xs
xsm
sm
md
lg

กนอ.มีแผนรับมือกับปัญหาภัยแล้งพื้นที่นิคมฯ เรียบร้อยแล้ว เผยมีการศึกษาตั้งโรงกลั่นน้ำทะเลเป็นน้ำจืดแก้ปัญหาภัยแล้งในอนาคต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เผยมีแผนรับมือกับปัญหาภัยแล้งเรียบร้อยแล้ว ทั้งการจัดหาแหล่งน้ำดิบ การจัดสรรอ่างเก็บน้ำให้มีประสิทธิภาพ รวมถึงแผนการจัดตั้งโรงกลั่นน้ำทะเลเป็นน้ำจืด ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมได้ในอนาคต

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยถึงกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเตือนปรากฏการณ์เอลนีโญจะเข้าสู่อาเซียนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ และทำให้หลายฝ่ายวิตกกังวลว่าจะกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมการผลิต และภาคเศรษฐกิจของไทยไม่แพ้ปัจจัยอื่นๆ ว่า ในส่วนของ กนอ.ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแลการประกอบกิจการโรงงานในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี ได้มีการเตรียมมาตรการทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว และแผนรับมือกับวิกฤตภัยแล้งอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นหลักประกันให้นักลงทุนมั่นใจ และเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีจะไม่ประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อใช้ในการประกอบกิจการอย่างแน่นอน โดยที่ผ่านมา กนอ.ได้หารือกับทุกภาคส่วนวางแผนบริหารจัดการน้ำทั้งในระยะสั้น และระยะยาว โดยในระยะยาวที่ภาครัฐมีแผนการพัฒนาแหล่งน้ำและการจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่อีอีซีปี 2563-2580 จะประกอบด้วย 38 โครงการ ซึ่งเพียงพอต่อการขยายตัวต่อภาคเกษตรกรรม ชุมชน และอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี ซึ่งนั่นคือแผนการรองรับขั้นแรก
 
กนอ.มีการจัดหาแหล่งน้ำสำรองเพื่อมาใช้ในนิคมอุตสาหกรรมให้เพียงพอ โดยได้หารือร่วมกับภาคเอกชนในการวางแผนรับมือภัยแล้งพื้นที่อีอีซีในอีก 20 ปีข้างหน้า และการลงทุนวางท่อส่งน้ำสายหลัก เพื่อสร้างเครือข่ายท่อส่งน้ำให้มากกว่าเดิม มีความยาวท่อส่งน้ำสายหลัก 526 กิโลเมตร พร้อมด้วยแหล่งน้ำหลักที่ได้รับการจัดสรรจากกรมชลประทาน ได้แก่ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ อ่างเก็บน้ำดอกกลาย อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำบางพระ รวมถึงแหล่งน้ำที่สูบใช้ได้ในแต่ละปี โดยมีปริมาณน้ำต้นทุนเป็นปริมาณน้ำท่าตามฤดูกาล ได้แก่ แม่น้ำบางปะกง แม่น้ำระยอง คลองทับมา และแหล่งน้ำเอกชน รวมทั้งยังมีแหล่งน้ำสำรองเพื่อใช้ในกรณีน้ำในแหล่งน้ำมีน้อยและเกิดการขาดแคลนน้ำ ได้แก่ สระสำรองน้ำดิบสำนักบก สระสำรองน้ำดิบฉะเชิงเทรา และสระสำรองน้ำดิบทับมาเข้ามาเสริมในช่วงขาดแคลน
 
ขณะเดียวกัน กนอ.ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายน้ำดิบระหว่าง กนอ.กับบริษัท วาย. เอส.เอส.พี.แอกกริเกต จำกัด เพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการน้ำในภาคอุตสาหกรรม โดยบริษัทฯ ดำเนินการจัดหา และจ่ายน้ำดิบให้ กนอ.เพื่อใช้ในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อใช้ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังในปริมาณไม่น้อยกว่า 15,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดในปริมาณไม่น้อยกว่า 200,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวันในราคาที่เหมาะสม ขณะเดียวกัน นิคมอุตสาหกรรมทุกแห่งก็มีแหล่งน้ำสำรองเป็นของตนเอง สามารถจ่ายน้ำให้โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมได้ตั้งแต่ 2-15 เดือน
 
กนอ.ได้ศึกษาเรื่องของการตั้งโรงกลั่นน้ำทะเลเป็นน้ำจืด มีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อวัน และสามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ตามต้องการ ซึ่งน้ำกลั่นจากน้ำทะเลนี้จะถือเป็นตัวเลือกสุดท้ายเพื่อป้องกันการขาดแคลนน้ำในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น