xs
xsm
sm
md
lg

BCP มั่นใจปิดดีลซื้อ ESSO ฉลุย Q4 นี้ เซ็นก่อสร้าง รง.ผลิตน้ำมัน SAF เสร็จปี 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บางจากลั่นปิดดีลซื้อ ESSO ได้ตามกำหนดช่วงไตรมาส 4/66 มั่นใจไม่ต้องเสนอให้รัฐบาลใหม่อนุมัติอีก จ่อเคาะราคาซื้อหุ้น ESSO ครั้งสุดท้ายกลาง ส.ค.นี้ พร้อมทุ่ม 1 หมื่นล้านบาทผุดโรงงานผลิตน้ำมันอากาศยานยั่งยืน (SAF) ขนาด 1 ล้านลิตรต่อวัน แล้วเสร็จปลายปี 2567

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยความคืบหน้าดีลซื้อหุ้น บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) (ESSO) ว่า บริษัทมั่นใจว่าจะปิดดีลการซื้อหุ้น ESSO ได้ภายในไตรมาส 4/2566 ตามเป้าหมายเดิมที่วางไว้ โดยเชื่อว่าไม่ต้องเสนอให้รัฐบาลใหม่อนุมัติ เพราะขณะนี้บริษัทได้ใบอนุญาตจากกระทรวงพลังงานแล้ว และรอการอนุมัติเกี่ยวกับกฎหมายการแข่งขันทางการค้าจากคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) คาดว่าจะได้คำตอบในช่วงกรกฎาคมนี้


ส่วนการเคาะราคาซื้อหุ้น ESSO ครั้งสุดท้ายน่าจะสรุปได้ช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้ ภายหลังจาก ESSO แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2566 แล้ว หลังจากบริษัทชำระเงินค่าหุ้น ESSO สัดส่วน 65.99% ให้กับ ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. แล้ว หลังจากนั้นบางจากฯ จะทำคำเสนอซื้อหุ้น ESSO ที่เหลือทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นรายย่อยในราคาเดียวกัน

ทั้งนี้ บางจากฯ เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นระหว่างบริษัทกับ ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. เกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญโดยตรงจำนวน 2,283,750,000 หุ้น หรือราว 65.98% ESSO จากผู้ขาย และการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญที่เหลือทั้งหมดใน ESSO เป็นจำนวนไม่เกิน 1,177,108,000 หุ้น คิดเป็น 34.01% ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วทั้งหมด


นายชัยวัฒน์กล่าวต่อไปว่า กลุ่มบริษัทบางจากเดินหน้าก้าวสู่การเป็นผู้นำพลังงานแห่งอนาคต ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel:SAF) จากน้ำมันปรุงอาหารใช้แล้วรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยได้ลงนามในสัญญาก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนระหว่าง บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด กับบริษัท ทีทีซีแอล จำกัด (มหาชน) วันนี้ (28 มิถุนายน 2566)

ทั้งนี้ การก่อสร้างหน่วยผลิตน้ำมัน SAF เป็นการร่วมสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมการบินในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศตามแผนขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) เช่นเมื่อปีที่แล้ว สหรัฐฯ ได้กำหนดกฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อ (Inflation Reduction Act of 2022 - IRA) สร้างแรงจูงใจและสนับสนุนผู้ผลิตด้วยการกำหนดภาษีในการผลิต 1.75 เหรียญสหรัฐต่อแกลลอน ขณะที่ประเทศในทวีปยุโรปมีการใช้มาตรการบังคับให้ผสม SAF ลงไปในน้ำมันอากาศยานทั่วไปในสัดส่วนอย่างน้อย 2% ในปี 2568 และกำหนดให้เพิ่มเป็น 5% ในปี 2573 จนถึงปี 2593 ที่ต้องผสมอยู่ที่ 70% ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็ตั้งเป้าหมายให้เครื่องบินสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่ใช้สนามบินญี่ปุ่นจะต้องมีสัดส่วนการใช้ SAF อยู่ที่ 10% ภายในปี 2573

บริษัท บีเอสจีเอฟ จำกัด (BSGF) เป็นบริษัทร่วมทุนของ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ธนโชค ออยล์ ไลท์ จำกัด เพื่อลงทุนโครงการหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF ในโรงกลั่นน้ำมันบางจาก จะใช้เทคโนโลยีในการปรับสภาพน้ำมันพืชใช้แล้วของบริษัท Desmet ประเทศมาเลเซีย โดยรวบรวมน้ำมันพืชใช้แล้วจากครัวเรือนและภาคธุรกิจผ่านโครงการ “ทอดไม่ทิ้ง” และช่องทางอื่นๆ และเทคโนโลยีกระบวนการกำจัดออกซิเจน ปรับเปลี่ยนโครงสร้างและแตกโมเลกุลด้วยไฮโดรเจนด้วย UOP Ecofining Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เป็นโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสำหรับการผลิตเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืนของบริษัท Honeywell UOP สหรัฐอเมริกา มีกำลังการผลิต 1 ล้านลิตรต่อวัน ใช้งบลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ไตรมาส 4/2567


กำลังโหลดความคิดเห็น