สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ออกประกาศเตือนภัยถึงประชาชนทั่วประเทศ ให้เพิ่มความระวังในการซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ หลังพบแนวโน้มการร้องทุกข์จากผู้บริโภค “พุ่งสูงต่อเนื่อง” จากพฤติกรรมการซื้อขายบนโลกออนไลน์ที่ขยายตัวรวดเร็วเกินการควบคุม
จากข้อมูลของ สคบ. พบว่า ปี 2566 มีเรื่องร้องทุกข์ 2,890 เรื่อง ปี 2567 จำนวน 2,553 เรื่อง และปี 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 2,558 เรื่อง (มกราคม - กันยายน 2568) แม้ตัวเลขดูใกล้เคียงกัน แต่ “สะท้อนภาพปัญหาที่ไม่มีทีท่าจะลดลง” โดยเฉพาะการสั่งซื้อสินค้าผ่านเพจหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ไม่มีตัวตนจริง ซึ่งกลายเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพหลอกลวงเอาเงินจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เปิดเผยว่า “ทุกวันนี้ผู้บริโภคจำนวนมากตกเป็นเหยื่อ เพราะไม่ตรวจสอบแหล่งที่มาของร้านค้าออนไลน์ หลายรายรับเงินแล้วไม่จัดส่งสินค้า ส่งสินค้าไม่ตรงการสั่งซื้อหรือโฆษณา หรือไร้คุณภาพ” ทั้งนี้ ปัญหาที่น่ากังวลคือ “ผู้ประกอบธุรกิจเอาเปรียบสังคม” เหล่านี้มัก ไม่จดทะเบียนประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงกับ สคบ. ทำให้ไม่สามารถติดตามตัวได้เมื่อเกิดปัญหา หลายรายไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง บางรายใช้บัญชีผู้อื่นรับเงิน หรือแม้แต่เข้าออกนอกประเทศไปมาเพื่อหลีกเลี่ยงการตามตัว รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศและไม่มีตัวแทนตั้งอยู่ในประเทศไทย
สคบ. ขอแนะนำผู้บริโภคตรวจสอบก่อนซื้อสินค้าทุกครั้ง “อย่าซื้อจากร้านค้าที่ไม่รู้แหล่งที่มา ไม่ระบุชื่อผู้ประกอบการชัดเจน และไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจตลาดแบบตรงจาก สคบ.” พร้อมแนะนำให้ผู้บริโภคตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับอนุญาตได้ทางเว็บไซต์ www.ocpb.go.th หากผู้บริโภคซื้อสินค้าจากผู้ประกอบธุรกิจที่ขึ้นทะเบียนกับ สคบ. จะสามารถติดตาม ตรวจสอบ ไกล่เกลี่ย และขอความช่วยเหลือได้รวดเร็วกว่า ซึ่งจะช่วยลดความเสียหายและเพิ่มโอกาสในการได้รับการเยียวยาเมื่อเกิดปัญหา นายรณรงค์ฯ กล่าวย้ำ
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนช่วยกันเผยแพร่ข่าวเตือนภัยนี้ให้กว้างขวาง โดยเฉพาะกลุ่มที่นิยมซื้อสินค้าออนไลน์เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลโกงรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนไปตามยุคดิจิทัล การตรวจสอบข้อมูลผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกหลอกลวง และป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคได้ พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยนี้ ต่อบุคคลใกล้ชิด เพื่อร่วมกันสร้างสังคมผู้บริโภคที่รู้เท่าทันและปลอดภัยในโลกออนไลน์ หากผู้บริโภคพบปัญหาเกี่ยวกับการซื้อสินค้าออนไลน์ สามารถขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วน 1166 ร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชัน OCPB Connect หรือ เว็บไซต์ www.ocpb.go.th รวมถึงคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ทุกจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้บ้าน เมืองพัทยา และสำนักงานเขตทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังสามารถใช้ช่องทางดิจิทัลผ่านระบบ Traffy Fondue (ทราฟฟี่ ฟองดูว์) เพื่อความสะดวก รวดเร็ว และลดภาระค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้บริโภค
                    

