ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เมื่อวันที่ 7 ก.ค.พลอากาศเอก สถิตย์พงษ์ สุขวิมล ราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคณะ เดินทางไปตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ณ วัดสมานรัตนาราม บ้านแหลมพระยาจาก หมู่ที่ 11 ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา มี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผวจ.ฉะเชิงเทรา คณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับ
นายจตุพร กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้งของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวน 47 โครงการ (48 แห่ง) ครอบคลุม 25 จังหวัด โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 จำนวน 15 โครงการ (16 แห่ง) ระยะที่ 2 จำนวน 18 โครงการ และระยะที่ 3 จำนวน 14 โครงการ ปัจจุบันได้ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 29 โครงการ คงเหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 18 โครงการ
ด้านนายธัญญา กล่าวว่า พื้นที่บ้านแหลมพระยาจาก หมู่ที่ 11 ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เป็น 1 ใน 15 โครงการ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (ระยะที่ 1) เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2564 เพื่อบรรเทาปัญหาความขาดแคลนน้ำของประชาชนในตำบลบางแก้ว ให้มีน้ำกินน้ำใช้อย่างยั่งยืน ซึ่งก่อนดำเนินโครงการ สภาพพื้นที่ตำบลบางแก้วประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาคุณภาพน้ำผิวดินกร่อยเค็ม มีน้ำไม่พอใช้ในช่วงฤดูแล้ง ท้องถิ่นจึงได้เข้ามาแก้ไขปัญหาโดยการจัดซื้อน้ำจากพื้นที่อื่นมาให้บริการแจกจ่ายให้แก่ประชาชน และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำประมาณหนึ่งล้านบาทต่อปี
เมื่อกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เข้ามาสำรวจสภาพปัญหา ความเหมาะสมของพื้นที่ในการพัฒนาน้ำบาดาลขึ้นมาใช้จึงได้เจาะพัฒนาน้ำบาดาล จำนวน 6 บ่อ พร้อมทั้งออกแบบก่อสร้างระบบประปาบาดาลขนาดใหญ่และเดินท่อส่งน้ำหลักขนาด 8 นิ้ว และ 4 นิ้ว ความยาวรวม 4,850 เมตร เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภคในพื้นที่ตำบลบางแก้ว
อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า สำหรับรูปแบบของโครงการฯ ประกอบด้วย บ่อน้ำบาดาลขนาด 6 นิ้ว 6 บ่อ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าชนิดมอเตอร์จุ่มใต้น้ำ ถังเหล็กเก็บน้ำขนาดความจุ 750 ลูกบาศก์เมตร 2 ถัง หอถังเหล็กเก็บน้ำชนิดรักษาแรงดัน ขนาดความจุ 300 ลูกบาศก์เมตร 1 ถัง ถังกรองสนิมเหล็กขนาดใหญ่ จำนวน 2 ชุด จุดจ่ายน้ำถาวร และจุดบริการน้ำดื่มสะอาด ปัจจุบันโครงการดังกล่าว เปิดให้บริการน้ำอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ แล้ว จำนวนไม่น้อยกว่า 6.8 ล้านลิตร ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่มีแหล่งน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคอย่างทั่วถึงและเพียงพอทั้งนี้ กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจะได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการใช้งานและบำรุงรักษาระบบประปาบาดาล พร้อมติดตามตรวจวัดระดับและคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมส่งมอบการบริหารจัดการให้แก่กลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ต่อไป