xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เตรียมรับมือมาตรการ CBAM ของอียู

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศผนึกกำลังพันธมิตรจัดสัมมนาสร้างความรู้ความเข้าใจและรับฟังความเห็น เตรียมรับมือมาตรการ CBAM ของสหภาพยุโรป (อียู) นำทีมผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ทั้งการเตรียมรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ข้อกังวลของภาคธุรกิจไทย ด้านอียูเตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูลและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการไทยช่วงปลาย ก.ย.นี้

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาสร้างความรู้และรับฟังความเห็นภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เรื่องมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ของสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ว่า กรมได้ร่วมกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (อบก.) สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) จัดสัมมนาเตรียมความพร้อมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง รับมือการออกประกาศใช้มาตรการ CBAM กับสินค้านำเข้า 6 กลุ่ม ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้า และไฮโดรเจน ซึ่งกำหนดให้ผู้นำเข้าสินค้าดังกล่าว ในช่วงวันที่ 1 ต.ค. 2566-31 ธ.ค. 2568 จะต้องแจ้งข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 ผู้นำเข้าจะต้องซื้อ “ใบรับรอง CBAM” ตามปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

โดยการสัมมนาครั้งนี้กรมได้นำผู้เชี่ยวชาญทั้งจากภาครัฐและเอกชนแลกเปลี่ยนมุมมองต่อการเตรียมรับมือมาตรการ CBAM ของอียู ทั้งการเตรียมรายงานข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การตรวจสอบรับรองการรายงานของภาคเอกชน โดยหน่วยงานสอบทาน (verification and accreditation) และข้อห่วงกังวลของภาคธุรกิจไทย เช่น การรายงานข้อมูลที่อาจเป็นความลับด้านเทคโนโลยี ความพร้อมและสถานการณ์ที่แตกต่างกันของแต่ละประเทศ โดยควรให้ความยืดหยุ่นกับประเทศกำลังพัฒนา และเพิ่มระยะเวลาในการรายงานและปรับแก้ข้อมูลมากขึ้น เนื่องจากการรายงานข้อมูลมีความซับซ้อนและมีหลักเกณฑ์การลงโทษสำหรับการรายงานข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งประเด็นที่ภาคธุรกิจไทยต้องการได้รับการสนับสนุนจากอียู เช่น การสนับสนุนทางเทคนิคเกี่ยวกับรายงานข้อมูลในช่วงระยะเวลาเปลี่ยนผ่าน 3 ปีแรก การให้สามารถใช้ผู้ทวนสอบในไทย (local accredited verifiers) เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และทางเลือกการลดหย่อนภาระในการซื้อใบรับรอง CBAM หากได้มีการดำเนินการลดก๊าซฯ ในประเทศแล้ว เป็นต้น

ทั้งนี้ กรม อบก. และ สอท. จะรวบรวมความเห็นและข้อเสนอแนะจากการสัมมนาครั้งนี้ไปจัดทำแผนการทำงานต่อไป โดยเฉพาะการหารือกับอียู ซึ่งได้เตรียมส่งผู้เชี่ยวชาญมาให้ข้อมูลเรื่องนี้ และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการไทยในช่วงปลายเดือน ก.ย. 2566 เพื่อหาทางบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับภาคเอกชนไทยให้ได้มากที่สุด

สำหรับผู้สนใจสามารถรับชมงานสัมมนาย้อนหลัง และร่วมแสดงความเห็นได้ที่ Facebook กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น