรแกรมแผนที่นำทางที่บันเดิลมาด้วย ทำให้ผู้ใช้ยังคงต้องใช้กูเกิลแมปแก้ขัดไปก่อน ทั้งนี้เครื่องรุ่นนี้ยังสามารถรับฟังวิทยุFM ได้ด้วย ส่วนเบราว์เซอร์ก็จะเป็นโอเปร่าที่ใช้มาหลายรุ่นในเอชทีซีแล้ว




หน้าจอตั้งค่าถูกออกแบบให้ดูแล้วใช้งานได้ง่ายขึ้นนิดหน่อย โดยการดึงการใช้งานบ่อยๆ อย่างบลูทูธ ล็อกเครื่อง ตั้งเวลา เสียงและการแจ้งเตือนออกมาให้อยู่ในหน้าแรก ส่วนการตั้งค่าการเชื่อมต่อ และ ตั้งค่าตัวเครื่องจะถูกนำเข้าไปอยู่ในโฟลเดอร์ย่อยอีกทีหนึ่ง ซึ่งเมนูต่างๆที่ปรากฏก็ไม่มีอะไรแปลกใหม่จากวินโดวส์ โมบาย 6.1 มากนัก



คีย์บอร์ดที่มากับตัวเครื่องจะเป็นแบบ Half Screen คีย์บอร์ดที่รับการสั่งการเมื่อปล่อยเช่นเดียวกับเครื่องอย่างไอโฟนหรือเอชทีซี ฮีโร่ ที่ใช้หน้าจอแบบ Capasitive ส่วนคีย์บอร์ดภาษาไทยยังคงเป็นของ Thaiwin CE ที่คุ้นเคยกันดี



สำหรับสเปกภายในเครื่องรุ่นนี้ยังคงใช้ซีพียูยอดนิยมจาก Quallcomm MSM7225 ที่ 528MHz เช่นเดิม โดยมีแรมขนาด 256MB รอมขนาด 512MB ทั้งนี้เครื่องที่ทีมงานนำมาทดลองได้ใช้ ROM เวอร์ชัน 1.28.707.3 (66092)

Design of HTC Touch2 

จากการที่ทางเอชทีซีหวังไว้ว่า Touch2 จะเป็นแฟล็กชิพในการทำตลาดในช่วง 1 ปีต่อจากนี้ แทนรุ่น Touch เดิมที่ทำยอดขายให้กับเอชทีซีได้เป็นอย่างดี ดีไซน์ของเครื่องรุ่นนี้จึงทำออกมาได้ดูสวยงามทันสมัยมากขึ้น



วัสดุที่ใช้ยังคงเป็นไปตามมาตรฐานของเอชทีซี การประกอบของตัวเครื่องดูเนียนแน่นตามปกติ ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 104 X 55 X 12.9 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 110 กรัม ซึ่งถือว่าเป็นขนาดที่พอดีมือ ไม่ใหญ่หรือเล็กจนเกินไป



เริ่มจากส่วนบนของหน้าจอที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากปกติที่มีลักษณะเป็นตะแกรงแค่บริเวณลำโพงสนทนาเท่านั้น แต่ในรุ่นนี้ได้มีการขยายส่วนดังกล่าวให้ครอบไปทั้งแนวส่วนบนของหน้าจอ ซึ่งเยื้องมาทางซ้ายเล็กน้อยจะมีไฟบอกสถานะของเครื่องอยู่ด้วย

และเนื่องด้วยเป็นเครื่องในระดับเอนทรีเลเวลของเอชทีซีทำให้หน้าจอยังคงเป็นแค่ 2.8 นิ้ว QVGA (280 x 320 พิกเซล) เท่านั้น ซึ่งถ้ามองถึงเทคโนโลยีในปัจจุบันแล้วควรจะขยับขึ้นมาเป็นระดับ VGA เหมือนที่ใส่มาใน Diamond ได้แล้ว



ส่วนแถบและปุ่มควบคุมส่วนล่างของหน้าจอ ประกอบไปด้วย ซูมบาร์ เช่นเดียวกับใน Diamond2 และ Pro2 ถัดลงมาเป็นปุ่มรับสาย ปุ่มโฮม ปุ่มวินโดวส์ ปุ่มย้อนกลับ และปุ่มวางสาย ซึ่งความที่เป็นวินโดวส์โฟน ทำให้ไม่มีปุ่มเนวิเกเตอร์ควบคุมมาให้เพราะเชื่อว่าระบบทัชสามารถทำงานแทนทีได้หมดแล้ว



ด้านหลังเครื่อง ประกอบไปด้วยกล้อง 3.2 ล้านพิกเซล ที่ยังคงเป็น Fix โฟกัส และไม่มีไฟแฟลชอยู่เช่นเดิม โดยในส่วนนี้จะล้อมรอบด้วยโลหะสีเงิน เช่นเดียวกับด้านข้างตัวเครื่อง ทั้งนี้ บริเวณซ้ายของกล้องเป็นที่อยู่ข้องลำโพงสเตอริโอ ทางด้านล่างมีสัญลักษณ์ "hTC" อยู่ พร้อมช่องร้อยสายคล้องโทรศัพท์



การเปิดฝาหลังทำได้โดยการแงะจากส่วนบนของเครื่อง แกะออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ขนาด 1100 mAh แกะแบตฯออกมา เป็นช่องใส่ซิมอยู่ส่วนบนของช่อง ส่วนปุ่มซอฟต์รีเซ็ตจะซ่อนอยู่หลังปากกาสไตลัส ทำให้ถ้าต้องการกดรีเซ็ตเครื่องจำเป็นต้องถอดปากกาสไตลัสออกมาเพื่อกดนั่นเอง




ด้านซ้าย - มีปุ่มปรับระดับเสียง และช่องเสียบไมโครเอสดีการ์ดติดอยู่ แต่ทั้งนี้ถ้าต้องการแกะไมโครเอสดีการ์ด ยังต้องแกะฝาหลังออกมาอยู่ดี ด้านขวา - มีเพียงปากกาสไตลัสอยู่บริเวณมุมล่างเท่านั้น




ด้านบน - มีช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. ติดมาให้ ส่วนด้านล่าง - มีเพียงพอร์ต HTC ExtUSB สำหรับใช้ชาร์จแบตฯ และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์

บทสรุป

ประสบการณ์สำคัญที่จะได้จาก Touch 2 คงหนีไม่พ้นความที่เป็นเครื่องรุ่นแรกที่ออกมาพร้อมกันวินโดวส์ โมบาย 6.5 ซึ่งความเร็วในการตอบสนองการใช้งานต่างๆ ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างรู้สึกได้ อาการหน่วงๆจากเดิมเริ่มหายไป และอินเตอร์เฟสการใช้งานที่ง่ายขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้ที่ไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนที่รันวินโดวส์โมบาย สามารถทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ในเรื่องของการเชื่อมต่อนั้น Touch2 มาพร้อมกับการเชื่อมต่อในเครือข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz 3G WCDMA 900/2100 MHz นอกจากนี้ยังมีการเชื่อมต่อผ่านไวไฟ 802.11 b/g บลูทูธ2.1 จีพีเอส มาให้ด้วย เรียกได้ว่าใส่มาให้ครบตามความต้องการใช้งานจริงๆ

ทางด้านมัลติมีเดียก็ได้มีการพัฒนาโดยการใส่ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. มาให้พร้อมกับวิทยุFM ที่ใช้หูฟังในการรับสัญญาณ แต่เสียที่กล้อง 3.2 ล้านพิกเซล แต่ยังคงเป็น Fix โฟกัส ทำให้ภาพทีได้ออกมาคุณภาพยังไม่ดีเท่าที่ควร

ส่วนของการใช้งานโทรศัพท์ทั่วไป เสียงสนทนาดังชัดเจนตามมาตรฐาน ระยะเวลาการใช้งานทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 2-3 วัน ถ้าไม่มีการใช้งานหนักมากนัก ส่วนการทดลองใช้งานหนักอย่างเปิดเพลงฟังประมาณ 2 ชั่วโมง เล่นอินเทอร์เน็ต 1 ชั่วโมง กดเครื่องเล่นไปเรื่อยเปื่อยบ้าง ก็สามารถอยู่ได้จนหมดวัน

ขอชม
- ดีไซน์ที่สวยงาม น่าใช้งาน
- ความเป็นวินโดวส์โฟน ที่มีอินเตอร์เฟสการใช้งานที่ง่ายขึ้น
- ซูมบาร์ ช่วยในการขยายภาพ / เล่นอินเทอร์เน็ต อำนวยความสะดวกในการใช้งาน

ขอติ
- ขนาดหน้าจอที่ความละเอียดเป็นแค่ QVGA (240 x 320 พิกเซล)
- ไม่มี Accelerometer
- กล้องความละเอียด 3.2 ล้าน แต่ยังคงไม่มีแฟลชและออโต้โฟกัสเช่นเดิม

Company Related Links :
HTC








กำลังโหลดความคิดเห็น