กรมรางร่วมประชุมรถไฟ "ไทย-มาเลเซีย"(RJWC) หาทางเพิ่มความสะดวกขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนอย่างไร้รอยต่อ ผลักดันกลับมาเปิดเดินรถไฟเส้นทางสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง อีกครั้งหลังปิดมากว่า 20 ปี และความเป็นไปได้เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) และนาย MOHD SHAHRIMAN BIN SHAFEIN อธิบดีกรมรถไฟ สหพันธรัฐมาเลเซีย เป็นประธานร่วมการประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซีย (Thailand and Malaysia Railway Joint Working Committee: RJWC) ครั้งที่ 2 เพื่อผลักดันการบูรณาการการเชื่อมโยงทางรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซีย พร้อมด้วยนายอธิภู จิตรานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้แทนจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กรมศุลกากร สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วม
นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า ในที่ประชุมทั้งสองฝ่ายได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซียที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรางและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสารระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ ตามที่มีการพบกันระหว่างผู้นำสองประเทศระหว่าง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทย และ ดาโต๊ะ ซรี อันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เมื่อเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ปี 2566 ที่ผ่านมา ที่ได้ยืนยันถึงความสำคัญของการพัฒนาชายแดนร่วมกัน และเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และส่งเสริมการค้าและการลงทุนที่เพิ่มขึ้นระหว่างไทยกับมาเลเซีย
สำหรับประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซียในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. การเดินรถไฟข้ามพรมแดนอย่างไร้รอยต่อ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าทางรางผ่านชายแดนไทย-มาเลเซีย ในประเด็นด้านมาตรฐาน ทั้งกฎระเบียบและการขนส่งข้ามพรมแดนที่ไร้รอยต่อ ได้แก่ การปรับปรุงแก้ไขสัญญาระหว่างรัฐบาลสหรัฐมลายูกับรัฐบาลสยาม เพื่อความสะดวกในการเดินรถไฟ ระหว่างพระราชอาณาจักรสยาม กับกลันตัน ไทรบุรี เปอร์ลิศ และสหรัฐมลายู ปี 2465 โดยมุ่งเน้นการลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการขนส่ง รวมทั้งการประสานงานด้านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง
ด้านความปลอดภัยและความมั่นคงในการเดินรถไฟข้ามพรมแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณพื้นที่จังหวัดนราธิวาส อำเภอตากใบ และความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสุไหงโก-ลก-ปาเสมัส เข้ากับเส้นทางรถไฟเชื่อมชายฝั่งทะเลตะวันออก (East Coast Rail Link: ECRL) ของมาเลเซีย ซึ่งฝ่ายไทยมีความพร้อมในการกลับมาเปิดเดินรถในเส้นทางสุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง ซึ่งเคยเป็นเส้นทางรถไฟที่ใช้บริการขนส่งมวลชนและสินค้าในอดีตและได้หยุดให้บริการมากว่า 20 ปี เนื่องจากประเด็นความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยและปัญหาการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย
รฟท.ได้ทำการปรับปรุงสะพานทางรถไฟที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย สุดทางรถไฟสายใต้ที่สุไหงโก-ลกแล้ว และฝ่ายไทยได้นำเสนอข้อมูลสถานะความคืบหน้าการพัฒนารถไฟทางคู่สายใต้ของไทยให้ฝ่ายมาเลเซียได้รับทราบ
นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิชาการด้านระบบราง เช่น การแลกเปลี่ยนฝึกอบรมบุคลากรด้านระบบราง ตลอดจนการทบทวนและแก้ไขความตกลงเดินรถไฟระหว่างไทย-มาเลเซีย พ.ศ. 2497 (ค.ศ. 1954) เพื่อให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
2. การเชื่อมต่อโครงสร้างพื้นฐานทางราง โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูงระหว่างไทย-มาเลเซีย
การประชุมครั้งถัดไปมีกำหนดจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2567 โดยฝ่ายมาเลเซียจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานฯ ครั้งที่ 3 เพื่อติดตามประเด็นที่ต้องการผลักดันร่วมกันในระยะถัดไป