สมุทรสงคราม - “ขี้แดดนาเกลือ” จากเดิมนั้นเป็นปัญหาของชาวนาเกลือที่ต้องเสียเวลาขูดทิ้งทุกครั้งก่อนจะเริ่มทำนาเกลือครั้งใหม่ ปัจจุบัน ขี้แดดนาเกลือกลับมีประโยชน์กับไม้ผลเป็นอย่างมาก หลังงานวิจัยชี้แดดนาเกลือ คือสาหร่ายตะไคร่น้ำ และจุลินทรีย์ต่างๆ ที่เจริญเติบโตบนผิวหน้าดินซึ่งมีประโยชน์ต่อต้นไม้อย่างมาก
การทำนาเกลือ ถือเป็นอาชีพหลักอีกอาชีพหนึ่งของชาวจังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายทะเลปากอ่าวแม่กลอง จึงเอื้อต่อการทำนาเกลือ ปัจจุบันจังหวัดสมุทรสงคราม มีพื้นที่ทำนาเกลือประมาณ 5,650 ไร่ ใน 2 ตำบลคือ ตำบลบางแก้ว และตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมืองสมุทรสงคราม มีผู้ประกอบอาชีพทำนาเกลือ 160 ราย
การทำนาเกลือนั้นนอกจากจะได้เกลือไปสู่ผู้บริโภคแล้ว ยังมีผลผลิตอื่นๆ ที่ได้จากกระบวนการทำนาเกลือแล้วนำไปแปรรูปใช้ในภาคการเกษตรได้อีกด้วย เช่น “ขี้แดดนาเกลือ” ซึ่งเดิมนั้นเป็นปัญหาของชาวนาเกลือเป็นอย่างมากเพราะต้องเสียเวลาขูดทิ้งทุกครั้งก่อนจะเริ่มทำนาเกลือครั้งใหม่ เพราะหากไม่ขูดทิ้งขี้แดดจะบังแสงแดด อีกทั้งจะทำให้เกลือสกปรก คุณภาพต่ำ ขายไม่ได้ราคา ดังนั้น ทุกปีชาวนาเกลือจึงต้องเสียเวลาในการกำจัดขี้แดดนาเกลือเหล่านี้ และทิ้งไปอย่างไร้ค่าไร้ประโยชน์
นายบุญปลอด เจริญฤทธิ์ อายุ 57 ปี เกษตรกรผู้มีอาชีพทำนาเกลือมาตั้งแต่ยังเด็ก และเป็นผู้จัดตั้งโรงเรียนตนทำนาเกลือในตำบลบางแก้ว อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ค้นพบว่าขี้แดดนาเกลือมีประโยชน์กับไม้ผลเป็นอย่างมาก จนต่อมาหน่วยงานราชการได้นำไปทำวิจัยบอกว่า ขี้แดดนาเกลือคือสาหร่ายตะไคร่น้ำ และจุลินทรีย์ต่างๆ ที่เจริญเติบโตบนผิวหน้าดิน และเกิดในช่วงหน้าฝนหรือช่วงพักท้องนาเกลือซึ่งจะมีน้ำจืดจากน้ำฝนไหลเข้าไปขังอยู่ มีธาตุอาหารที่มีประโยชน์ต่อพืชมากมายหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม เป็นต้น ชาวนาเกลือเรียกว่า “ดินหนังหมา” เพราะเมื่อนำไปแช่น้ำจะมีกลิ่นเหม็นคล้ายซากสุนัขตายเนื่องจากเกิดการเน่าของน้ำนั่นเอง
ประโยชน์ของขี้แดดนาเกลือ นายบุญปลอด บอกว่า ใช้ใส่ไม้ผลและพืชผักได้ดีเกือบทุกชนิด และจะดียิ่งขึ้นถ้าเป็นขี้แดดนาเกลือที่เก็บเก่านานกว่า 6 เดือนขึ้นไป เพราะจะช่วยเพิ่มความหวานของผลไม้ต่างๆ เช่น ส้มโอ ลิ้นจี่ มะพร้าวน้ำหอม แก้วมังกร แตงโม ขนุน โดยใส่ขี้แดดนาเกลือเดือนละ 2 ครั้ง รอบๆ ทรงพุ่มก่อนเก็บผลผลิต 2-3 เดือน ต้นละประมาณ 2-3 กิโลกรัม
นายบุญปลอด ยังบอกด้วยว่า ก่อนที่ตนจะค้นพบว่าขี้แดดนาเกลือมีประโยชน์มากมาย เนื่องจากตนซื้อแตงโมมากิน แล้วโยนเมล็ดแตงโมทิ้งบนกองขี้แดดนาเกลือโดยไม่ได้ใส่ใจ ไม่นานเห็นต้นแตงโมเติบโตและให้ลูกดก จึงนำมากิน ปรากฏว่ารสชาติหวานอร่อยกว่าที่ซื้อมากินแล้วโยนเมล็ดทิ้งไว้เสียอีก จึงคิดว่าขี้แดดนาเกลือน่าจะมีส่วนทำให้แตงโมรสชาติดีขึ้น จึงได้นำขี้แดดนาเกลือไปแจกเกษตรกรชาวสวนในจังหวัดสมุทรสงครามหลายรายให้ทดลองใส่ต้นส้มโอ ต้นลิ้นจี่ และต้นมะพร้าวน้ำหอม ปรากฏว่านอกจากจะให้ผลผลิตที่ดีแล้ว รสชาติของผลไม้เหล่านี้ยังหวานอร่อยอีกด้วย
โดย นายสมทรง แสงตะวัน อายุ 74 ปี เกษตรกรชาวสวนส้มโอ ตำบลบางพรม อำเภอบางคนที ซึ่งเป็น 1 ในหลายรายที่นายบุญปลอด นำขี้แดดนาเกลือมาให้ทดลอง บอกว่า ตนปลูกส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ไว้ประมาณ 300 ต้น มะพร้าวน้ำหอม 400 ต้น และลิ้นจี่อีกจำนวนหนึ่ง ได้นำขี้แดดนาเกลือมาใส่ต้นส้มโอ มะพร้าว และลิ้นจี่ร่วมกับปุ๋ยหมักและปุ๋ยคอก โดยไม่ใช้สารเคมีเลย พบว่าคุณประโยชน์ของขี้แดดนาเกลือมีธาตุโพแทสเซียมสูง ช่วยให้ส้มโอ มะพร้าว และลิ้นจี่มให้ผลดกและรสชาติดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะส้มโอไม่เป็นเม็ดข้าวสาร ตนเองใส่ขี้แดดนาเกลือต้นละ 3 กิโลกรัมในช่วงก่อนเก็บผลผลิต 60 วัน จากนั้นจึงรดน้ำอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพียงเท่านี้จะได้ส้มโอขาวใหญ่และไม้ผลอื่นๆ ที่มีรสชาติหวานอร่อย และอาจเป็นเพราะว่าการที่ตนใส่ขี้แดดนาเกลือ จึงทำให้ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดส้มโอทุกสายพันธุ์ ที่ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรมาแล้ว
นายสมทรง กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเกษตรกรชาวสวนมักจะหันไปใช้สารเคมีเพื่อบำรุงต้นและเร่งผลผลิตให้เร็วขึ้น ซึ่งตนเห็นว่านอกจากจะทำให้สภาพดินเสื่อมโทรมแล้วยังเป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากเป็นไปได้ขอให้เกษตรกรชาวสวนหันมาทำให้ดินมีชีวิตด้วยการใช้ปุ๋ยชีวภาพ และขี้แดดนาเกลือแทน นอกจากจะทำให้ผลผลิตและรสชาติดีขึ้นแล้วยังช่วยลดต้นทุนเพราะปัจจุบันขี้แดดนาเกลือกิโลกรัมละเพียงแค่ 3 บาทเท่านั้น