ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “รฟท.” เสนอเปลี่ยนเส้นทางรถไฟทางคู่โคราชใหม่ ไม่ผ่านกลางเมือง ชาวโคราชไม่เห็นด้วยชี้โครงการเดินหน้าไปมากแล้วจะทำให้ล่าช้าไปอีกหลายปี ขณะชาวบ้านที่ถูกเวนคืนที่ดินสร้างทางรถไฟทางคู่ 64 ครอบครัวยังไม่ได้รับเงินเวนคืน 300 ล้าน บางคนเครียดหนักถึงกับต้องนอนห้อง ICU
วันนี้ (11 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะ การดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ ที่ห้องประชุมหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา โดยมี นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน และมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เช่น สำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา, แขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 3, การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.), สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.), คณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดนครราชสีมา องค์กรเอกชนและภาคประชาชน เป็นต้น
ในที่ประชุม นายกฤษดา มัชฌิมาภิโร วิศวกรกำกับการก่อสร้างเขต 2 ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง รฟท.ได้นำเสนอผ่านระบบวิดีทัศน์ทางไกล ชี้แจงความคืบหน้ากรณีเปลี่ยนแนวเส้นทางรถไฟทางคู่ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ ตามเส้นทางวงแหวนรอบเมืองนครราชสีมา (MR-MAP) ซึ่งแนวโน้ม รฟท.อาจจะเปลี่ยนแนวเส้นทางรถไฟสายอีสานตอนบนไม่ผ่านเมือง แต่รถไฟความเร็วสูงและทางคู่สายอีสานตอนล่าง ยังเป็นแนวเส้นทางเดิม ทำให้หลายฝ่ายในที่ประชุมไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะภาคประชาชนและภาคเอกชนคัดค้านอย่างหนัก เนื่องจากว่าโครงการดังกล่าวได้ดำเนินการก่อสร้างมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ถ้ามีการเปลี่ยนแนวเส้นทางใหม่จะส่งผลทำให้เกิดความล่าช้าไปอีก ซึ่งผู้แทน รฟท.จะได้นำความคิดเห็นกลับไปทบทวนอีกครั้งนั้น
ล่าสุดวันนี้ นายสุวกฤต รังสิโรจน อายุ 63 ปี ประธานชุมชนป่าไม้ 191 ถนนจอมสุรางค์ยาตร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร้องเรียนผ่านผู้สื่อข่าวว่าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ นอกจากจะเกิดความล่าช้าเรื่องของแนวเส้นทางแล้ว ยังมีปัญหาเรื่องของความล่าช้าในการจ่ายเงินค่าเวนคืนที่ดินด้วย
อย่างเช่นที่ชุมชนป่าไม้ 191 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งอยู่ริมรางรถไฟที่จะก่อสร้างรถไฟทางคู่ ก่อนถึงตัวสถานีรถไฟนครราชสีมา 500 เมตร เมื่อเดือน ส.ค. 65 ได้มีพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน โดยวัดจากรางรถไฟออกมาประมาณ 20 เมตร มีการประเมิน และรังวัดเสร็จแล้ว รวมที่ดินที่ถูกเวนคืนไปทั้งหมด 64 แปลง เป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และได้มีหนังสือนัดทำสัญญาเมื่อวันที่ 28-29 มิ.ย. 66
ขณะนั้นหลายครอบครัวได้เตรียมย้ายข้าวของออกไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้ว แต่เมื่อถึงเวลานัดทำสัญญาปรากฏว่าทาง รฟท.เลื่อนการนัดทำสัญญาไปอีก เป็นช่วงเดือน พ.ค. 67 โดยอ้างว่าใบ รบ.9 ยังออกไม่ครบ ทำให้ขณะนี้เจ้าของบ้านทุกคนเดือดร้อนมาก เพราะบางคนไปวางเงินมัดจำเพื่อซื้อบ้านใหม่ บางคนไม่มีเงินก็นำทรัพย์สินที่ดินไปจำนองไว้ เพื่อที่จะได้นำเงินไปซื้อบ้านที่อยู่ใหม่ แต่มีการเลื่อนนัดทำสัญญา ทำให้บ้านที่ไปมัดจำไว้หลุดมือไป และคนที่จำนองทรัพย์สินไว้ก็ต้องรับภาระเรื่องของดอกเบี้ยอีกหลายเดือน
ตอนนี้หลายคนเครียดมาก อย่างคนข้างบ้านตนเองเป็นข้าราชการเกษียณอายุแล้ว เครียดถึงกับต้องไปนอนรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาขณะนี้ และบางคนก็เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดินเลย ดังนั้นจึงอยากวอน รฟท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจ่ายเงินค่าเวนคืนให้ชาวบ้านเร็วขึ้นด้วย เพราะตอนนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันมาก
