“รมว.ธนกร” สั่งเดินหน้าเสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมภายใน 120 วัน กรมส่งเสริมอุตฯ ขานรับนโยบาย คลอดมาตรการ “ดีพร้อมเสิร์ฟ” (DIPROM Serve) เสิร์ฟงานไว-เงินไว สู่ประชาชน เร่งสร้างวัคซีนให้ SMEs ไทย เพิ่มทักษะ ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน เสริมสภาพคล่องทางธุรกิจ กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น คาดสร้างมูลค่าเศรษฐกิจกว่า 4,600 ล้านบาท
นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วทั้งในด้านเทคโนโลยี สภาพภูมิอากาศ และแรงเสียดทานทางการค้าโลก ทำให้ต้องปรับยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมไทยต้องเร่งปรับตัวเพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และการที่จะเติบโตอย่างมั่นคงจำเป็นต้องมีรากฐานที่แข็งแรงจากวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเปรียบเสมือน “ภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจ” ที่ช่วยเสริมความต่อเนื่องของกระบวนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังเป็นฟันเฟืองสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่และเป็นแหล่งจ้างงานที่สำคัญของประเทศ
ปี 2567 SME มีจำนวน 3 ล้านราย และว่าจ้างงานกว่า 13 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังเผชิญข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุน การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะสูง หรือความท้าทายจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการยกระดับศักยภาพของ SME ไทย เพื่อให้สามารถปรับตัวและแข่งขันได้ในบริบทเศรษฐกิจโลกที่เปลี่ยนแปลงไปผ่านนโยบาย Quick Big Win
ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม (DIPROM) ออกมาตรการ “ดีพร้อมเสิร์ฟ์” งานไว เงินไว by DIPROM ประกอบด้วย 1. งานไว : เป็นมาตรการที่ได้เสนอขอรับจัดสรรงบประมาณกลางเร่งด่วน เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดฝึกอบรมระยะสั้นในหลักสูตรพื้นฐานที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ เกิดการกระจายรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน
2. เงินไว เป็นมาตรการที่เร่งเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ SME วิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการรายย่อย โดยมาตรการเร่งด่วนนี้เป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกที่สำคัญในการเร่งเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ภาคอุตสาหกรรมไทยอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างเกราะป้องกัน ฟื้นความเชื่อมั่น ดันอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ และตอบสนองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ Quick Big Win ที่มุ่งเน้น “กระตุ้นสั้น ได้ผลยาว กระจายตัว” เห็นผลจริงภายใน 120 วัน
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงอุตฯ มุ่งขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมด้วยการปั้นอุตสาหกรรมคู่ชุมชนให้สมดุลและยั่งยืน ภายใต้นโยบาย “MIND” การขับเคลื่อนให้เกิดเป็นรูปธรรม จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกหน่วยงานของกระทรวงอุตสาหกรรมผ่านนโยบาย“MIND as One” เป็นการทำงานร่วมกัน เป็นทีมเดียวกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการบริการภาครัฐ รวมถึงปรับเปลี่ยนจาก "ผู้ควบคุม" มาเป็น "ผู้สนับสนุนและอำนวยความสะดวก" สร้างปัจจัยเอื้อต่อธุรกิจ โดยมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อ “สร้างเกราะป้องกัน ฟื้นฟูความเชื่อมั่น และยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย” ให้พร้อมสู่การเป็นธุรกิจมูลค่าสูง (High value) ผ่านมาตรการส่งเสริมและพัฒนา SME และวิสาหกิจชุมชน ได้แก่ กระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว การเพิ่มสภาพคล่องและสร้างเกราะป้องกันภาคอุตสาหกรรม เพื่อเติมทุน เสริมความรู้ และการลงทุนเพื่ออนาคต ผ่านการส่งเสริมการลงทุนด้านวิจัย พัฒนาประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และนวัตกรรมสมัยใหม่ นับเป็นการขับเคลื่อนเชิงรุกเพื่อยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง แข็งแรง และยั่งยืน
นางสาวณัฏฐิญา เนตยสุภา อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ดีพร้อม ขานรับนโยบายกระทรวงอุตฯ ในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะ SME วิสาหกิจชุมชน และสตาร์ทอัพ ถือเป็นเสาหลักและระบบหมุนเวียนชีวิตเศรษฐกิจขอประเทศ จำเป็นต้องเร่งช่วยเหลือให้สามารถอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน โดย ดีพร้อม มีมาตรการเชิงรุก “ดีพร้อมเสิร์ฟ” (DIPROM Serve) : งานไว เงินไว by DIPROM เพื่อยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการได้อย่างตรงจุดภายใน 120 วัน ประกอบด้วย หลัก 2 กลยุทธ์ ได้แก่
1. “เสิร์ฟงานไว” เน้นเสริมแกร่งเศรษฐกิจฐานรากและยกระดับภาคอุตสาหกรรมด้วยการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการทุกระดับ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพอย่างเข้มข้น เพื่อให้นำไปประกอบอาชีพและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน เช่น ช่างชุมชน แปรรูปอาหาร ผลิตของใช้ในครัวเรือน และพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน
ขณะเดียวกัน ดีพร้อมยังยกระดับบุคลากรภาคอุตสาหกรรมเพื่อรองรับเศรษฐกิจแห่งอนาคต เช่น การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (AI) การตลาดยุคใหม่ เป็นต้น รวมถึงพัฒนาอุตสาหกรรมอนาคต เช่น ธุรกิจโดรนเกษตร ธุรกิจพลังงานสะอาด ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) นอกจากนี้ ยังมีการบูรณาการองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจสีเขียว และแนวทางธุรกิจอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คาดว่าจะพัฒนาผู้ประกอบการและประชาชนไม่น้อยกว่า 60,000 รายทั่วประเทศ และก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมไม่น้อยกว่า 4,600 ล้านบาท
2. “เสิร์ฟเงินไว” เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs และวิสาหกิจชุมชน โดยเฉพาะในช่วงฤดูกาลที่มีความต้องการสินค้าสูง (High Season) ผ่าน “สินเชื่อเงินทุนหมุนไว ไฮซีซั่น” วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 200 ล้านบาท ภายใต้ โครงการเงินทุนหมุนเวียนเพื่อส่งเสริมอาชีพอุตสาหกรรมในครอบครัวและหัตถกรรมไทย หรือดีพร้อมเปย์ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างรวดเร็ว วงเงินสูงสุดไม่เกิน 2,000,000 บาทต่อราย และสำหรับวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท สามารถใช้บุคคลค้ำประกันได้ ระยะเวลาผ่อนชำระ 24 งวด ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษร้อยละ 0.5 ต่อเดือน
“มาตรการดีพร้อมเสิร์ฟ (DIPROM Serve) นี้เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่สร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจให้ผู้ประกอบการอย่างตรงจุดและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นของประเทศ ซึ่งตอบโจทย์กระทรวงอุตสาหกรรมที่มุ่งสร้างเกราะป้องกัน ฟื้นฟูความเชื่อมั่น และยกระดับภาคอุตสาหกรรมไทย” นางสาวณัฏฐิญากล่าว


