xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่ สมุทรสงคราม อุทธรณ์คำสั่งจังหวัด หลังสั่งให้รื้อถอนแปลงเลี้ยงหอยทะเลภายใน 150 วัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สมุทรสงคราม - เกษตรกรเลี้ยงหอยแมลงภู่ใน ต.บางแก้ว จ.สมุทรสงคราม ยื่นหนังสือถึงจังหวัด อุทธรณ์คำสั่งกรณีให้รื้อถอนแปลงเลี้ยงหอยทะเลภายใน 150 วัน เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาต วอนเห็นใจชาวบ้าน เนื่องจากใช้เป็นที่ทำกินเลี้ยงครอบครัว หากสั่งห้ามเท่ากับหมดอาชีพ

วันนี้ (26 มิ.ย.) ที่หน้าศาลากลาง จ.สมุทรสงคราม ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งเลี้ยงหอยแมลงภู่ในทะเล ประมาณ 50 คน นำโดยนายรัศมี กำนัน ต.บางแก้ว อ.เมืองสมุทรสงคราม นายประสาท เอี่ยมละออ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางแก้ว ได้พากันเดินทางมาที่หน้าศาลากลางจังหวัด จ.สมุทรสงคราม เพื่อยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งจังหวัดที่ สส.0007/ว 7862 ลงวันที่ 12 มิ.ย.2566 ลงนามโดยผู้ว่าฯ สมุทรสงคราม ที่ให้รื้อถอนแปลงเลี้ยงหอยทะเลภายใน 150 วัน ซึ่งชาวบ้านอ้างว่าใช้เป็นที่ทำกินเลี้ยงครอบครัว ต่อนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม แต่นายสมนึก ติดราชการ นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมง จ.สมุทรสงคราม จึงลงมารับหนังสือแทน นอกจากนี้ ชาวบ้านยังได้ยื่นหนังสือดังกล่าวต่อนายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคก้าวไกล และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.สมุทรสงครามด้วย

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวชาวบ้านบอกว่าทำให้ผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่ใน ต.บางแก้ว ได้รับความเดือดร้อนมากในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ หากไม่สามารถเลี้ยงหอยในทะเลได้ไม่มีรายได้จุนเจือครอบครัว จะเป็นการตอกย้ำความเดือดร้อนมากขึ้น ประกอบกับผู้เลี้ยงหอยในทะเลไม่มีความรู้ในการที่จะขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งไม่ได้รับความใส่ใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแนะนำ ดูแล ช่วยเหลือให้ความรู้สร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ และขอให้ระงับหรือชะลอคำสั่งการรื้อถอนแปลงเลี้ยงหอยดังกล่าวนี้ออกไปก่อน ส่วนกรณีที่จะให้มีการขยายแปลงเลี้ยงหอยออกไปในทะเลจากชายฝั่ง 1,000 เมตร เป็น 3,000 เมตร เพื่อไม่ให้กีดขวางทางเดินเรือนั้นตนไม่เห็นด้วยเพราะนอกจากจะไปกีดขวางการทำประมงอื่นๆ แล้ว ยังเสี่ยงอันตรายเนื่องจากคลื่นลมแรงอีกด้วย

นายสมเพชร รัศมี กำนัน ต.บางแก้ว กล่าวว่า นำลูกบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนมาขอความเมตตาจากกรมประมง และจังหวัด เพราะการเลี้ยงหอยแมลงภู่เป็นอาชีพที่เลี้ยงปากท้องชาวตำบลบางแก้ว ยิ่งตอนนี้รายได้จากการออกทะเลหาปลาไม่แน่นอน ชาวบ้านจะมีรายได้จากการเลี้ยงหอยที่มาช่วยให้อยู่รอด ชาวบ้านเขาต้องการจะทำให้ถูกกฎหมาย ขอให้รัฐจัดสรรปันส่วนพื้นที่ให้ผู้เลี้ยงหอยแมลงภู่เพราะตอนนี้เขาลำบากจริงๆ แล้วการที่จะให้เขาไปทําประมงห่างจากชายฝั่งไปอีก 3 กิโลหรือ 3,000 เมตร น้ำลึกมาก คลื่นลมแรง อีกทั้งจะไปเกะกะทางเดินเรืออื่นๆ 

นายประศาสน์ เอี่ยมละออ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.บางแก้ว กล่าวว่า วันนี้ชาวบางแก้วมายื่นหนังสืออุทธรณ์กรณีมีคําสั่งจังหวัดให้รื้อแปลงหอยที่ ต.บางแก้ว ซึ่งมีชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนประมาณ 80 ครัวเรือน รวมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ชาวบ้านเขาเริ่มทำกันมาตั้งแต่ปี 2562 แต่เกิดจากเหตุที่มีผู้ไปร้องเรียนว่าการทำแปลงหอยแมลงภู่ของชาวบ้านกีดขวางทางเดินเรือ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยมีการจัดการประชาคมไปแล้วเพื่อหาข้อยุติและแก้ปัญหาถึง 4 ครั้ง แต่ทางผู้ร้องเรียนไม่มาแสดงตัวในเวทีประชาคม จึงไม่อาจมีผลสรุปยุติปัญหาได้ แต่ถ้ากล่าวถึงสภาพตามความเป็นจริงคือพื้นที่ที่ชาวบ้านทำแปลงหอยแมลงภู่อยู่ปากคลองของหมู่บ้าน ผู้ที่มาร้องจังหวัดน่าจะไม่ใช่คนอื่นไกล แต่ผู้ร้องไม่มาแสดงตัวเรื่องการจะผลักดันให้ถูกกฎหมายมันก็ติดขัด

นางพรพรรณ นวมศิริ อายุ 63 ปี ชาวประมงพื้นบ้านหมู่ 5 ต.บางแก้ว กล่าวว่า ตนเลี้ยงหอยแมลงภู่ 4 ไร่ ตั้งแต่ปี 2540 แต่ล่าสุดทางราชการเขาบอกว่าเราทําผิดกฎหมายเราก็อยากทำให้ถูกต้อง แต่ถ้าจะรื้อภายใน 150 วัน มันกระชั้นชิดเกิดไปเพราะลงทุนไปเยอะแล้วมันจะเสียหายมาก ถ้าจะให้เลิกไม่มีทุนจะไปทำอาชีพอะไรต่อ ส่วนที่ทางจังหวัดประกาศการขยายเขตการทำประมงชายฝั่งจาก 1,000 เมตร เป็น 3,000 เมตรนั้นชาวประมงพื้นบ้านลำบากเพราะใช้เรือเล็ก ถ้าจะออกไปไกลก็เสี่ยงน้ำลึกอันตราย และใช้ทุนสูง จึงวอนผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ที่เกี่ยวข้องอนุโลมขยายเวลาผ่อนผันให้ทำกินไปก่อน หรือจะให้รื้อบางส่วนเพื่อให้ทางเดินเรือสะดวกก็ได้ หากสั่งห้ามเท่ากับเราหมดอาชีพ

นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคก้าวไกล กล่าวว่า มารับเรื่องร้องเรียนจากชาวประมงพื้นบ้านตำบลบางแก้ว ที่ได้รับผลกระทบจากคําสั่งปกครองของจังหวัดให้รื้อถอนแปลงหอยแมลงภู่ เพื่อยื่นอุทธรณ์คําสั่งต่อสำนักงานประมงจังหวัด และศูนย์ดํารงธรรม เพื่อดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของตนจะนำปัญหาของชาวบ้านเข้าไปหารือต่อคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้อง หรือหารือกับทางรัฐบาลใหม่ในอนาคต เพื่อแก้ไขปัญหาและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ด้าน นายบัณฑิต กุลละวณิชย์ ประมง จ.สมุทรสงคราม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “จะตรวจสอบเรื่องก่อนว่าเป็นเช่นไร แล้วจะนำเรียนตามลำดับต่อไป”










กำลังโหลดความคิดเห็น