ลดแรงต้านแลนด์บริดจ์ "สุริยะ" สั่งเพิ่มเงื่อนไขใน RFP ให้เอกชนตั้ง "กองทุนเยียวยาประชาชน" ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการ พร้อมให้ สนข.เร่งสำรวจ พื้นที่และจำนวนประชาชน รวมถึงหาทางแก้ปัญหาชาวบ้านไร้เอกสารสิทธิ ยันโครงการคุ้มค่า นักลงทุนบิ๊กเนมสนใจ "ดูไบเวิลด์" ขอลงดูพื้นที่จริง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวัดระนองในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และได้รับความเห็นจากทุกฝ่ายในการดำเนินโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือแลนด์บริดจ์ ซึ่งประชาชนที่อาศัยในพื้นที่มีความกังวลในเรื่องผลกระทบจากโครงการทั้งเรื่องการเวนคืน ซึ่งมีประชาชนบางส่วนไม่มีเอกสารสิทธิในที่ดิน หากมีการเวนคืนที่ดินจึงกังวลว่าจะไม่ได้รับการชดเชย และการประกอบอาชีพ นอกจากนี้ยังกังวลเรื่องอาชีพผลกระทบจากการทำการเกษตรที่ผลผลิตมีมูลค่าสูง เช่น ทำสวนทุเรียน รายได้ปีละ 2 ล้านบาทจะหายไป
ดังนั้น จึงได้มีแนวคิดในการจัดตั้งกองทุนขึ้นมาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยให้เอกชนที่เข้ามาลงทุนเป็นผู้รับผิดชอบจัดตั้งกองทุนฯ ดังกล่าวเพื่อดูแลประชาชน โดยขณะนี้ได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สำรวจข้อมูลพื้นที่ที่ต้องเวนคืนและสำรวจจำนวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และรวบรวมข้อมูลผู้ที่ไม่มีเอกสารสิทธิการถือครองโฉนดที่ดินด้วย โดยในการจัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบนี้จะกำหนดไว้ในเงื่อนไขสำหรับการคัดเลือก (Request for Proposal : RFP) ซึ่งการศึกษาเพิ่มเติมจะไม่ทำให้โครงการล่าช้า เพราะจะเร่งทำคู่ขนาน
“โครงการนี้มูลค่าการลงทุนในเฟสแรก ประมาณ 5 แสนล้านบาท ภาครัฐจะรับผิดชอบเรื่องการเวนคืนที่ดินอย่างเดียว โดยเอกชนลงทุนในด้านการก่อสร้างท่าเรือ ระบบราง มอเตอร์เวย์ และจะกำหนดเพิ่มเรื่องการจัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่งจะตัดสินที่รายใดเสนอผลประโยชน์แก่รัฐมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะการประมูล ส่วนกองทุนจะต้องมีวงเงินเท่าไร รอการศึกษาสำรวจเรื่องผลกระทบและการเยียวยาแก่ประชาชนก่อน” นายสุริยะกล่าว
นายสุริยะกล่าวว่า โครงการขนาดใหญ่ทั่วโลกจะมีการตั้งกองทุนเพื่อเยียวยาดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ส่วนในประเทศไทยมีโครงการสนามบินสุวรรณภูมิที่มีการจัดตั้งงบประมาณสำหรับเยียวยาเอกชน แต่โครงการแลนด์บริดจ์จะให้เอกชนที่ตั้งกองทุนฯ
ผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นความคุ้มค่าในการลงทุน นายสุริยะกล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการนี้ได้มีการโรดโชว์แก่นักลงทุนแล้วหลายประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มบริษัทดูไบเวิลด์ที่แสดงความสนใจจะมาประเทศในต้นเดือน ก.พ.นี้เพื่อลงพื้นที่โครงการฯ ด้วยตนเอง ขณะเดียวกันมีบริษัทจีนสนใจโครงการฯ ซึ่งหลังจากนี้กระทรวงคมนาคมจะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อโรดโชว์เชิญชวนนักลงทุนบริษัทจีน
"เรามั่นใจว่าโครงการแลนด์บริดจ์มีความเป็นไปได้ มีความคุ้มค่า มีนักลงทุนต่างประเทศรายใหญ่ที่มีประสบการณ์ในการบริหารท่าเรือ และมีสายการเดินเรือแสดงความสนใจ และการที่นักลงทุนรายใหญ่จะมาลงทุน เขาจะต้องพิจารณาเรื่องความคุ้มค่าก่อนอยู่แล้ว"
สำหรับกรณีในโครงการไม่มีการศึกษาเรื่องระบบท่อน้ำมันนั้น นายสุริยะกล่าวว่า ระบบการส่งน้ำมันทางท่อเป็นงานที่ต้องมีขีดความสามารถสูง ซึ่งต้องให้เอกชนที่มีความเชี่ยวชาญเป็นผู้เสนอและดำเนินการศึกษาและนำเสนอกรณีที่จะลงทุน ในขณะที่ภาครัฐ มีการวางแผนในเรื่องเวนคืนที่ดินเผื่อไว้อยู่แล้วตามแนวเส้นทางมอเตอร์เวย์และรถไฟ และมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EHIA) ไว้ครอบคลุม โดยอยู่ที่เอกชนว่าจะสนใจเสนอดำเนินการในเรื่องนี้หรือไม่