กรมพัฒนาธุรกิจการค้าประกาศความสำเร็จทีมพี่เลี้ยงโชวห่วย 21 ราย ผนึก 27 หน่วยงานพันธมิตรลงพื้นที่ช่วยดันโชวห่วยเป็นสมาร์ทโชวห่วย ลุยอบรมให้ความรู้การทำธุรกิจ บัญชี ภาษี การใช้เทคโนโลยี ปรับภาพลักษณ์ร้านค้าให้น่ามอง ดึงดูดลูกค้า และผลักดันนำระบบ POS มาใช้ เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการร้านค้า ตั้งเป้าปีนี้ 300 ราย
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในการประกาศความสำเร็จจากความร่วมมือภายหลังลงนาม MOU ขับเคลื่อนโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” ณ ศูนย์ประชุม 1 ศตวรรษ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า ปี 2566 ถือเป็นปีแรกที่กรมได้ดำเนินการพัฒนาสมาร์ทโชวห่วยภายใต้แนวคิด “พี่เลี้ยงโชวห่วย” โดยได้เข้าไปช่วยพัฒนาร้านโชวห่วยที่มีขีดความสามารถเป็นร้านที่มีมาตรฐาน และมีความเข้มแข็งให้เข้ามาเป็นพี่เลี้ยงโชวห่วย ซึ่งปีนี้ได้พี่เลี้ยงโชวห่วยมา 21 ราย ครอบคลุม 4 ภูมิภาค ได้แก่ เหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ กลาง และใต้ จากนั้นร้านที่ได้รับการส่งเสริมให้เป็นพี่เลี้ยงโชวห่วยจะเข้าไปช่วยเหลือร้านโชวห่วยในแต่ละภูมิภาคให้พัฒนาเป็นสมาร์ทโชวห่วย โดยปีนี้ได้ตั้งเป้าพัฒนารวม 300 ร้านค้า
ทั้งนี้ ในการพัฒนาร้านโชวห่วยให้เป็นสมาร์ทโชวห่วย กรมและหน่วยงานพันธมิตร รวมถึงพี่เลี้ยงโชวห่วยจะเข้าไปช่วยเสริมสร้างองค์ความรู้ให้ร้านโชวห่วย เช่น การจัดสัมมนาออนไซต์ทั่วประเทศ รวม 10 ครั้ง เพื่อให้ความรู้โดยเฉพาะในด้านบัญชี ภาษี ซึ่งเป็นข้อห่วงกังวลของโชวห่วย และประเด็นอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในยุคนี้ ทั้งการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและช่องทางออนไลน์ เพื่อการบริหารจัดการร้านค้าและสร้างโอกาสทางการตลาด และการเชื่อมโยงเครือข่ายผู้ประกอบการผ่านกิจกรรมการตลาดทั้งบูทสินค้าราคาพิเศษจากร้านค้าพี่เลี้ยงโชวห่วย และบูทนำเสนอสิทธิประโยชน์ต่างๆ จากพันธมิตรโครงการ "สมาร์ทโชห่วย พลัส" โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 1,900 ราย สร้างมูลค่าการซื้อขายได้กว่า 15 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ได้เข้าไปช่วยปรับภาพลักษณ์ร้านโชวห่วย โดยมีทีมงานพี่เลี้ยงลงพื้นที่ ณ สถานประกอบการ เพื่อให้ความรู้และดำเนินการจัดร้านค้าและจัดเรียงสินค้าตามหลัก 5 ส (สวย สะอาด สว่าง สะดวก สบาย) ช่วยปรับร้านค้าให้น่ามอง มีการจัดวางสินค้าเป็นหมวดหมู่ ดูสวยงาม มีระเบียบ สะดวกในการซื้อขาย ซึ่งจะช่วยดึงดูดลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าได้มากขึ้น และยังผลักดันให้โชวห่วยเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการร้านค้า โดยส่งเสริมการใช้ระบบ POS จัดผู้เชี่ยวชาญด้านระบบ POS พร้อมทีมงานพี่เลี้ยงโชวห่วยลงพื้นที่ เพื่อให้คำแนะนำวิธีการใช้งานขั้นพื้นฐานของระบบ POS ช่วยให้ขายสินค้าได้ถูกต้องรวดเร็ว บริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้เหมาะสม หากผู้ประกอบการสามารถใช้ระบบ POS อย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว โดยคาดว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส ปี 2566 จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 100 ล้านบาท
“การพัฒนาร้านโชวห่วยด้วยพันธมิตรและร้านพี่เลี้ยงโชวห่วย จะเป็นการสร้างเครือข่ายธุรกิจให้มีความยั่งยืนและเหนียวแน่น ไม่เดินไปบนเส้นทางธุรกิจเพียงลำพัง เพราะธุรกิจเดินคนเดียวไม่ได้ ซึ่งกรมฯ จะร่วมมือกับพันธมิตรทั้ง 27 หน่วยงานในการเดินหน้าพัฒนาโชวห่วยต่อไป และพร้อมที่จะเปิดรับพันธมิตรใหม่ๆ ให้เข้ามาช่วยกันพัฒนาโช)ห่วย เพื่อผลักดันให้โชวห่วยของไทยมีความเข้มแข็ง เป็นฐานรากของระบบการค้าส่งค้าปลีก และช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานรากในระดับชุมชนให้เติบโตต่อไป” นายทศพลกล่าว
ก่อนหน้านี้ ได้มีการลงนาม MOU ขับเคลื่อนโครงการ “สมาร์ทโชห่วย พลัส” ระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากับพันธมิตร 27 หน่วยงาน 6 กลุ่ม ประกอบด้วยสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย , ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย (Supplier) , ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยี ระบบ POS แพลตฟอร์ม , ผู้ให้บริการเสริม เช่น ตู้เติมเงิน ตู้ให้บริการแบบหยอดเหรียญ , สถาบันการเงิน และผู้ผลิตสินค้าชุมชนในเครือข่ายธุรกิจ MOC Biz Club เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการมอบสิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ ให้แก่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการสมาร์ทโชห่วย พลัส
