การรถไฟฯ จัดโปรฯ ลดค่าบริการขนส่งพิเศษ พัสดุหนักไม่เกิน 2 กก.เหมาจ่ายเพียง 30 บาท/ชิ้น ถึง 31 มี.ค. 67 หนุนนโยบายรัฐบาลช่วยลดค่าครองชีพ ช่วยลดต้นทุนและรายจ่ายแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้าขนาดเล็ก
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และกระทรวงคมนาคมในการช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนและภาคธุรกิจ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟฯ จึงได้มอบนโยบายให้การรถไฟฯ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดค่าครองชีพ โดยปรับลดค่าบริการขนส่งพิเศษสำหรับพัสดุประเภทหีบห่อวัตถุมีน้ำหนักไม่เกิน 2 กิโลกรัม เหลือเพียงชิ้นละ 30 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เพื่อช่วยลดต้นทุนและรายจ่ายแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้าขนาดเล็ก ร้านออนไลน์ รวมถึงเอสเอ็มอี ให้มีต้นทุนการขนส่งที่ถูกลงกว่าปกติถึง 50-70% เริ่มเปิดให้บริการได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 มีนาคม 2567
สำหรับสินค้าใช้บริการขนส่งดังกล่าวจะต้องบรรจุในกล่องหรือซองที่ปิดมิดชิด แข็งแรง เป็นสินค้าที่ไม่เน่าเสียง่าย และมีน้ำหนักต่อชิ้นไม่เกิน 2 กิโลกรัม เช่น อะไหล่ เสื้อผ้า อาหารแห้ง โดยคิดอัตราค่าบริการแบบเหมาจ่ายชิ้นละ 30 บาท ตลอดระยะทางที่มีการขนส่งสินค้าของขบวนรถสินค้าและขบวนรถโดยสาร นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการสามารถรวมส่งสินค้าในครั้งเดียวกันได้ถึง 10 ชิ้น ซึ่งจะคิดค่าบริการเป็นรายชิ้นโดยไม่คิดค่าบริการยกขึ้นลง ตลอดจนมีการรับประกันความเสียหายของสินค้าที่เกิดจากการขนส่งตามระเบียบของการรถไฟฯ อีกด้วย
“ผู้สนใจสามารถใช้บริการโปรโมชันพิเศษนี้ได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุดข้าราชการ และสามารถใช้บริการได้ทุกสถานีที่มีการรับ-ส่งสินค้าของการรถไฟฯ ซึ่งแต่ละครั้งจะใช้เวลาขนส่งจากต้นทางถึงปลายทางที่รวดเร็วภายใน 1-2 วัน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สถานีรถไฟทุกแห่ง หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง”
ปัจจุบันการให้บริการรับส่งสินค้าและพัสดุในประเทศมีแนวโน้มขยายตัวอย่างรวดเร็ว และจากการสำรวจพบว่าผู้บริโภคมีพฤติกรรมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การขนส่งพัสดุขนาดเล็กและขนาดกลางมีปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ดังนั้น การรถไฟฯ ได้เตรียมขยายการให้บริการขบวนรถพิเศษรับ-ส่งสินค้า ทั้งแบบเหมาขบวน และการพ่วงไปกับขบวนรถชนิดต่างๆ เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในอนาคต
“การขยายบริการรับส่งสินค้าและพัสดุทางรถไฟ นอกจากจะเป็นทางเลือกในการช่วยลดค่าครองชีพในการขนส่งสินค้าแก่ประชาชน และผู้ประกอบการแล้ว ยังจะเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้การรถไฟฯ อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของการรถไฟฯ ที่มุ่งส่งเสริมการปรับโหมดการขนส่งจากถนนสู่ระบบราง และเชื่อมโยงการขนส่งทางรางเข้ากับฐานการผลิตอุตสาหกรรมและเกษตรกรรม เพราะการขนส่งทางรางถือเป็นระบบโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ ต้นทุนต่ำ ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”
ท้ายนี้ การรถไฟฯ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาโครงข่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางรางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมขนส่งผู้โดยสารและสินค้า โดยได้มีการลงทุนโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ เส้นทางรถไฟสายใหม่ รวมถึงจัดหาหัวรถจักรรุ่นใหม่เข้ามา เพื่อขยายเครือข่ายการขนส่งให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค สอดรับกับยุทธศาสตร์การพัฒนาโลจิสติกส์ของประเทศ และสนับสนุนให้ไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอาเซียนในอนาคตอันใกล้