“พิพัฒน์” ลงพื้นที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ รถไฟจัดรถพ่วงเต็มความจุ เพิ่ม 18 ขบวน เสริม 210 เที่ยว/วัน รับได้สูงสุด 1.1 แสนคน/วัน สั่งตรวจ ปลอดภัยเพิ่มหลังมีเหตุเฉี่ยวชนคนข้างทาง และขอรฟท.พิจารณาจัดสรรพื้นที่ละหมดบนขบวนรถไฟสายยาว
วันที่ 29 ธันวาคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการให้บริการด้านระบบขนส่งสาธารณะ ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ และประชุมเพื่อติดตามภาพรวมการเดินทางของผู้โดยสารรถไฟ และเตรียมรองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว เทศกาลปีใหม่ 2569 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณการใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ กระทรวงคมนาคมในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลการคมนาคมขนส่งทุกระบบ จึงได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมด้านการให้บริการและความปลอดภัยอย่างเต็มกำลัง พร้อมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเน้นย้ำให้ดูแลผู้โดยสารและประชาชนที่มาใช้บริการรถไฟให้ได้รับความสะดวกสูงสุดตลอดการเดินทาง
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้ให้รฟท.พิจารณาแนวทางยกระดับการให้บริการ โดยขอให้คำนึงถึงวิถีชีวิตและศาสนกิจของประชาชนในพื้นที่เส้นทางภาคใต้ โดยเฉพาะพี่น้องชาวมุสลิม เพื่อให้สามารถปฏิบัติศาสนกิจระหว่างการเดินทางได้อย่างเหมาะสม อาจไม่จำเป็นต้องจัดเป็นห้องถาวร แต่ขอให้มีพื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อสะท้อนถึงความเข้าใจในความหลากหลายทางศาสนาและการให้บริการที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง
พร้อมกันนี้ ยังได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ พิจารณายกระดับการบริหารจัดการทรัพย์สินและพื้นที่ขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงพื้นที่สำคัญ เช่น สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เพื่อสร้างรายได้ เพิ่มศักยภาพทางการเงิน ลดภาระการขาดทุน และเสริมความเข้มแข็งขององค์กรในระยะยาว โดยขอให้ประสานหารือกับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กรไปในทิศทางเดียวกัน มุ่งสู่การเป็นรัฐวิสาหกิจที่สามารถพึ่งพาตนเองและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปกติ รฟท. ให้บริการรวม 210 เที่ยวต่อวัน รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 9 หมื่นคนต่อวัน โดยมาตรการรองรับการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 โดยพ่วงตู้โดยสารให้เต็มหน่วยลากจูงอีกประมาณ1-2 ตู้ในทุกขบวน รวม 210 เที่ยวต่อวัน สามารถรองรับผู้โดยสารเลได้เพิ่มอีก ประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน รวมรองรับได้สูงสุดประมาณ 1.1 แสนคนต่อวัน นอกจากนี้ มีการจัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารเพิ่มเติมจากขบวนรถประจำในเส้นทางสายเหนือ สายใต้ และสายตะวันออกเฉียงเหนือ รวม 18 ขบวน รวม 46 เที่ยว รับได้เพิ่มอีกประมาณ 35,000 คน
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มขบวนรถเฉพาะกิจอีก 9 ขบวน รวม 23 เที่ยว ในเส้นทางสำคัญ ได้แก่ กรุงเทพอภิวัฒน์–ศิลาอาสน์, กรุงเทพอภิวัฒน์–อุบลราชธานี, กรุงเทพอภิวัฒน์–อุดรธานี, กรุงเทพอภิวัฒน์–นครราชสีมา, กรุงเทพอภิวัฒน์–ยะลา และกรุงเทพอภิวัฒน์–เชียงใหม่ เพื่อกระจายปริมาณผู้โดยสารและลดความแออัดในช่วงการเดินทางหนาแน่น
โดยในช่วงวันที่ 26 ธ.ค.-29 ธ.ค.68 รวม3 วัน มีการให้บริการแล้ว 315 ขบวน มีผู้โดยสารรวม 263,764 คน
ในด้านความปลอดภัย การรถไฟฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยเพิ่มความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งภายในสถานีและบนขบวนรถ ตรวจสอบความพร้อมของรถจักรและตู้โดยสารอย่างละเอียด ติดตั้งและเฝ้าระวังผ่านกล้องวงจรปิด CCTV ทั่วประเทศ ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และสารเสพติดของพนักงานก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนขบวนรถและภายในสถานีรถไฟ นอกจากนี้ ยังได้บูรณาการความร่วมมือกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ตรวจตราความเรียบร้อยบนขบวนรถ ร่วมกับเจ้าหน้าที่การรถไฟฯ และพนักงานรักษาความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
ขณะเดียวกัน ได้จัดตั้งศูนย์ปลอดภัยทั่วประเทศ เพื่อรับแจ้งเหตุและประสานงานตลอด 24 ชั่วโมง ระหว่างวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 รวม 7 วัน พร้อมประสานความร่วมมือกับฝ่ายปกครองส่วนท้องถิ่นและอาสาสมัครเฝ้าระวังบริเวณจุดตัดเสมอระดับรถไฟ–รถยนต์ในพื้นที่เสี่ยงหรือชุมชนหนาแน่น เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทั้งทางถนนและทางรถไฟ
“โดยสถิติการเกิดเหตุอันตรายในการเดินขบวนรถไฟ 3 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งเป็นบุตตลภายนอก ไม่ใช่ผู้โดยสาร โดยเป็นเหตุจากเข้ามาเขตทาง ถูกรถเฉี่ยวชน และรถกระบะเข้ามาขวางทาง “
นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ส่งมอบความสุขให้แก่ผู้ใช้บริการในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569 ด้วยการจัดกิจกรรมมอบถุง “รถไฟรักษ์โลก” จำนวน 5,000 ใบ ให้แก่ผู้โดยสาร ณ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และสถานีสำคัญทั่วภูมิภาค ตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป เพื่อแสดงความขอบคุณและส่งต่อความห่วงใยในการเดินทางตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม


