สมุทรสงคราม - จังหวัดสมุทรสงคราม จัดประมูลทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์ก้านยาว มีผู้ให้ราคาสูงสุดพันธุ์ก้านยาว 1 แสนบาท ส่วนหมอนทอง 5 หมื่นบาท ได้ยอดเงินประมูลรวม 471,000 บาท มอบให้เหล่ากาชาดไว้ช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาส
วันนี้ (23 มิ.ย.) ที่สวนทุเรียนของนายเอกชัย เทียนชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลบ้านปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ได้จัดให้มีการประมูลทุเรียนเพื่อนำรายได้มอบให้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสงคราม โดยมีนายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานในการประมูล มีนายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา นายกรกฏ วงศ์สุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม นายบรรจงศิลป์ วุฒิอุทัย เกษตรจังหวัด และผู้เกี่ยวข้องร่วมงาน มีผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติทุเรียน 3 น้ำ ของนายเอกชัย สนใจเดินทางมาเข้าร่วมประมูลกันเป็นจำนวนมาก
นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า จังหวัดสมุทรสงครามมีพื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมด 137,625 ไร่ มีการปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิดส่วนใหญ่เป็นไม้ผล เช่น มะพร้าว ส้มโอ ลิ้นจี่ และพืชอื่นๆ ในลักษณะการปลูกบนร่องสวนแบบผสมผสาน พืชเหล่านี้ให้ผลผลิตแตกต่างกันในแต่ละปี บางชนิดมีความเสี่ยงที่จะไม่ให้ผลผลิต เนื่องจากปัจจัยด้านสภาพอากาศทำให้เกษตรกรจึงมีความเสี่ยงด้านรายได้ ประกอบกับยังมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่มากสามารถปลูกไม้ผลแซมในสวนหลังบ้านได้ และเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ซึ่งในปัจจุบันทุเรียนกำลังได้รับความนิยมในการบริโภคเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีราคาสูง ซึ่งจังหวัดสมุทรสงครามสามารถปลูกได้และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพดี จึงได้มีการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกทุเรียนมากขึ้น
นายเอกชัย เทียนชัย เจ้าของสวนทุเรียนรายใหญ่ในจังหวัดสมุทรสงคราม บอกว่า ปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทองและพันธุ์ก้านยาวมากว่า 20 ปีแล้ว รวมเกือบ 1,000 ต้น บนพื้นที่ 34 ไร่ เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทองประมาณ 500 ต้น ที่เหลือเป็นพันธุ์ก้านยาว นอกจากจะให้ผลผลิตที่ดีแล้ว รสชาติยังอร่อยเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคทำให้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่คาดว่าจะสร้างรายได้ไม่น้อยไปกว่าส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ และลิ้นจี่พันธุ์ค่อม โดยให้ผลผลิตมากบ้างน้อยบ้างมาหลายปีแล้ว และตนตั้งชื่อว่า “ทุเรียน 3 น้ำ”
เนื่องจากสมุทรสงครามมีทั้งน้ำจืด น้ำเค็ม และน้ำกร่อย ดินจึงมีคุณสมบัติพิเศษทำให้ผลไม้รสชาติดีไม่เหมือนใคร สำหรับปีนี้แม้สภาพอาการจะค่อนข้างร้อนแต่ทุเรียนของตนให้ผลผลิตออกมามากกว่า 150 ต้น รวมประมาณ 1,500 ลูก เป็นเกรดพรีเมียม และเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา สำหรับจังหวัดสมุทรสงครามขณะนี้มีการรวมกลุ่มผู้ปลูกทุเรียน 3 น้ำกว่า 100 ราย รวมพื้นที่ 700 ไร่ ประมาณ 17,000 ต้น
นายเอกชัย บอกว่าวันนี้ตนได้มอบทุเรียนให้นายสมนึก พรหมเขียว ผู้ว่าราชการจังหวัด รวม 13 ลูก เป็นพันธุ์หมอนทอง 8 ลูก และพันธุ์ก้านยาว 5 ลูก แต่ละลูกน้ำหนัก 2-6 กิโลกรัม เพื่อนำไปประมูลในสวนของตน รายได้ทั้งหมดมอบให้สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสงครามเพื่อนำไปช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบภัย ผู้ยากไร้ และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ โดยมีผู้ที่ชื่นชอบในรสชาติทุเรียน 3 น้ำ เดินทางมาร่วมประมูลกันอย่างคึกคัก
ผลปรากฏว่าทุเรียนพันธุ์หมอนทองน้ำหนัก 3.6-6 กิโลกรัม เริ่มประมูลที่ลูกละ 5,000 บาท เคาะราคาครั้งละ 1,000 บาทขึ้นไป ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 55,000 บาท คือ น.ส.สุพัตรา ครุธศิริ อายุ 36 ปี เจ้าของโรมแรมดำเนินพวารีสอร์ท จังหวัดสมุทรสงคราม ส่วนทุเรียนพันธุ์ก้านยาว น้ำหนัก 2.8 กิโลกรัม เริ่มประมูลที่ลูกละ 10,000 บาท เคาะราคาครั้งละ 1,000 บาทขึ้นไปเช่นกัน ผู้ที่ให้ราคาสูงสุด 3 ลูกเป็นเงิน 1 แสนบาท คือ นางธนพรรรณ ศรีสุทธี อายุ 55 ปี เจ้าของคาเฟ่เสน่ห์ทาค่า จังหวัดสมุทรสงคราม
ซึ่งทั้ง น.ส.สุพัตรา และนางธนพรรณ กล่าวว่าการได้รับประทานทุเรียน 3 น้ำ พันธุ์หมอนทองและพันธุ์ก้านยาวของจังหวัดสมุทรสงคราม นอกจากจะได้ความอร่อยที่สุดแล้วยังถือว่าได้ร่วมสร้างบุญกุศล เพราะทางเหล่ากาชาดจังหวัดหากไม่มีการจัดงานกาชาดจะไม่มีรายได้ทางใด ขณะที่ต้องมีภารกิจในการช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหา ผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สำหรับการประมูลทุเรียนครั้งนี้ได้ยอดเงินรวมทั้งสิ้น 471,000 บาท