กระทรวงพลังงานจับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกใกล้ชิดหลังรัสเซียประกาศงดส่งออกน้ำมันเบนซิน-ดีเซล ที่อาจกระทบต่อราคาตลาดโลกเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงประเทศตะวันตกเข้าสู่ฤดูหนาวปลายปีนี้ ย้ำในส่วนของไทยกองทุนน้ำมันฯ ยังมีเงินกู้ 5.5 หมื่นล้านพร้อมดูแลตรึงดีเซล 29.94 บาท/ลิตร-LPG ถัง 15 กก.คงที่ 423 บาทถึงสิ้นปีตามมติ ครม.
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างการติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกใกล้ชิดหลังจากที่เมื่อวันที่ 21 ก.ย.รัสเซียประกาศระงับการส่งออกน้ำมันเบนซินและดีเซลเป็นการชั่วคราวต่อทุกประเทศบนโลก ยกเว้นอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต ได้แก่ เบลารุส คาซัคสถาน อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน โดยมีผลบังคับใช้ในทันทีเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดเชื้อเพลิงในรัสเซีย หลังหลายพื้นที่ในรัสเซียขาดแคลนน้ำมันเบนซินและดีเซลในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้แนวโน้มน้ำมันตลาดโลกยังคงผันผวนในระดับสูง
"คงต้องติดตามใกล้ชิดถึงปัจจัยต่างๆ โดยในแง่ของอุปทานเองเป็นสิ่งที่ตลาดกังวลโดยล่าสุดทางสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ก็ได้ออกมาเตือนว่าการปรับลดอุปทานน้ำมันของซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะทำให้ตลาดเกิดภาวะขาดแคลนน้ำมันในไตรมาส 4/2566 ซึ่งจะยิ่งกดดันให้ราคาหลังจากนี้สูงขึ้นได้ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นของยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีทำให้ความต้องการใช้น้ำมันจะสูงขึ้น" แหล่งข่าวกล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยด้านเศรษฐกิจจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปี อีกทั้งส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ และส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งในปี 2567 ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอุปสงค์ น้ำมันที่ลดลง
สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันสำเร็จรูปของไทย กระทรวงฯ ยังคงใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการดูแลรักษาเสถียรภาพราคาตามนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะในส่วนของดีเซลที่จะพยายามรักษาระดับราคาไว้ที่ 29.94 บาท/ลิตรจนถึงสิ้นปีตามมติ ครม.ที่มีการปรับลดภาษีสรรพสามิต 2.50 บาท/ลิตรดูแลร่วมกับการใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 22 ก.ย.ยังคงอุดหนุนดีเซลอยู่ลิตรละ 7.03 บาท
“ฐานะกองทุนน้ำมันฯ สุทธิ ณ 16 ก.ย. 66 อยู่ที่ 61,641 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 16,902 ล้านบาท บัญชี LPG ติดลบ 44,739 ล้านบาท ขณะนี้ทางสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) อยู่ระหว่างการเชิญชวนสถาบันการเงินยื่นเสนอสินเชื่ออีกราว 5.5 หมื่นล้านบาทจากเดิมได้กู้ไปแล้วราว 5.5 หมื่นล้านบาทภายใต้กรอบวงเงินกู้ที่บรรจุเป็นหนี้สาธารณะแล้ว 1.1 แสนล้านบาท ซึ่งคงจะเพียงพอต่อการบริหารจัดการในสิ้นปีนี้ รวมถึง LPG ที่จะคงราคา 423 บาท/ถัง 15 กิโลกรัมตามมติ ครม.เมื่อ 13 ก.ย. 66” แหล่งข่าวกล่าว