“ผลิตไฟฟ้า” เดินหน้าขับเคลื่อนการเติบโตเชิงกลยุทธ์ในสหรัฐอเมริกา ล่าสุดประกาศเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้า Linden Cogen ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เป็น 38% สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ EGCO ในการเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตโฟลิโอการลงทุนในตลาดพลังงานสหรัฐอเมริกา และสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของบริษัท
นายธวัชชัย สำราญวานิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัท EGCO Linden II, LLC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ EGCO ถือหุ้นทั้งหมดและจดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในสัญญา Equity Purchase Agreement เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2568 เพื่อลงทุนเพิ่มเติมในสัดส่วน 10% ในบริษัท Linden TopCo LLC โดยการลงทุนดังกล่าวจะดำเนินการแล้วเสร็จ หลังจากดำเนินการเงื่อนไขต่างๆ ภายใต้สัญญา Equity Purchase Agreement เสร็จสิ้น
บริษัท Linden TopCo เป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้า Linden Cogen ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม (Cogeneration) ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังผลิต 980 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา โดยประกอบด้วยโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 1-5 กำลังผลิตรวม 800 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าและให้บริการเสริมความมั่นคงในระบบไฟฟ้าแก่ระบบและโครงข่ายไฟฟ้าในรัฐนิวยอร์ก (NY-ISO Zone J) และโรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 กำลังผลิต 180 เมกะวัตต์ ซึ่งขายไฟฟ้าให้แก่ตลาดซื้อขายไฟฟ้า PJM PSEG ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ตลาดไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งเป็นตลาดที่มีความต้องการไฟฟ้าและกำลังไฟฟ้าสำรองสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า Linden Cogen ยังมีสัญญาขายไอน้ำและไฟฟ้าระยะยาวกับผู้รับซื้อรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่น่าลงทุน ทั้งนี้ ภายหลังจากการลงทุนเสร็จสมบูรณ์แล้ว EGCO Linden II, LLC จะมีสัดส่วนการลงทุนในบริษัท Linden TopCo เพิ่มขึ้นเป็น 38%
"การลงทุนเพิ่มในโรงไฟฟ้า Linden Cogen สะท้อนถึงการเสริมสร้างสถานะเชิงกลยุทธ์ของ EGCO ในตลาดพลังงานของสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา ที่ปัจจุบันมีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 924 เมกะวัตต์ โดยการลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่มุ่งเน้นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่มีบทบาทสำคัญในช่วงการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อสนับสนุนการพัฒนาการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนในระยะยาว ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวคาดว่าจะช่วยสร้างการเติบโตของรายได้และความสามารถในการทำกำไรของ EGCO อย่างต่อเนื่อง" นายธวัชชัยกล่าว
นอกจากนี้ โรงไฟฟ้า Linden Cogen หน่วยที่ 6 ยังประสบความสำเร็จในการทดสอบเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าที่ใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงผสม (Hydrogen co-firing) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่โรงไฟฟ้า Linden Cogen จะเป็นหนึ่งในโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมาย Net Zero ของ EGCO ซึ่งมุ่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 10% ภายในปี ค.ศ. 2030 และพัฒนาเทคโนโลยีไฮโดรเจนร่วมในระบบผลิตไฟฟ้า เมื่อรวมการลงทุนล่าสุดนี้ EGCO มีการลงทุนในต่างประเทศครอบคลุมสหรัฐอเมริกา ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สปป.ลาว เกาหลีใต้ และไต้หวัน ซึ่งสะท้อนความแข็งแกร่งของโครงสร้างรายได้ในระยะยาวของ EGCO
EGCO Group ได้เข้าลงทุนใน Linden TopCo ในปี 2564 ซึ่งนับเป็นการปักธงการลงทุนครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาของ EGCO Group
ปัจจุบัน EGCO มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,735 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ไม่ได้รวมกำลังผลิตจากการเข้าถือหุ้นเพิ่มใน Linden Cogen) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,535 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 23% ของกำลังผลิตทั้งหมด) ทั้งจากชีวมวล พลังน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลมทั้งบนบกและนอกชายฝั่ง เซลล์เชื้อเพลิง และระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่
ทั้งนี้ โรงไฟฟ้าและโครงการต่างๆ ตั้งอยู่ใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ EGCO ยังมีธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ครอบคลุมธุรกิจเชื้อเพลิงและสาธารณูปโภค และธุรกิจ Customer Solution และ Startup เช่น บริษัท เอ็กโก เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (ESCO) ให้บริการงานเดินเครื่อง บำรุงรักษา และวิศวกรรม “CDI Group” บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ในอินโดนีเซีย “TPN” ระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “Innopower” บริษัทด้านการวิจัยเพื่อพัฒนานวัตกรรม และโครงการนิคมอุตสาหกรรมเอ็กโกระยอง (ERIE) เป็นต้น ทั้งนี้ EGCO Group ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) มา 5 ปีต่อเนื่อง