“กุ้งก้ามกรามบางแพ” อีกหนึ่งของดีจังหวัดราชบุรี ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI ตอกย้ำคุณภาพความเป็นเมืองหลวงของการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม กรมทรัพย์สินทางปัญญาเผย ทำรายได้เข้าชุมชนกว่าปีละ 2.5 พันล้านบาท
เมื่อวานนี้ (27 มิ.ย.66) นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียน GI “กุ้งก้ามกรามบางแพ” ของจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นกุ้งก้ามกรามที่มีเปลือกสีน้ำเงินมันเงา ก้ามสีน้ำเงินหรือสีครามปนสีทอง เนื้อแน่นเต็มเปลือก เมื่อปรุงสุกจะมีรสชาติหวาน มีมันกุ้งมาก และไม่มีกลิ่นคาว
โดยพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพ ครอบคลุมอำเภอบางแพ อำเภอดำเนินสะดวก และอำเภอโพธาราม ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่ม ลักษณะเป็นดินเหนียวสีเทาเข้มถึงสีดำที่มีเนื้อละเอียดถึงละเอียดมาก เกิดจากการทับถมของตะกอนน้ำจืด น้ำทะเล และน้ำกร่อย รวมถึงบางส่วนเกิดจากตะกอนน้ำพัดพา จึงมีความอุดมสมบูรณ์ของแร่ธาตุและจุลินทรีย์สูง และด้วยลักษณะอากาศที่เย็น ไม่ร้อนจัด ไม่หนาวจัด จึงทำให้พื้นที่เหมาะแก่การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพเป็นอย่างยิ่ง โดยในอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงกุ้งได้ขนานนามให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเมืองหลวงของการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพกว่า 1,122 ราย สามารถสร้างรายได้เฉลี่ยกว่า 2,569,000,000 บาท/ปี ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จของการเลี้ยงกุ้งก้ามกรามบางแพทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพของผลผลิต และผลจากการขึ้นทะเบียน GI คาดว่าจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกุ้งก้ามกรามบางแพได้เพิ่มขึ้น สร้างโอกาสทางการตลาด และช่วยให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งมีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
กุ้งก้ามกรามบางแพ นับเป็นสินค้า GI ลำดับที่ 5 ของจังหวัดราชบุรี ต่อจากสินค้ามะพร้าวน้ำหอมราชบุรี สับปะรดบ้านคา โอ่งมังกรราชบุรี และไชโป้วโพธาราม ที่ได้ขึ้นทะเบียนไปก่อนหน้านี้
นายวุฒิไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับวิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนท้องถิ่นที่มีสินค้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นที่มีคุณลักษณะเฉพาะตามแหล่งภูมิศาสตร์ และเป็นสินค้าที่มีคุณภาพมีชื่อเสียง สามารถขอคำปรึกษาเพื่อยื่นคำขอขึ้นทะเบียน GI ได้ที่ ศูนย์บริการประชาชน ชั้น 3 กรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือสายด่วนกรมทรัพย์สินทางปัญญา โทร. 1368
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือ หรือ GI (Geographical Indication) คือ เครื่องหมายที่ใช้กับสินค้าที่มาจาก แหล่งผลิตที่เฉพาะเจาะจงซึ่งคุณภาพหรือชื่อเสียงของสินค้านั้นๆ เป็นผลมาจากการผลิตในพื้นที่ ดังกล่าว GI จึงเปรียบเสมือนแบรนด์ของท้องถิ่นที่บอกคุณภาพและแหล่งที่มาของสินค้า
ทั้งนี้ ข้อมูลจากประชาสัมพันธ์จังหวัดราชบุรี ระบุว่า มีพื้นที่เลี้ยงกุ้งก้ามกรามรวมกว่า 20,000 ไร่ ผลผลิต 450-500 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี โดยสหกรณ์ประมงบางแพ จำกัด ดำเนินการมาแล้วกว่า 28 ปี มีธุรกิจการเลี้ยงกุ้งเป็นหลัก ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
เริ่มจากเลือกสายพันธุ์กุ้งคัดสรรอย่างดีมีคุณภาพ ต้องผ่านกระบวนการให้กุ้งแข็งแรงก่อนนำมาให้สมาชิกเลี้ยง เพื่อให้ได้อัตรารอดและลดเวลาในการเลี้ยง สมาชิกจะได้กุ้งดีมีคุณภาพ และขั้นตอนกับเลี้ยงกุ้งแม่น้ำขุนจะคัดตัวผู้ตั้งแต่ตัวขนาด 60 กรัม ปล่อยลงบ่อ 1,600 ตัวต่อไร่ ใช้เวลาเลี้ยง 60-70 วัน ขนาด 5-8 ตัวต่อกิโลกรัม
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline
