กทพ.ฉลอง 53 ปี จัดแคมเปญใหญ่ใช้บัตรEasy Pass ลดค่าผ่านทาง 50% ของขวัญปีใหม่ เริ่ม 6 ม.ค.69 คาดเสียรายได้ 20ล้านบาทต่อวัน พร้อมยกระดับความพิเศษสู่ยุคยานยนต์ไร้คนขับ-เร่งสร้างด่วนพระราม3 เสร็จกลางปี 69 เดินหน้าทางด่วนภูเก็ต
วันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ประธานกรรมการ (บอร์ด) กทพ. กล่าว ว่า ตลอดระยะเวลา 53 ปีที่ผ่านมา กทพ. ได้ปฏิบัติภารกิจสำคัญในการพัฒนาโครงข่ายทางพิเศษ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับพี่น้องประชาชน และแก้ไขปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล รวมถึงการขยายโครงข่ายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมสนับสนุน กทพ. ในการผลักดันการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อให้โครงข่ายคมนาคมสมบูรณ์และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. กล่าวว่า กทพ.เปิดให้บริการทางพิเศษ 8 สายทาง รวมระยะทาง 224.6 กิโลเมตร ปริมาณจราจรเฉลี่ย 1,730,000 คันต่อวัน รายได้ 66,590,000 บาทต่อวัน การครบรอบ 53 ปี คือ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคทางพิเศษอัจฉริยะ โดยปรับปรุงเป็นองค์กรนวัตกรรม ใช้ไอทีเข้ามาช่วยลดโลกร้อน โดยจะเปลี่ยนหลอดไฟแอลอีดี อาคารสำนักงานและบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร (ทางด่วนขั้นที่1) ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนสายรามอินทรา-วงแหวนรอบนอก ) ทางพิเศษบูรพาวิถี (ทางด่วนสายบางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (ทางด่วนสายบางพลี-สุขสวัสดิ์) จำนวน 1,707 ดวง นอกจากนี้จะติดตั้ง Solar Rooftop ใช้พลังงานจากโซล่าเซลล์เพื่อลดการใช้กระแสไฟจากการไฟฟ้านครหลวง จะช่วยกทพ.ลดต้นทุนพลังงานได้มหาศาล
ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยียานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ(Connected) and Autonomous Vihicles: CAV บนทางพิเศษ ในหลายประเทศ อาทิ อเมริกา จีนเริ่มใช้แล้วและทำได้จริงจึงเกิดความมั่นใจ จะพยายามขับเคลื่อนของไทยให้ทันกับนานาอารยประเทศ สิ่งสำคัญคือ Map เฉพาะ โดยกทพ.ทำMOU กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อทำTD Map คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปีนี้ เริ่มทดลองใช้บนทางพิเศษฉลองรัช ปี 2569
นอกจากนี้ กทพ.จัดแคมเปญพิเศษเพื่อเป็นการส่งเสริมใช้บัตร Easy Pass มากขึ้น โดยคืนค่าผ่านทาง 50% จ่ายค่าผ่านทาง 100 บาท คืนให้ 50 บาท บอร์ดกทพ. เห็นชอบเรียบร้อยแล้ว เริ่มในวันที่ 6 มกราคม 2569 เวลา 00.01–23.59 น. ครอบคลุมทางพิเศษทั้ง 7 สายทางของ กทพ. โดยระบบจะคืนเงินให้แบบ real-time พร้อมแจ้งเตือนผ่าน App. Exat Portal สำหรับผู้ที่ผูกบัญชีไว้ และสามารถตรวจสอบยอดการเติมเงินผ่าน Mobile Application และ www.ThaiEasyPass.com ได้ทันที คาดว่า กทพ.จะสูญเสียรายได้ประมาณ 20 ล้านบาทต่อวัน หรือ อาจจะมากกว่า ต้องรอดูผลดำเนินงาน
“การลดราคาทุกๆ เปอร์เซ็นต์ คือต้นทุนของกทพ. ที่ผ่านมา ลด5% ทุกวัน กทพ.สูญเสียรายได้ 700 ล้านบาทต่อปี ถ้าลด 50% จะสูญเสียรายได้ 7,000 ล้านบาทต่อปี สำนักงบประมาณไม่ยินยอม แต่กทพ.อยากให้อยู่ดี จึงได้จัดแคมเปญนี้ เพื่อให้ลูกค้าตื่นเต้นและประทับใจ ถ้าผลตอบรับดีกทพ.จะขยายวันเพิ่ม หวังว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้า ตอนนี้บังคับลูกค้าแล้วโดยมีการขยายช่อง Easy Pass สีน้ำเงินให้กว้างขึ้น ช่องสีขาวเล็กลง เพื่อไม่ให้ดูเหมือนว่าเราบังคับลูกค้า ถึงได้มีการออกแคมเปญนี้มา เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมยุติธรรม”
นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนโครงการใหม่ๆ นั้น ตอนนี้ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องหนี้สาธารณะ โครงการที่รัฐบาลลงทุนเองจะยาก จะทำเป็น PPP กองทุน TFF โครงการที่คิดว่ากทพ.ลงทุนเองและมีความเป็นไปได้ เช่น ทางด่วนกระทู้-ป่าตอง จ.ภูเก็ต เฟส1-2 ทางพิเศษสายฉลองรัช-วงแวหนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันออก หรือ ทางด่วน N2 ระยะทาง 6.70 กิโลเมตร ค่าก่อสร้าง จากเดิม 16,000 ล้านบาท เพิ่มเป็น 17,000 ล้านบาท เนื่องจากต้องยกระดับความสูงอยู่ที่ระดับ 3 ให้พ้นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี ตอนนี้เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ส่วนทางด่วน N1 โดยเพิ่มระยะทางช่วงต้นทางด่วน N2 ลาดปล้าเคล้า ถึงทางพิเศษฉลองรัช รวมไปด้วย อยู่ระหว่างหารือกระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง จะทำอย่างไรให้การเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ฝั่งตะวันออก-ตก จากนวมินทร์ วิ่งไปแครายได้สะดวก ถ้ายกระดับไม่ได้เปลี่ยนเป็นระดับพื้นดินแทน ค่าก่อสร้างประมาณ 10,000 ล้านบาท เตรียมเสนอคจร. เร็วๆ นี้ ส่วนโครงการที่เหลือตามแผนที่จะดำเนินการในอนาคตกทพ. ต้องทำ PPP ทั้งหมด
ความคืบหน้าโครงการก่อสร้าง อาทิ โครงการทางพิเศษสายพระราม 3 - ดาวคะนอง - วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2568 อยู่ที่ร้อยละ 92.13 และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2569 กทพ. โครงการก่อสร้างทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีการดำเนินงาน 2 ระยะ ดังนี้
โครงการทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง ระยะที่ 1 ครม. มีมติเห็นชอบให้ กทพ. ดำเนินก่อสร้างเป็นทางยกระดับขนาด 4 ช่องจราจรต่อทิศทาง (สำหรับรถยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง และรถจักรยานยนต์ 2 ช่องจราจรต่อทิศทาง) ระยะทางรวม 3.98 กิโลเมตร และมีอุโมงค์อยู่ในช่วงกลางของแนวสายทาง (อุโมงค์ มีระยะทาง 1.85 กิโลเมตร) ด้วยรูปแบบการออกแบบควบคู่การก่อสร้าง (Design & Build) และวงเงินลงทุน 10,964.77 ล้านบาท เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาการจราจร ลดอุบัติเหตุ และยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของจังหวัดภูเก็ตให้ทันสมัยและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน กทพ. อยู่ระหว่างขั้นตอนการคัดเลือกผู้รับจ้างในการก่อสร้าง ซึ่งหากได้ผู้รับจ้างฯ แล้ว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2573
ในส่วนของระยะที่ 2 ช่วงเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ ระยะทาง 30.62 กม. คาดว่าจะนำเสนอ ครม. เพื่ออนุมัติภายในปี 2569 นี้ ซึ่งหากโครงการทางพิเศษสายกะทู้–ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ทั้ง 2 ระยะ แล้วแสร็จสมบูรณ์ จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักที่ช่วยลดเวลาเดินทางและเพิ่มศักยภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ตอนบนได้


