ก.พลังงานแจ้งข่าวดี พรุ่งนี้ดีเซลลด 2 บาท/ลิตรลดเหลือแตะ 29.94 บาท/ลิตรจากเดิม 31.94 บาท/ลิตร ตามมติ ครม.ที่ลดภาษีสรรพสามิตให้ 2.50 บาท/ลิตรและใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ บริหารเพื่อตรึงราคาดังกล่าวถึงสิ้นปี รับเตรียมใช้เงินกู้ส่วนที่เหลือราว 5 หมื่นล้านบาท
รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงานแจ้งว่า พรุ่งนี้ (20 ก.ย. 66 ) ราคาดีเซลขายปลีกจะปรับลดลง 2 บาท/ลิตร จากปัจจุบันไม่เกิน 32 บาท/ลิตรเป็นไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 13 ก.ย. เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้แก่ประชาชนตามที่กระทรวงพลังงานเสนอที่จะใช้กลไกภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงบริหารจัดการเพื่อตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรหรือราคาขายปลีกหน้าปั๊ม 29.94 บาท/ลิตร ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2566
ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 ที่ผ่านมาได้มีมติเห็นชอบการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 2.50 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน-31 ธันวาคม 2566 ซึ่งจะเป็นหนึ่งกลไกในการช่วยให้ราคาน้ำมันปรับลดลงเหลือไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรได้
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานกล่าวว่า ปัจจุบันภาษีสรรพสามิตดีเซลอยู่ที่ 5.99 บาท/ลิตร หากมีผลปรับลดตามมติ ครม.ที่ 2.50 บาท ก็จะเหลือจัดเก็บที่ 3.67 บาทต่อลิตร โดยจะทำให้มีเงินเหลือจากการหักลบดังกล่าวประมาณ 2.32 บาทจึงนำไปลดราคาขายปลีกดีเซลให้ประชาชนที่อัตรา 2 บาท/ลิตร และที่เหลือ 0.32 บาท/ลิตรนำไปบริหารจัดการที่เสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงเล็กน้อย
ปัจจุบัน (ณ วันที่ 19 ก.ย.) กองทุนน้ำมันฯ มีการอุดหนุนราคาดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 8.98 บาทซึ่งถือเป็นอัตราการอุดหนุนที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากราคาดีเซลตลาดโลกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงต่อเนื่อง และทำให้ฐานะกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 17 ก.ย. 66 ติดลบอยู่ที่ 61,641 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 16,902 ล้านบาท และบัญชีก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือ LPG ติดลบ 44,739 ล้านบาท
“ยอมรับว่าดีเซลตลาดโลกราคาสูงขึ้น โดยเราได้ประเมินไว้แล้วว่าหากราคาดีเซลโลกเฉลี่ย 126-130 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลก็คงจะมีวงเงินเพียงพอที่จะดูแลภายใต้กรอบวงเงินกู้ที่บรรจุหนี้สาธารณะสำหรับกองทุนน้ำมันฯ ไว้แล้ว 1.1 แสนล้านบาท ยังเหลืออีกราว 5 หมื่นล้านบาทที่จะดูแลดีเซล 30 บาท/ลิตร และตรึง LPG ตามมติ ครม.จนถึงสิ้นปี” แหล่งข่าวระบุ
