หรอยแหรง “ทุเรียนสาลิกา” ของดีพังงา ราชาทุเรียนบ้านแห่งภาคใต้ รสชาติอร่อยหวานมันเป็นเอกลักษณ์ มี G.I. การันตีในคุณภาพ ซึ่งช่วงนี้กำลังมีผลผลิตออกสู่ท้องตลาด ใครไปเยือนพังงาไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
“ถ้ามาพังงาแล้วไม่ได้กินทุเรียนสากา เหมือนมาไม่ถึงเมืองพังงา”
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา หยิบยกคำพูดผู้ชื่นชอบทุเรียนมาเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้ลองลิ้มชิมรสความอร่อยของ “ทุเรียนสาลิกา” ผลไม้อัตลักษณ์ของจังหวัดพังงา ที่มีเครื่องหมาย G.I. การันในคุณภาพ
ทุเรียนสาลิกา หรือที่ชาวบ้านมักเรียกสั้น ๆ ในภาษาท้องถิ่นว่า “เรียนสากา” เป็นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองที่มีรสชาติอร่อย หวาน มีกลิ่นหอม แต่ไม่ฉุน เนื้อเยอะ เมล็ดส่วนใหญ่ลีบ ลักษณะผลค่อนข้างกลม ไส้ในสีสนิม ซึ่งแตกต่างจากทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่น ๆ จนได้รับฉายาว่าเป็น “ราชาทุเรียนบ้านแห่งภาคใต้”
สำหรับชื่อทุเรียน “สาลิกา” นั้น มาจาก “นกสาลิกา” นกสายพันธุ์หนึ่งที่มีลักษณะสีสันสดใส มีเสียงร้องที่ไพเราะ
ทุเรียนสาลิกามีต้นกำเนิดอยู่ในพื้นที่ อ.กะปง จ.พังงา ซึ่งที่นี่เป็นแหล่งแร่และแหล่งน้ำพุร้อนธรรมชาติ ดินในพื้นที่อำเภอกะปงจึงประกอบไปด้วยสารอาหารแร่ธาตุที่เหมาะต่อการปลูกทุเรียนสาลิกา อีกทั้งยังช่วยให้มีผลผลิตคุณภาพดีที่สุดมีรสชาติอร่อย และมีเอกลักษณ์เฉพาะแตกต่างจากทุเรียนสายพันธุ์อื่น ๆ
ด้วยความมีเอกลักษณ์และขึ้นชื่อในเรื่องความอร่อย ทำให้ทุเรียนสาลิกา ได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) จากกรมทรัพย์สินทางปัญญาเมื่อปี 2561 ขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนหลาย ๆ คน ก็มักจะพูดถึงความโดดเด่นของทุเรียนพันธุ์นี้ว่า “ถ้ามาพังงาแล้วไม่ได้กินทุเรียนสากา เหมือนมาไม่ถึงเมืองพังงา”
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผอ. ททท. สำนักงานพังงา เปิดเผยว่า ทุก ๆ ปี ในช่วงตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมไปถึงต้นเดือนกรกฎาคม ทุเรียนสาลิกาจะให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาด ซึ่งจะมีผู้ที่ชื่นชอบในทุเรียนเดินทางเข้ามาในพื้นที่เพื่อมา ชม ชิม ช้อปกันถึงในสวน อีกทั้งยังมีการซื้อขายทางออนไลน์กันอีกเป็นจำนวนมาก โดยราคาล่าสุดในปีนี้ (2566) ขายกันอยู่ที่กิโลกรัมละ 200-300 บาท รวมถึงมีเกษตรกรหลายคนเพิ่มมูลค่าให้ผลผลิตด้วยการเปิดสวนผลไม้ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมกันอีกหลายจุด
นายอุทิศ กล่าวต่อว่า นอกจากทุเรียนสาลิกาแล้ว ยังมีราชินีผลไม้คือ “มังคุดทิพย์พังงา”ก็ออกสู่ตลาดแล้วเช่นเดียวกัน
“ทาง ททท.พังงา ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลผลไม้โดยการทำประชาสัมพันธ์ จุดเช็กอินกินผลไม้ในสวนผลไม้ทั้งสวนทุเรียนสาลิกาและมังคุดทิพย์พังงาของเกษตรกรในพื้นที่ สร้างการรับรู้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในพื้นที่” นายอุทิศกล่าว
สำหรับหนึ่งในสวนผลไม้ที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้สนใจได้เข้ามา ชม ช้อป ชิม ลองลิ้มทุเรียนสาลิกาสด ๆ จากต้นก็คือ “สวนก๋ง” ต.กะปง อ.กะปง ซึ่งเป็นสวนทุเรียนสาลิกาของครอบครัว
ที่ผ่านมาสวนก๋งได้สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยหลายคนบอกว่าเคยสั่งซื้อทุเรียนสาลิกา ออนไลน์ จากทางเพจสวนก๋งเมื่อปีที่แล้ว เมื่อได้กินจึงติดใจในคุณภาพและรสชาติเป็นอย่างมาก จึงได้เดินทางมาเที่ยว-กินทุเรียนที่สวนก๋งแห่งนี้กันแบบถึงที่
นายรณพล ขวัญเซ่ง กำนันตำบลกะปง เจ้าของสวนก๋ง เปิดเผยว่า ทุเรียนสาลิกาของแท้ดั้งเดิมที่ได้รับเครื่องหมาย G.I.จะต้องเป็นของอำเภอกะปงเท่านั้น มีลักษณะผลค่อนข้างกลม เปลือกผลบาง หนามสั้นและค่อนข้างถี่ ผลดิบเปลือกจะมีสีเขียวเข้ม เมื่อผลแก่สีจะอ่อนลงเล็กน้อย และมีสีน้ำตาลอ่อนบริเวณร่องพู เมล็ดภายในส่วนใหญ่จะลีบ ขนาดเล็กเกือบทั้งหมด
นายรณพล อธิยายเพิ่มเติมว่า ทุเรียนสาลิกามีรสชาติหวานมัน และมีความหวานมากกว่าทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่น ๆ เนื้อทุเรียนมีสีเหลือง เนื้อหนา ละเอียด ไม่มีเส้นใย เนื้อแน่น ไม่เละ มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์แต่ไม่ฉุน น้ำหนักต่อผลโดยเฉลี่ยประมาณ 1-2.5 กิโลกรัม
"ที่สำคัญคือทุเรียนสาลิกาพันธุ์ของแท้ดั้งเดิมที่ปลูกในพื้นที่อำเภอกะปง บริเวณตรงกลางแกนเปลือกทุเรียนจะมีสีสนิมแดงทุกผล ซึ่งแตกต่างจากทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองอื่น ๆ สมกับที่ได้รับฉายาว่าเป็น ราชาทุเรียนบ้าน
“หากใครซื้อทุเรียนสาลิกาไปปอกเนื้อกินที่บ้าน ถ้าเจอรอยสีสนิมแดงที่แกน ก็มั่นใจได้เลยว่า ได้กินทุเรียนสาลิกาของแท้จากอำเภอกะปงอย่างแน่นอน” กำนันรณพล กล่าว