ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ ลั่นปี 66 ผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้น หลังผ่านจุดต่ำสุดในปีก่อน ลุยขายไฟฟ้าป้อนโรงปูนเพิ่มขึ้น 20% ขณะที่ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลดลง หลังจากการปรับปรุง Boiler ลดการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินเป็นขยะ RDF แทน
นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPIPP เปิดเผยว่า ในปี 2566 บริษัทมีผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีก่อน หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยบริษัทยังได้ผลดีจากค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) ที่สูงขึ้น ซึ่งจะชดเชยกับค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ที่ลดลง รวมถึงตั้งเป้าอัตราการใช้กำลังการผลิต (Utilization Rate) ของโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 95% จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 80% จากการปิดซ่อมบำรุงในปี 2565
ในปีนี้มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้โรงปูนซีเมนต์ทีพีไอโพลีนเพิ่มสูงขึ้นราว 20% จากความต้องการใช้ไฟฟ้าของโรงปูนซีเมนต์ที่เพิ่มขึ้น 10-15% รวมทั้งความต้องการใช้ไฟฟ้าจากอีวีที่เข้ามาปรับปรุงในระบบอีกประมาณ 25 เมกะวัตต์ ซึ่งในปีที่แล้วบริษัทได้ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าด้วยการปรับปรุง Boiler เปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินมาเป็นขยะ RDF แทน อีกทั้งต้นทุนราคาเชื้อเพลิงถ่านหินก็ปรับลดลงเมื่อเทียบจากปี 2565 ด้วย
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 แม้ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 66 ค่า Ft จะปรับตัวลง แต่ก็ยังสามารถชดเชย Adder ที่หายไปได้ และคาดว่าทั้งปีค่า Ft โดยเฉลี่ยก็สูงขึ้นกว่าปีก่อน
อย่างไรก็ดี ในปี 2566 บริษัทไม่มีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมแล้ว เนื่องด้วยโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม 2 โครงการ, โครงการโซลาร์รูฟท็อป 1 โครงการ, โครงการพลังงานลม และโครงการต่างๆ รวมกำลังผลิตติดตั้ง 104.43 เมกะวัตต์ จะทยอยจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ในปี 2567-2568 ทั้งหมด
