“สุริยะ” ปักธงเดินหน้า "แลนด์บริดจ์" ชง ครม.ใน ต.ค.นี้รายงานเบื้องต้นก่อนเดินสายโรดโชว์นักลงทุนต่างชาติ มอบนโยบาย สนข.ทำแผนเชื่อมระบบราง เพิ่มการขนส่งสินค้า ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และดัน พ.ร.บ.ตั๋วร่วมฯ เข้า ครม.ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าภาพรวม
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในงานวันคล้ายวันสถาปนาสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ครบรอบ 21 ปี พร้อมมอบนโยบายให้แก่ สนข. วันที่ 9 ต.ค. 2566 ว่า ได้เน้นการนำนโยบายรัฐบาลที่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรแปรไปสู่การปฏิบัติให้สำเร็จ โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน โดยระบบคมนาคมขนส่ง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ จะเป็นกลไกที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและเศรษฐกิจของประเทศ และส่วนหนึ่งขึ้นกับการส่งออกสินค้าไปขายต่างประเทศ ซึ่งต้องมีการสนับสนุนการขนส่งสินค้าทางรางเป็นหลัก เพื่อให้มีต้นทุนต่ำสามารถแข่งขันกับสินค้าจากประเทศอื่นๆ
โดยได้มอบหมายให้ สนข.ทำการวิเคราะห์และนำเสนอแผนงานโครงการด้านคมนาคมที่สามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่ง เหมือนประเทศที่เจริญแล้ว เช่น ญี่ปุ่นและเกาหลี ที่ใช้การขนส่งสินค้าทางรถไฟเป็นหลัก สนข.ต้องไปดูว่าอะไรคืออุปสรรคและปัญหาที่ทำให้ผู้ประกอบการหรือภาคเอกชนของไทยยังคงใช้การขนส่งสินค้าทางถนนโดยรถบรรทุก อะไรคืออุปสรรคที่ผู้ประกอบการยังไม่มาใช้การขนส่งทางรถไฟ สนข.ต้องทำแผนงานที่จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการขนส่งทางรถไฟให้ครบถ้วน ต้องมีสถานีเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าจากรถบรรทุกสู่รถไฟให้เพียงพอ จัดให้มีเครื่องมือสำหรับการขนถ่ายตู้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 3 เดือนจะนำเสนอแผนที่นำไปสู่การปฏิบัติได้
นอกจากนี้ จะสนับสนุนการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ และมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่แพง โดยจะเร่งผลักดันร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ... (พ.ร.บ. ตั๋วร่วม) ซึ่งขณะนี้ สนข.อยู่ระหว่างสรุปเพื่อนำเสนอกระทรวงคมนาคมเพื่อนำเสนอ ครม.เห็นชอบและเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรต่อไป เพื่อขับเคลื่อนให้ผู้ประกอบการเดินรถไฟฟ้าแต่ละรายหันมาใช้บัตรโดยสารรูปแบบเดียวกันก็ทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะทำให้เรามีข้อมูลการเดินทางของพี่น้องประชาชนเพียงพอ ที่จะนำมาทำการวิเคราะห์หาราคาค่าโดยสารที่เป็นธรรมต่อประชาชนผู้เดินทาง และเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการเดินรถที่ต้องเสียเงินลงทุนไป นอกจากนี้ การใช้บัตรเพียงใบเดียวในการเดินทางผ่านรถไฟฟ้าหลายสาย การจะคิดค่าแรกเข้าเพียงครั้งเดียวก็สามารถดำเนินการได้ ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียค่าแรกเข้าหลายครั้ง ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของพี่น้องประชาชนลงได้
ทั้งนี้ ได้ให้ สนข.พัฒนาระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนที่มีเส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่ที่มีความต้องการในการเดินทาง โดยให้ต้องเร่งรัดแผนงานจัดให้มีระบบขนส่งรอง หรือ Feeder ที่จะให้ประชาชนเดินทางออกจากบ้านมาใช้รถไฟฟ้าได้สะดวก ไม่ใช่ต้องนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างตากแดดตากฝนเพื่อมาขึ้นรถไฟฟ้า เป้าหมายเพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวลง ประหยัดการใช้พลังงาน ลดการนำเข้าน้ำมัน และลดปัญหาฝุ่น PM 2.5
@แลนด์บริดจ์พร้อมชง ครม.ใน พ.ย.นี้ ก่อนเดินหน้าโรดโชว์นักลงทุนต่างประเทศ
นายสุริยะกล่าวถึงโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) หรือแลนด์บริดจ์ ว่า เป็นนโยบายที่รัฐบาลจะผลักดันให้เดินหน้า โดย สนข.รายงานว่าเตรียมสรุปรายงานการศึกษาเบื้องต้นนำเสนอกระทรวงฯ แล้ว คาดว่าภายใน 2-3 สัปดาห์นี้จะนำเสนอ ครม.รายงานความคืบหน้าโครงการได้ และหลังเสนอ ครม.แล้วจะเป็นการเดินหน้าเรื่องนำเสนอโครงการต่อนักลงทุนต่างประเทศ (RoadShow) ช่วงเดือน ต.ค -พ.ย. 2566 ซึ่งข้อมูลจากนักลงทุนจะนำมาประกอบการศึกษาเพื่อวิเคราะห์โมเดลการพัฒนาการลงทุนที่เหมาะสมต่อไป
โครงการนี้รัฐจะลงทุนเฉพาะในส่วนค่าเวนคืน ส่วนการพัฒนาท่าเรือ ทางรถไฟ และอื่นๆ จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน โดยคาดว่าต้นปี 2567 การศึกษา รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EHIA) จะแล้วเสร็จ
“การโรดโชว์ จะเป็นการนำเสนอข้อมูลโครงการ รูปแบบการลงทุน และผลตอบแทนที่เอกชนจะได้รับ เป็นต้น ซึ่งจะนำข้อมูลที่ได้จากนักลงทุนมาวิเคราะห์ต่อไป ซึ่งนักลงทุนต่างชาติที่จะไปโรดโชว์ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ยุโรป ฝรั่งเศส ตะวันออกกลาง เป็นต้น”
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า การศึกษาขณะนี้มีการลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ในขั้นตอนการทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EHIA) โดยรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 วันที่ 16-17 ส.ค. 66 ครั้งที่ 2 เดือน ธ.ค. 66 ครั้งที่ 3 เดือน มี.ค. 67 จากนั้นจะนำรายงาน EHIA เสนอต่อสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ต่อไป
โดยกำหนดแผนงานเสนอ ครม.เห็นชอบหลักการในเดือน ต.ค. 2566, โรดโชว์นักลงทุนช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2566, ปรับปรุงรายละเอียดและวิเคราะห์โครงการตามข้อมูลโรดโชว์ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. 2566, เสนอ ครม.ขออนุมัติดำเนินโครงการ พร้อมขอความเห็นชอบ รูปแบบเงื่อนไขต่างๆ ช่วงเดือน ม.ค. 2567, เสนอ พ.ร.บ.SEC พร้อมเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ไปยังสภาฯ และจัดทำ RFP เพื่อคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน, สภาฯ ผ่าน พ.ร.บ.SEC ช่วงไตรมาส 4/2567, จะเปิดประมูลคัดเลือกเอกชนภายในไตรมาส 2 ปี 2568, ลงนามสัญญาไตรมาส 3 ปี 2568 เริ่มการก่อสร้างภายในปี 2568 ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี คาดว่าจะเปิดให้บริการในระยะแรกในไตรมาส 4 ปี 2573
สำหรับผลการศึกษาเบื้องต้น การพัฒนาแลนด์บริดจ์ประมาณมูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1.001 ล้านล้านบาท แบ่งการพัฒนาเป็น 4 เฟสย่อย โดยจะพัฒนาเฟสแรกก่อน มีมูลค่ารวม 522,844.08 ล้านบาท ประกอบด้วย ก่อสร้างท่าเรือ 2 ฝั่ง, ฝั่งระนอง, พื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้า (SRTO) และเส้นทางเชื่อมโยง ประกอบด้วย มอเตอร์เวย์ขนาด 4 ช่องจราจร และรถไฟทางคู่ ขนาด 1 เมตร และขนาด 1.435 เมตร