ไทย-อียูคิกออฟเปิดการเจรจา FTA รอบแรกอย่างเป็นทางการ ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม เดินหน้าเจรจาทั้งการประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทน และการประชุมกลุ่มย่อยระดับผู้เชี่ยวชาญ 19 คณะ วางกรอบประชุมปีละ 3 รอบ ตั้งเป้าสรุปผลภายในปี 68 ส่วนรอบที่ 2 ไทยเป็นเจ้าภาพเดือน ม.ค. 67
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมพิธีเปิดการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) รอบแรก เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า ได้นำคณะผู้แทนไทยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมเจรจาจัดทำ FTA ไทย-อียู รอบแรก ที่กำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 18-22 ก.ย. 2566 โดยได้ร่วมกับนายคริสตอฟ คีแนร์ ผู้อำนวยการสำนักภูมิภาคเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ของคณะกรรมาธิการยุโรปด้านการค้า (DG Trade) หัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายสหภาพยุโรป กล่าวเปิดแสดงความยินดีที่สองฝ่ายได้เริ่มการเจรจา FTA อย่างเป็นทางการ พร้อมด้วยนายเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ หัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป ร่วมกล่าวแสดงความยินดี
สำหรับการเจรจาในรอบนี้ ประกอบด้วยการประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทน ซึ่งกำกับดูแลการเจรจาในภาพรวม และการประชุมกลุ่มย่อยระดับผู้เชี่ยวชาญ 19 คณะ ได้แก่ 1. การค้าสินค้า 2. กฎถิ่นกำเนิดสินค้า 3. พิธีการศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า 4. มาตรการเยียวยาทางการค้า 5. มาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) 6. อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (TBT) 7. การค้าบริการและการลงทุน 8. การค้าดิจิทัล 9. ทรัพย์สินทางปัญญา 10. การแข่งขันและการอุดหนุน 11. การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 12. การค้าและการพัฒนาที่ยั่งยืน 13. วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) 14. รัฐวิสาหกิจ 15. พลังงานและวัตถุดิบ 16. ระบบอาหารที่ยั่งยืน 17. ความโปร่งใสและหลักปฏิบัติที่ดีด้านกฎระเบียบ 18. การระงับข้อพิพาท และ 19. บทบัญญัติเบื้องต้น บทบัญญัติทั่วไป บทบัญญัติสุดท้าย บทบัญญัติเกี่ยวกับสถาบัน และข้อยกเว้น
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายวางแผนจะจัดการประชุมปีละ 3 ครั้ง และตั้งเป้าสรุปผลเจรจาภายในปี 2568 โดยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรอบที่ 2 ในเดือน ม.ค. 2567
ในช่วง 7 เดือนของปี 2566 (ม.ค.-ก.ค.) การค้าระหว่างไทยกับอียูมีมูลค่า 24,791.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปอียูมูลค่า 12,950.58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากอียู มูลค่า 11,840.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ เช่น เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ