xs
xsm
sm
md
lg

เปิดงาน "มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู" โดยยกทุเรียนป่าละอู ของดีประจวบฯ มาไว้ในงาน หวังส่งเสริมท่องเที่ยว-สร้างรายได้ให้ชุมชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประจวบคีรีขันธ์ - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดงาน "มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู" ครั้งที่ 10 ซึ่งจัดโดยองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทุเรียนป่าละอู และสร้างรายได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน โดยงานมีขึ้นตั้งแต่วันที่ 19-25 มิถุนายนนี้ ภายในงานเจ้าของสวนผลไม้บอกว่าขายดี

วันนี้ (19 มิ.ย.) ที่ลานอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 10” ระหว่างวันที่ 19-25 มิ.ย. มี นายกิตติพงศ์ สุภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคเอกชน สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ และประชาชนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ตลอดจนนักท่องเที่ยวเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายผลไม้ของดี ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด กล้วย และพืชผักปลอดสาร และผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งยังมีบูททอผ้าของชาวบ้านป่าละอู และการทอผ้าของชาวไทยภูเขากะเหรี่ยง การแสดงศิลปวัฒนธรรม จากโรงเรียนอานันท์

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ได้จัดงานนี้ขึ้นเพื่อนำของดีของตำบลออกมาเผยแพร่โดยเฉพาะผลผลิตทางการเกษตรหลายอย่าง ทั้งเงาะ มังคุด และทุเรียนป่าละอู มีความสำคัญคือได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ตั้งแต่ปี 2554 นำมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคโดยตรงและเป็นทุเรียนที่มีคุณภาพ ทั้งพันธุ์หมอนทองและชะนี จนเป็นที่ยอมรับของผู้ที่ชื่นชอบบริโภคทุเรียน มีเนื้อแห้งเนียนละเอียด กลิ่นอ่อน รสชาติหวานมัน เมล็ดลีบเล็ก ทำให้เนื้อทุเรียนหนา

ซึ่งทุเรียนเป็นผลไม้ที่ต้องการในตลาดต่างประเทศอย่างมาก อีกทั้งการจัดงานยังเป็นการส่งเสริมเกษตรกร เพิ่มช่องทางการตลาดและสร้างรายได้ให้เกษตรกร ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ได้เดินเยี่ยมชมบูทผลผลิตของเกษตรกรที่นำมาจำหน่ายทั้งเงาะ มังคุด และทุเรียนป่าละอูจากสวนต่างๆ พร้อมทั้งชิมทุเรียนพันธุ์หมอนทองด้วยความเอร็ดอร่อย พร้อมยืนยันถึงรสชาติของทุเรียนป่าละอู ว่าเป็นทุเรียนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองในเรืองของรสชาติ และเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวไทย

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีการส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพและยกระดับการผลิตทุเรียนพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในลักษณะของกลุ่มแปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มเกษตรกร ในส่วนของการยกระดับมาตรฐานของสินค้าทุเรียน มีการส่งเสริมควบคู่กับการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียน

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรที่ปลูกทุเรียนต้องรักษาคุณภาพ โดยต้องไม่ตัดทุเรียนอ่อน ที่ผ่านมาได้กำหนดเป็นนโยบายว่าจะไม่ผ่อนปรนเด็ดขาดให้ทุเรียนที่ด้อยคุณภาพ และเน้นย้ำกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯ ว่าอย่าปล่อยปละละเลย ต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ ยังได้มีการเจรจากับประเทศจีน เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการส่งออกทุเรียน และสินค้าอีกหลายชนิด โดยมีการเจรจาเพิ่มเติมในสินค้าอินทผลัมด้วย

นักท่องเที่ยว และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ทราบข่าวต่างพากันเดินทางมาเลือกซื้อผลผลิตทางการเกษตรจากชาวสวนโดยตรง และที่สำคัญคือ ทุเรียนป่าละอู มีการจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 250 บาท นักท่องเที่ยวและผู้ร่วมงานเลือกซื้อไปรับประทานและเป็นของฝาก ซึ่งแต่ละร้านยังบริการแกะใส่กล่องจำหน่าย รวมทั้งผู้บริโภคที่สนใจซื้อแล้วสามารถแกะได้ทันที ซึ่งเจ้าของสวนหลายรายบอกว่าขายดีมากในวันนี้ เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจขึ้นมาถึงป่าละอู ส่วนใหญ่ทุเรียนที่นำมาจำหน่ายมีทั้งหมอนทอง และพันธุ์อื่นๆ เช่น ชะนี พวงมณี และหลงป่าละอู ซึ่งจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 250 บาทเท่านั้น










กำลังโหลดความคิดเห็น