xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” อัด 44 กิจกรรมโค้งสุดท้าย ลุ้นดันส่งออกปีนี้เข้าเป้า 1-2%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศถกเอกชนประเมินส่งออกปี 66 มองมีทั้งบวก ทรงตัว และติดลบ เตรียมอัด 44 กิจกรรมช่วงโค้งสุดท้าย ทั้งจัดคณะผู้แทนการค้า กิจกรรมส่งเสริมการส่งออก เข้าร่วมงานแสดงสินค้า หวังดันปีนี้เข้าเป้าทำงานที่ตั้งไว้ 1-2% พร้อมทำแผนเสนอรัฐมนตรีใหม่ แต่ไม่ทิ้งโจทย์ภาคเอกชนที่ต้องการให้ช่วยดูแลวัตถุดิบ หาตลาดใหม่ เร่งทำความร่วมมือกับเมืองรองของคู่ค้าเพิ่ม

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า กรมได้มีการหารือกับภาคเอกชนในกลุ่มสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป และอุตสาหกรรม เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออก และแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการมองว่าการส่งออกปีนี้มีโอกาสขยายตัวเป็นบวกได้ บางสินค้าไม่ขยายตัว และบางสินค้าจะขยายตัวติดลบ แต่กรมก็ยังจะเดินหน้าขับเคลื่อนการส่งออกต่อไป โดยมีกิจกรรมสำคัญๆ ที่จะดำเนินการในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้อีกประมาณ 44 โครงการ เพื่อผลักดันให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ 1-2% ตามเป้าทำงานที่ได้ตั้งไว้

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ผลไม้ ประมง เอกชนมองว่าภาพรวมปีนี้น่าจะบวกได้ประมาณ 2% ยกเว้นมันสำปะหลัง ที่มีปัญหาผลผลิตขาดแคลนจากโรคใบด่าง และภัยแล้ง สินค้าอุตสาหกรรม เช่น อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์และชิ้นส่วน ที่มีสัดส่วนประมาณ 30% ของการส่งออกรวม จะบวกได้ 3-5% เครื่องจักรและส่วนประกอบ เป็นบวก เครื่องประดับ น่าจะบวกแรง 10% สินค้าไลฟ์สไตล์ บวก 2-3% แต่สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน เช่น เม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์ คาดว่าส่งออกจะติดลบ

ส่วนกิจกรรมที่กรมจะดำเนินการในช่วงที่เหลือของปีนี้มีอีกประมาณ 44 โครงการ จะเน้นการบุกเจาะตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา เอเชียใต้ อาเซียน และจีน มีทั้งจัดคณะผู้แทนการค้า จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย การจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ การเข้าร่วมงานแสดงสินค้า โดยมีงานสำคัญที่จะเข้าร่วม เช่น CAEXPO 2023 ที่หนานหนิง CIIE 2023 ที่เซี่ยงไฮ้ และ Anuga ที่เยอรมนี ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสส่งออกสินค้าไทยได้เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร


นางอารดา เฟื่องทอง รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า การส่งออกในปีนี้ หลายภาคส่วนประเมินไว้ล่าสุดว่าจะติดลบ โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถานบัน (กกร.) ประเมินว่า จะติดลบ 2% ถึง 0% สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ลบ 1.3% ถึงลบ 0.3% สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ติดลบ 1.8% แต่ที่กรมหารือกับภาคเอกชน ประมาณ 78% มองว่าการส่งออกจะเป็นบวก หรือไม่ขยายตัว และอีกกว่า 20% จะติดลบ แต่ก็เป็นตัวที่มีมูลค่าส่งออกมาก ก็ต้องมาลุ้นว่ายอดทั้งปีจะเป็นอย่างไร แต่จะทำให้ดีที่สุด

ส่วนการเตรียมแผนเสนอรัฐมนตรีใหม่ กรมได้เตรียมการไว้แล้ว โดยจะดูว่านโยบายเป็นอย่างไร มีอะไรที่กรมดำเนินการแล้ว และมีอะไรที่จะทำเพิ่มเติม อย่างนโยบายของพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นแกนนำรัฐบาล ที่เน้นตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ กรมได้มีแผนดำเนินการในเรื่องเหล่านี้หมดแล้ว ก็ต้องมาดูว่าจะทำอะไรได้อีก แต่ในส่วนของโจทย์ของภาคเอกชนก็ยังจะทำต่อ ได้แก่ การดูแลเรื่องต้นทุนวัตถุดิบ การสนับสนุนการส่งออกไปตลาดใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นตลาดใหม่ในเก่า หรือตลาดใหม่ในใหม่ ที่จะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าเพิ่ม เจาะเมืองรองเพิ่ม และผลักดันการทำ FTA กับคู่ค้าต่างๆ เพิ่มเติม โดยพร้อมที่จะให้ข้อมูลสนับสนุนกับกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และในส่วนของกรม ก็จะเดินหน้าทำความร่วมมือกับเมืองรองของประเทศต่างๆ ต่อไป โดยปัจจุบันทำแล้ว 8 เมือง เหลืออีก 5 ซึ่งอยู่ในอินเดียทั้งหมด รวมถึงประเทศใหม่ๆ อาทิ แอฟริกา 






กำลังโหลดความคิดเห็น