xs
xsm
sm
md
lg

CAAT สาธิตบิน”โดรนโดยสาร” eVTOL ตั้งเป้าปี 69 บริการ Air Taxi ขนส่งอัจฉริยะเกิดเป็นรูปธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



CAAT จัดสาธิตการบิน eVTOL”โดรนโดยสาร” หรือ Air Taxi “ ยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมการบินสมัยใหม่ของไทย ดึงเอกชนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ผลักดันการขนส่งทางอากาศรูปแบบใหม่ ตั้งเป้าเริ่มให้บริการปี 69 เล็งเส้นทางนำร่อง พัทยา,ภูเก็ต,สมุย

วันที่ 24 พ.ย. 68 สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) หรือ กพท.จัดการสาธิตการบินอากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงทางดิ่ง (eVTOL) ของบริษัท eHang ณ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ เพื่อแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีการบินรูปแบบใหม่ เตรียมความพร้อมสู่ยุคการคมนาคมทางอากาศสมัยใหม่ ซึ่งการสาธิตดังกล่าวดำเนินการภายใต้กรอบการกำกับดูแลของ CAAT ในพื้นที่ควบคุมที่มีความปลอดภัยสูง พร้อมแผนเผชิญเหตุ (ERP) และมาตรฐานความปลอดภัยสากลทุกขั้นตอน โดยมีพลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT เพื่อยืนยันความพร้อมของประเทศในการรองรับการปฏิบัติการบินรูปแบบใหม่ในอนาคต โดยมีคณะกรรมการ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นสักขีพยาน และมีผู้อำนวยการสำนักงานการบินแห่งสิงคโปร์ (CAAS) Mr. Han Kok Juan ร่วมชมการสาธิตการบินครั้งนี้

พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า การสาธิตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเพื่อผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็น Aviation Hub ของภูมิภาค โดยปัจจุบัน CAAT อยู่ระหว่างการเตรียมการจัดงาน ICAO Advanced Air Mobility (AAM) Symposium 2026 หรือการประชุมนานาชาติว่าด้วยการเคลื่อนย้ายทางอากาศขั้นสูง ในประเทศไทย ซึ่งจะขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายนถึง 4 ธันวาคม 2569 ถือเป็นการจัดงานใหญ่นอกประเทศแคนนาดา จะเป็นเวทีระดับโลกในการแสดงศักยภาพ ความพร้อมด้านเทคโนโลยี และความมุ่งมั่นของไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินสมัยใหม่อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ CAAT มีแผนในการสนับสนุน อากาศยานที่ไม่มีนักบิน หรือ โดรน เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาการคมนาคมทางอากาศของประเทศไทย โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้โดรนขนส่งสินค้าและ โดนขนส่งผู้โดยสาร รวมถึง อากาศยานไฟฟ้าขึ้นลงทางดิ่ง (eVTOL) เกิดขึ้นในประเทศโดยเร็วที่สุด โดยมีนโยบายว่า บริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาจะต้องมีการตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยด้วยเพื่อสร้างอุตสาหกรรมด้านการบินในประเทศด้วย ไม่ใช่เป็นการนำเข้าอย่างเดียว ซึ่ง บริษัท eHang ได้เข้ามาตั้งฐานการผลิตที่ประเทศไทยและร่วมกับบริษัทคนไทยด้วย นอกจากนี้ CAAT ได้มีการตรวจสอบรวมถึงมีการทดสอบในรูปแบบต่างๆ เช่น กรณีถูกตัดสัญญาณ หรือแบตเตอรี่เหลือน้อย เพื่อความปลอดภัยสูงสุด


พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า สำหรับกฎหมายรองรับโดรนประเภทต่างๆ CAAT ได้ร่วมมือกับทาง สิงคโปร์ที่มีการพัฒนาเรื่องนี้เหมือนกัน เพื่อออกกฎระเบียบรองรับ ส่วนผู้ให้บริการจะต้องได้รับใบอนุญาตประกอบการและมีใบอนุญาตสำหรับผู้ควบคุม และนอกจากนี้จะมีการกำหนดมีเส้นทาง เบื้องต้นจะกำหนดเส้นทางทดสอบทดลองในพื้นที่ไม่รบกวนประชาชน เช่น เมืองพัทยา เส้นทางจากแหลมบาบีฮาย-เกาะล้าน ,เส้นทางบนเกาะภูเก็ต ,เกาะสมุย-เกาะพงัน ,เกาะเต่า-เกาะนางยวน เพื่อใช้สำหรับแก้ปัญหาจราจร รองรับด้านการท่องเที่ยว และกรณีมีผู้ป่วยเร่งด่วน มีเป้าหมายว่าจะมีบริการโดรน และ eVTOL ในปี 2569 และจะทำให้ไทยจะเป็นประเทศแรกในอาเซียน เพื่อใช้เป็น Air Taxi

“CAAT พร้อมเป็นทั้งผู้กำกับดูแลและผู้สนับสนุน เพื่อให้เทคโนโลยีการบินสมัยใหม่เกิดขึ้นได้จริงบนพื้นฐานของความปลอดภัยสูงสุด สอดคล้องกับเป้าหมายการเป็น Aviation Hub ของรัฐบาล”


โดยอากาศยาน eVTOL รุ่นที่นำมาสาธิตเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบผู้โดยสาร (Passenger-grade UAV) จากบริษัท eHang มีคุณสมบัติ ด้านความเร็วสูงสุด (Maximum Design Speed) 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะปฏิบัติการบิน 30 กิโลเมตร และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง ถือเป็นอีกหนึ่งต้นแบบสำคัญของเทคโนโลยี Advanced Air Mobility (AAM) ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมระบบขนส่งทางอากาศในอนาคต

การสาธิตครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญอีกขั้นในการแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการนำ eVTOL และระบบ Advanced Air Mobility เข้ามาใช้งานในประเทศไทย ทั้งในมิติของความปลอดภัย เทคโนโลยี และความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนระบบการบินไทยสู่อนาคตอย่างมั่นคงและยั่งยืน




กำลังโหลดความคิดเห็น