สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย การไฟฟ้านครหลวง (กฟน. หรือ MEA) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ณ ห้อง Auditorium ชั้น 6 อาคารวัฒนวิภาศ การไฟฟ้านครหลวง สำนักงานใหญ่ (คลองเตย) กรุงเทพมหานคร เพื่อยกระดับการใช้ประโยชน์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ สู่การพัฒนานวัตกรรมพลังงานและระบบสาธารณูปโภคของประเทศ โดยเฉพาะการให้บริการข้อมูลภาพถ่ายความละเอียดสูงจากอากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle หรือ UAV) ผ่านแพลตฟอร์ม AWAGAD ของ GISTDA ที่เปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และครบวงจร
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดของความร่วมมือครั้งนี้ คือการนำข้อมูลภาพถ่ายทางอากาศความละเอียดสูงจาก UAV ของการไฟฟ้านครหลวง มาจัดเก็บและเผยแพร่ผ่านระบบ AWAGAD ในรูปแบบ Ortho Photo ซึ่งเป็นการประมวลผลภาพที่ผ่านการปรับแก้ไข ให้สามารถวัดพื้นที่ ระยะทาง หรือทำการวิเคราะห์เชิงพื้นที่ได้อย่างแม่นยำระดับเซนติเมตร ชุดข้อมูลดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ระบบไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานมีความหนาแน่นสูง การมีข้อมูล UAV ที่ละเอียดและเป็นปัจจุบัน จะช่วยให้เพิ่มความแม่นยำในการวางแผนระบบจำหน่ายไฟฟ้า , ตรวจสอบสภาพภูมิประเทศ สิ่งปลูกสร้างที่อาจกระทบต่อระบบไฟฟ้า, และใช้ประกอบการวิเคราะห์ด้านความปลอดภัยและบริหารความเสี่ยงรวมถึงสนับสนุนการวางแผนเพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติในเขตเมืองได้
.
ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวต่อว่า นับเป็นครั้งแรกที่ข้อมูลประเภทนี้ถูกเปิดให้เข้าถึงในรูปแบบบริหารจัดการร่วมกันระหว่างหน่วยงานรัฐ เพื่อให้ประชาชน นักวิจัย และภาคธุรกิจสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กว้างขวางขึ้น โดย AWAGAD Platform เป็นระบบบริการข้อมูลดาวเทียมและภาพถ่ายเชิงพื้นที่ของ GISTDA ที่ออกแบบมาเพื่อเป็น “ศูนย์กลางข้อมูลอวกาศ” ในรูปแบบ One-Stop Service ผู้ใช้สามารถค้นหา เลือกพื้นที่สั่งถ่ายภาพ ชำระเงิน และดาวน์โหลดข้อมูลได้ภายในระบบเดียวที่รองรับข้อมูลจากดาวเทียมมากกว่า 13 ดวง เช่น THEOS-1, THEOS-2, LANDSAT และดาวเทียมพันธมิตรของ GISTDA อีกหลายดวง โดยมีฐานข้อมูลย้อนหลังมากกว่า 10 ปี ทำให้ AWAGAD เป็นคลังข้อมูลอวกาศที่สำคัญที่สุดของประเทศในปัจจุบัน
.
สำหรับการนำข้อมูล UAV ความละเอียดสูงของ กฟน. มาเชื่อมเข้าสู่ระบบครั้งนี้ ถือเป็นการขยายศักยภาพแพลตฟอร์มให้ครอบคลุมภาพถ่ายทางอากาศที่มีความละเอียดมากกว่าดาวเทียมหลายเท่า ผู้ใช้สามารถนำข้อมูลไปประยุกต์ใช้งานในหลากหลายสาขา เช่น การวางผังเมือง, การบริหารทรัพยากรพลังงาน, การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, การจัดการภัยพิบัติ หรือแม้กระทั่งการศึกษาและวิจัยทางภูมิศาสตร์ ตลอดจนการบูรณาการ “อวกาศ–พลังงาน” เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ (Geo-Informatics) ในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ในอนาคต ที่ต้องการข้อมูลแม่นยำและทันสมัย เพื่อเป็นฐานการตัดสินใจในงานด้านพลังงาน ภูมิศาสตร์ การจราจร และความปลอดภัย ความร่วมมือนี้ยังสะท้อนบทบาทของข้อมูลภูมิสารสนเทศที่ไม่เพียงเป็น “เครื่องมือประกอบการตัดสินใจ” แต่ยังเป็น “โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลแบบบูรณาการ” ที่จำเป็นต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว
.
นอกจากนี้ การเชื่อมโยงข้อมูล UAV สู่แพลตฟอร์ม AWAGAD จะเกิดประโยชน์หลายมิติ เช่น ภาคประชาชนและนักวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูลภาพถ่ายคุณภาพสูงอย่างโปร่งใส ในราคาที่จับต้องได้ สามารถนำไปใช้งานวิจัย แผนที่ การประเมินพื้นที่เสี่ยง หรือโครงการพัฒนาเมืองได้ทันที, ภาครัฐสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อการออกแบบนโยบายด้านพลังงาน การพัฒนาเมือง การวางแผนรับมือภัยพิบัติ รวมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบของโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ได้แม่นยำมากขึ้น และสนับสนุนในภาคธุรกิจ ด้านอสังหาริมทรัพย์ การก่อสร้าง การบริหารโครงการ และบริการที่เกี่ยวข้องกับภูมิสารสนเทศ เช่น บริษัทสำรวจ วิศวกรรม และเทคโนโลยีดิจิทัล ภาพรวมของความร่วมมือ GISTDA–กฟน. ไม่เพียงเป็นการเปิดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล UAV ขนาดใหญ่ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Economy) โดยข้อมูลภูมิสารสนเทศกำลังเป็น “ทรัพยากรใหม่” ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งยังเปิดประตูให้ประชาชน นักวิจัย และภาคธุรกิจ ได้นำข้อมูลที่เคยเข้าถึงยาก มาใช้ในการพัฒนา สร้างสรรค์ และวางแผนอนาคตในทุกมิติของสังคมไทย ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว


