ศูนย์ข่าวภาคใต้ - 'รองนายกฯ สมศักดิ์' ลงพื้นที่ด่านบูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส รับฟังปัญหา อุปสรรคการให้บริการทางศุลกากร การพัฒนาด่านศุลกากรบูเก๊ะตาให้เป็นด่านปศุสัตว์และด่านสินค้าเกษตร เตรียมเสนอรัฐบาลเรื่องการสร้างสำนักงานใหม่ใกล้ด่าน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ที่ด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ตรวจติดตามการให้บริการและรับฟังการนำเสนอข้อมูล การบริหารจัดการและแนวทางการดำเนินการพัฒนาด่านศุลกากรบูเก๊ะตาให้เป็นด่านปศุสัตว์และด่านสินค้าเกษตร โดยมีนายชนธัญ แสงพุ่ม รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นายปรีชา นวลน้อย รองผู้ว่าราชการนราธิวาส รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายวัลลภ วุฒาพานิชย์ นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีสนใจเกี่ยวกับจุดเชื่อมผ่านแดน ซึ่งมีสะพาน ขณะนี้มี 2 ด่าน ประกอบด้วย ด่านบูเก๊ะตา และด่านสุไหงโก-ลก และอีกส่วนหนึ่งที่มีความสนใจคือ อ.ตากใบ สำหรับด่านบูเก๊ะตา สำนักงานอยู่ห่างจากตัวด่านประมาณ 800 เมตร และมีแม่น้ำสุไหงโก-ลกกั้น จึงทำให้เกิดความไม่สะดวก หากจะสร้างสำนักงานใกล้กับด่านก็มีประชาชนรอคอยความหวังจากการเวนคืนที่ดินประมาณ 247 ไร่ ทั้งนี้ในขอบของทั้งสองฝั่งมีที่ดินของกรมทางหลวงอยู่ ด้านหนึ่ง 30 เมตร ด้านหนึ่ง 60 เมตร เป็นทางออกอีกทางหนึ่งหากจะทำด่านเล็กๆ อย่างไรก็ตามการดำเนินการที่นอกเหนือจากแบบเดิมจำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นประชาพิจารณ์ของประชาชน จึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องนำเรียนรัฐบาลให้ทราบ หากแก้ไขปัญหาได้เป็นเรื่องที่ดี
นายสมศักดิ์ยังได้พบปะประชาชนชาวอำเภอแว้ง ณ สำนักงานด่านศุลกากรบูเก๊ะตา ก่อนที่จะประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเรื่องการบริหารจัดการด่านและแนวทางการพัฒนาด่านศุลกากรบูเก๊ะตา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันในส่วนของอาคารด่านศุลกากรบูเก๊ะตายังไม่สามารถเปิดให้บริการทางศุลกากรได้ เนื่องจากเมื่อประชาชนข้ามพรมแดนจากมาเลเซียมาฝั่งไทยแล้ว หากจะเข้ามายังอาคารด่านศุลกากรจะต้องเดินทางผ่านสี่แยก ซึ่งจะส่งผลให้การควบคุมผู้ที่ข้ามพรมแดนให้เข้าทำพิธีการศุลกากรที่อาคารนั้นจะกระทำได้ยาก จึงมีการตั้งจุดส่วนของงานพิธีการศุลกากรอยู่บริเวณใกล้ด่านพรมแดน ซึ่งมีลักษณะสำนักงานที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์เรียงต่อกัน ทั้งนี้ หากมีการจัดซื้อที่ดินเพื่อขยายด่านศุลกากรบูเก๊ะตา จะต้องมีการล้อมรั้วบริเวณที่เป็นที่ตั้งของด่านบูเก๊ะตาทั้งหมด ส่งผลให้ประชาชนบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามด่านบูเก๊ะตา ไม่สามารถใช้ถนนที่เชื่อมไปยังถนนเส้นหลักของด่านบูเก๊ะตาได้ จำเป็นต้องก่อสร้างถนนเส้นอื่นทดแทนเพื่อให้ประชาชนสัญจรเข้ามาถนนเส้นหลักบริเวณด่านบูเก๊ะตา
ดังนั้น เพื่อให้อาคารด่านศุลกากรบูเก๊ะตาเปิดให้บริการได้อย่างเต็มรูปแบบ อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้สัญจรข้ามพรมแดนและเพื่อยกระดับการค้าชายแดนระหว่างไทยกับมาเลเซีย ศอ.บต. จึงเสนอให้พิจารณาแนวทางการพัฒนาด่านศุลกากรบูเก๊ะตา อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส โดยมอบหมายจังหวัดนราธิวาสและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการประเมินที่ดิน ผลอาสิน และสิ่งปลูกสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณตามขั้นตอน
ทั้งนี้ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแล้วเห็นว่าแนวทางการซื้อที่ดินดังกล่าวไม่เหมาะสม อาจพิจารณาแนวทางการดำเนินการอื่น โดยขอให้รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และหน่วยงานในพื้นที่ ตลอดจนดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินโครงการด้วย
นอกจากนี้ ศอ.บต.ได้ร่วมกับกระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง และกระทรวงการคลัง โดยกรมศุลกากร จะมีการจัดการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษา สภาพปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหา และจัดทำเป็นแผนการพัฒนาด่านศุลกากรบูเก๊ะตาให้เป็นด่านปศุสัตว์และด่านสินค้าเกษตร เพื่อยกระดับการค้าชายแดน และการสร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำเสนอในการประชุม กพต. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป