เห็นได้ว่าช่วงนี้แอลจีออกโทรศัพท์มือถือมากระตุ้นยอดขายกันอย่างเต็มตัวทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องรุ่นนี้ GT505 ที่เป็นทัชโฟนมากับความสามารถแบบครบเครื่อง หรือจะเป็น GM730 สมาร์ทโฟน ครบเครื่องภายใต้วินโดวส์ โมบาย 6.1 ที่สามารถนำไปอัปเกรดเป็น วินโดวส์ โมบาย 6.5 ได้
นอกจากนี้ก็ยังมี Crystal โทรศัพท์โปร่งแสงสุดล้ำ ที่เอาใจสาวกแอลจีที่ชอบดีไซน์สวยๆงามๆ และสุดท้ายคือ Viewty2 ที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนปลายปีอาจจะได้เห็นไอศครีม 2 เข้ามาช่วยกระตุ้นยอดขายให้แอลจีอีกรอบก็เป็นได้
จุดเด่นของเครื่องรุ่นนี้คือใส่ฟีเจอร์ต่างๆมาไม่ยั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อเครือข่าย 3G ไวไฟ บลูทูธ ระบบนำทางจีพีเอส วิทยุเอฟเอ็ม กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช และGeo-Tagging หน้าจอทัชสกรีนที่มากับ A-Class UI ตามสไตล์ของแอลจี แต่น่าเสียดายที่รูหูฟังยังไม่ใช่แบบ 3.5 มิลลิเมตร
Feature On LG GT505
แม้ว่ารูปแบบของอินเตอร์เฟส A-Class ในเครื่องรุ่นนี้จะไม่หลากหลายเท่ากับในรุ่นที่เป็นตัวชูโรงอย่าง S-Class ใน LG Arena แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ เริ่มกันจากกดเปิดหน้าจอขึ้นมาจะพบกับหน้าจอแสดงเวลาและวันที่ รวมไปถึงปุ่มกดปลดล็อกหน้าจอที่มุมล่าง โดยการกดที่รูปแม่กุญแจค้างไว้
ที่หน้าจอหลักผู้ใช้สามารถ เลือกนำวิดเจ็ตที่แอลจีมีให้เลือก ออกมาวางไว้ที่หน้าจอได้ตามความต้องการของผู้ใช้เอง โดยจะมีให้เลือก 10 ชนิด คือ นาฬิกา กระดาษจดโน้ต เครื่องเล่นเพลง เครื่องเล่นวิทยุ ช็อตคัทเรียกโปรแกรมนำทาง
ปฏิทิน รูปภาพ นาฬิกาเทียบเวลาต่างประเทศ พยากรณ์อากาศ และวิดเจ็ตแสดงรายละเอียดการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น สายที่ไม่ได้รับ ข้อความเข้าใหม่ อีเมลที่ยังไม่เปิดอ่าน ซึ่งถ้าผู้ใช้ต้องการให้เครื่องทำการจัดเรียงวิดเจ็ตบนหน้าจอ เพียงแค่เขย่าเครื่องก็จะจัดเรียงให้แบบอัตโนมัติ
ส่วนอีกหน้าจอหนึ่งจะเป็นหน้าจอสำหรับใส่รายชื่อผู้ติดต่อ มีให้ใส่กันอย่างจุใจถึง 3 หน้าด้วยกัน ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปิดสมุดรายชื่อขึ้นมาเพื่อค้นหาเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้บ่อยๆ ส่วนแถบควบคุมด้านล่างประกอบไปด้วย ปุ่มเข้าสู่หน้าจอโทรศัพท์ รายชื่อผู้ติดต่อ ข้อความ และหน้าจอเมนู
เมื่อกดที่บริเวณแถบสถานะด้านบน จะเป็นการเรียกหน้าต่าง "สรุปสถานะ" ลงมาให้ดู โดยจะมีบอกตั้งแต่เวลา รูปแบบของเครือข่ายที่ใช้ ระบบของเครือข่ายที่ใช้ ปริมาณแบตเตอรี่ สถานะหน่วยความจำทั้งหมายในเครื่อง และไมโครเอสดีการ์ด
รวมไปถึงโปรไฟล์เสียงเรียกเข้าที่กำลังเปิดใช้อยู่ นอกจากนี้ถ้ากำลังใช้ฟีเจอร์เครื่องเล่นเพลง ก็สามารถใช้ทางเข้านี้เป็นตัวควบคุมให้หยุดเล่นและเล่นต่อได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถสั่งเปิด-ปิด ไวไฟและบลูทูธได้ที่หน้าจอนี้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ถ้ากดปุ่มตรงกลางข้างล่างค้างไว้ จะเป็นการเรียกหน้าจอ "Task Manager" ขึ้นมา เพื่อดูว่ามีแอปพลิเคชันใดที่กำลังทำงานอยู่บ้าง ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปิดแอปฯที่ไมได้ใช้งานได้ทันที ที่สำคัญคือเมื่อเลื่อนไปอีกหน้าจอหนึ่งจะเป็นทางลัดเข้าสู่แอปฯที่ใช้บ่อยๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้เองอีกเช่นเดียวกัน
หน้าจอโทรศัพท์ แสดงตัวเลขขนาดใหญ่ชัดเจนดี สำหรับปุ่มกดก็เช่นเดียวกัน สามารถใช้นิ้วกดได้อย่างสบายๆ ด้วยความที่เครื่องรุ่นนี้รองรับ 3G ทำให้สามารถใช้งานวิดีโอคอลล์ได้ โดยการกดที่เมนูมุมซ้ายบนแล้วเลือกวิดีโอคอลล์นั่นเอง
ส่วนเวลามีสายเข้า จะแสดงภาพที่บันทึกไว้ ชื่อผู้ติดต่อ และเบอร์โทรศัพท์ โดยในกรณีที่ไม่ว่างรับสาย สามารถกดปุ่ม ส่งข้อความเพื่อตอบกลับได้ทันที ส่วนถ้าต้องการรับสายก็สามารถกดปุ่มยอมรับที่หน้าจอ หรือปุ่มรับสายที่ด้านล่างได้เช่นเดียวกับการวางสายที่กดตัดสายที่หน้าจอหรือปุ่มวางสายข้างล่าง
ในกรณีที่โทรออกก็มีลักษณะที่คล้ายกันเพียงแต่ปุ่มยอมรับและตัดสายทิ้งจะเปลี่ยนเป็นปุ่มสำหรับเปิดลำโพง และเรียกปุ่มตัวเลขขึ้นมาบนหน้าจอแทนเท่านั้น
ฟีเจอร์กล้องที่ให้มานั้นใช้งานได้ไม่ยากเท่าไหร่ เนื่องจากเมนูส่วนใหญ่เป็นไปตามมาตรฐาน โดยหน้าจอหลักขณะใช้งาน จะประกอบไปด้วยส่วนควบคุมอยู่ทางฝั่งซ้าย ไล่จากข้างบนลงมาคือตั้งค่าไฟแฟลช มีให้ปรับ 3 แบบ คือ อัตโนมัติ ปิด และ เปิดตลอด ถัดลงมาเป็นการใช้งานโหมดมาโคร แถบสำหรับซูมเข้า-ออก ปรับความสว่าง และเข้าสู่เมนูตั้งค่า ส่วนฝั่งขวาหน้าจอไล่จากข้างบนเป็นปุ่มปิดกล้อง ตรงกลางใช้เลื่อนเพื่อสลับโหมดภาพนิ่งกับวิดีโอ และปุ่มล่างสำหรับดูรูปภาพที่ถ่ายไว้
เมนูตั้งค่าของกล้องประกอบไปด้วยขนาดภาพสูงสุดที่ 5 ล้านพิกเซล ปรับรูปแบบการถ่ายปกติ ต่อเนื่องและเฟรมช็อท โหมดถ่ายภาพ อัตโนมัติ กลางคืน รูปคน ทิวทัศน์ ชายหาด กีฬาและปาร์ตี้ เอฟเฟกต์ ขาว-ดำ ซีเปีย เนกาทัฟ น้ำเงิน เขียว ปรับสมดุลแสง หลอดไฟ แสงอาทิตย์ ฟลูออเรสเซนต์ มืดครื้ม ตั้งเวลาถ่ายภาพ 3 5 10 วินาที
ต่อมาเป็น คุณภาพให้เลือก 3 ระดับคือ ละเอียดมาก ละเอียด และปกติ ตั้งจุดโฟกัส ตัวอย่างภาพ สลับกล้อง และอื่นๆ จะเป็นส่วนสำหรับตั้งค่าเช่น หน่วยความจำที่ใช้ ซ่อนไอคอน ลดการสั่น แสดงภาพหลังการถ่าย ปรับเสียงชัตเตอร์ ระบบจีโอแท็ก และรีเซ็ตการตั้งค่า
Program And Setting
หน้าจอโปรแกรมแบ่งออกเป็น 4 ส่วนหลักๆคือ การติดต่อ ความบันเทิง ยูทิลิตีและตั้งค่า เฉพาะในหน้าจอการติดต่อประกอบไปด้วย สมุดรายชื่อ ข้อมูลการโทร ข้อความ อีเมล โทรออก และใช้วิดีโอคอล ส่วนความบันเทิงประกอบไปด้วย กล้องถ่ายรูป กล้องวิดีโอ คลังภาพ แฟ้มข้อมูล เพลง Muvee Studio สำหรับใช้ตัดต่อภาพยนต์แบบง่ายๆ เกมส์&แอปฯ และวิทยุFM
ยูทิลิตี้ประกอบด้วย เบราว์เซอร์ นาวิเกดสำหรับเรียกโปรแกรม Wisepilot Google เตือน สมุดบันทึก บันทึก บันทึกเสียง และเครื่องมือต่างๆ เช่นเครื่องคิดเลข สุดท้ายตั้งค่าแบ่งออกเป็น โปรไฟล์ หน้าจอ ตั้งค่าโทรศัพท์ บลูทูธ Wi-Fi ตั้งค่าการโทร การตั้งค่าสัมผัส การเชื่อมต่อ
ภายในการตั้งค่าการเชื่อมต่อก็จะเป็นหน้าจอสำหรับการเชื่อมต่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตั้งค่าเครือข่าย โปรไฟล์อินเทอร์เน็ต จุดเชื่อมต่อ ประเภท GPS ที่ให้ใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช่วยระบุตำแหน่ง การ Sync ข้อมูล และการตั้งค่าสตรีมมิง
ในส่วนของเครื่องเล่นเพลง มีการแบ่งสัดส่วนตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นเล่นล่าสุด ทุกเพลง ตามศิลปิน อัลบั้ม แนวเพลง โดยในหน้าจอเล่นเพลงมีปุ่มควบคุมชัดเจน มุมซ้ายบนสามารถใช้กำหนดตั้งเล่นซ้ำ เล่นวน เล่นสุ่ม และเปิดลำโพงได้
วิทยุ FM ยังคงต้องใช้การเชื่อมต่อหูฟังในการรับสัญญาณตามปกติ โดยสามารถรับฟังคลื่นในจุดทศนิยม 2 หลักได้ เพียงแต่ไม่ชัดมากเท่าวิทยุธรรมดา สามารถบันทึกช่องสัญญาณได้สูงสุดถึง 30 ช่องด้วยกัน ถ้าต้องการให้เสียงออกทางลำโพงสามารถสัมผัสที่ปุ่มที่มุมซ้ายล่างได้ทันที
เว็บเบราว์เซอร์สามารถใช้งานได้ตามปกติทั่วไป สามารถซูมเข้าออกได้จากเครื่องมือรูปแว่นขยายที่มุมล่าง หรือใช้การดับเบิลแท็ปที่หน้าจอก็ได้เช่นเดียวกัน สำหรับบริการ Google จะประกอบไปด้วยหน้าจอ ค้นหา อีเมล และแผนที่ อีกหนึ่งแอปฯที่น่าสนใจคือ "เพื่อนจ็อกกิ้ง" ที่ใช้ระบบ GPS ในการช่วยคำนวนว่าผู้ใช้งานวิ่งไปในระยะทางเท่าใด
Design of LG GT505
มาถึงในส่วนของดีไซน์ ถ้าสังเกตุดีๆจะพบว่า รูปร่างของตัวเครื่องนั้นละม้ายคล้ายกับเครื่องรุ่นทำเงินของแบรนด์คู่แข่งจากประเทศเดียวกันเป็นอย่างมาก ถ้านำมาวางเทียบกันมองไกลๆ จะเห็นว่าแตกต่างกันบริเวณตราของแบรนด์ที่สลับที่บนล่างเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องยอมรับว่าดีไซน์ลักษณะนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 107 x 54.5 x 11.8 มิลลิเมตร น้ำหนักราวๆ 98 กรัม ถือว่าเบาเอาการเนื่องจากวัสดุส่วนใหญ่เป็นพลาสติกคุณภาพสูง การประกอบของตัวเครื่องดูแน่นหนาดี วางจำหน่าย 2 สี คือดำกับขาว
ส่วนประกอบเริ่มจากด้านหน้า บริเวณบนจะมีช่องลำโพงสนทนาอยู่บริเวณกลาง เยื้องไปทางซ้ายมีกล้องวิดีโอคอลที่สามารถใช้ถ่ายภาพนิ่งได้ด้วยติดอยู่ ซึ่งในส่วนบริเวณขอบเครื่องทั้งบนและล่างทำจากสแตนเลส ถัดลงมาเป็นหน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว (400 x 240 พิกเซล) 256k สี ให้ความคมชัดอยู่ในระดับปกติทั่วไป ข้างล่างหน้าจอมีโลโก้ "LG" สีเงินติดอยู่ตรงกึ่งกลาง ด้านล่างบริเวณปุ่มควบคุมประกอบไปด้วย ปุ่มรับสาย ปุ่มเมนู(ย้อนกลับ) และ ปุ่มวางสายเท่านั้น
พลิกกลับมาดูด้านหลังของเครื่องจะพบกับอีกหนึ่งจุดเด่นของรุ่นนี้คือ กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสและไฟแฟลช อยู่บริเวณมุมซ้ายบน ส่วนครึ่งล่างจะเป็นฝาหลังสามารถถอดโดยการเลื่อนลงมาด้านล่าง โดยในส่วนที่จะมีตราสัญลักษณ์ "LG" ติดอยู่ด้วยนั่นเอง
เมื่อเปิดฝาหลังออกมาจะพบกับแบตเตอรี่ Li-Ion ขนาด 1,000 mAh อยู่ตรงกึ่งกลาง ถ้าต้องการใส่ซิมการ์ดต้องถอดแบตฯออกก่อน เพื่อใส่เข้าไปบริเวณส่วนบนของช่องใส่แบตเตอรี่
ด้านขวา มีปุ่มลัดสำหรับควบคุมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นปุ่มชัตเตอร์สำหรับโหมดกล้อง (สามารถกดค้างที่หน้าจอปกติเพื่อเข้าโหมดกล้องได้ทันที) ปุ่มล็อกเครื่อง ปุ่มปรับระดับเสียงที่ใช้ในการซูมเข้าออกขณะถ่ายภาพได้ด้วย และช่องสำหรับเสียบชาร์จและหูฟังในช่องเดียวกัน และถ้าสังเกตดีๆ บริเวณมุมจะมีปากกาสไตลัสติดอยู่ด้วย แต่เท่าที่ได้ทดลองใช้มาแทบไม่ต้องพึ่งพาสไตลัสในการใช้งานเลย
ด้านซ้าย ถูกปล่อยให้ไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ มีเพียงช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ดแบบ Hot-Swap รองรับหน่วยความจำสูงสุด 8 GB เท่านั้น ส่วนด้านบนและล่างถูกปล่อยให้เรียบไว้ ไม่มีจุดเด่นใดๆ
บทสรุป
ก่อนหน้าเครื่องรุ่นนี้ ทางเอลจีเคยออกทัชสกรีนที่มีฟีเจอร์ครบครันในชื่อ คุกกี้ มาก่อนแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นทัชโฟนในราคาต่ำกว่าหมื่นที่มาประเดิมตลาดของเอลจี มาวันนี้ GT505 ถือเป็นตัวแทนที่จะเข้ามาทำตลาดดังกล่าวแทน จากฟีเจอร์ที่ครบครันมากขึ้น โดยยังคงกลุ่มเป้าหมายเดิมที่ตลาดทัชโฟนราคาต่ำกว่าหมื่น
ในด้านการใช้งานโทรศัพท์รองรับทั้งเครื่องข่าย GSM 850/900/1800/1900 MHz นอกจากนี้ยังรองรับ 3G ที่ WCDMA 900/2100 MHz ความเร็วสูงสุดที่ 7.2 Mbps ส่วนการเชื่อมต่อมีมาให้ทั้งบลูทูธ ไวไฟ รวมไปถึงระบบนำทางจีพีเอสจาก "Wisepilot" ที่แถมมาในเครื่อง รวมไปถึงกูเกิลแมปด้วย
ด้านมัลติมีเดียจะโดดเด่นที่กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช แอปฯสำหรับเล่นเพลง วิดีโอ รวมไปถึงวิทยุ FM ก็มีมาให้ครบครัน แต่จะเสียอยู่อย่างหนึ่งคือไม่มีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 ม.ม. ในส่วนของเสียงสนทนานั้นอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่เบาจนเกินไป ส่วนระยะแบตเตอรี่เท่าที่ทดลองใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน EDGE ตลอดเวลา ใช้งานฟังเพลง วิทยุ ประมาณ 4 ชั่วโมง เล่นอินเทอร์เน็ตเล็กน้อย โทรศัพท์ประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถอยู่ได้ 2 วันอย่างสบายๆ
ขอชม
- ความเร็วในการตอบสนอง ทำได้ดีเมื่อเทียบกับทัชโฟนในราคาใกล้เคียงกัน
- ความสามารถด้านมัลติมีเดียที่ให้มาครบครัน โดยเฉพาะกล้อง 5 ล้านพิกเซล
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งไวไฟ และ 3G ที่ 7.2 Mbps
ขอติ
- ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
- ระบบแฟลชของกล้อง ทำได้แค่เพียงถ่ายในระยะไกลเท่านั้น ทำให้เวลาถ่ายในที่แสงน้อยต้องทำใจนิดนึง
Company Related Links :
LG